อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

เรื่องได้คิดจากเด็ก





ชายชราคนหนึ่ง เดินอยู่ชายหาด ในขณะนั้น

ได้เห็นเด็กคนหนึ่งกำลังเอาน้ำละหมาด แล้วก็ร้องไห้ด้วย ชายชราคนนั้น จึงพูดขึ้นว่า “โอ้เจ้าเด็กน้อย อะไรทำให้เธอร้องไห้”

เด็กน้อยนั้นตอบว่า… “ฉันได้อ่านกุรอ่าน พออ่านถึงโองการที่ว่า โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกท่านจงปกป้องตัวของท่านให้พ้นไฟนรก” “ฉันกลัวว่า อัลลอฮ์จะโยนฉันลงไปในนรก” ( ซูเราะห์อัตตะห์รีม โองการที่ 6 )

ชายชราคนนั้นพูดว่า “โอ้เจ้าเด็กน้อย เธอยังไม่มีความผิด เธอไม่ต้องกลัวเธอจะไม่ตกนรก”

เด็กน้อยจึงพูดขึ้นว่า… “โอ้ผู้เฒ่า ท่านเป็นคนมีปัญญามิใช่หรือ ? ท่านไม่เคยเห็นหรือว่า เวลาคนเขาสุมไฟฟืน เพื่อที่จะประกอบอาหารนั้น เขาจะเริ่มสุมไฟด้วยการเอาไม้ชิ้นเล็ก ๆ สุมก่อน แล้วจึงใส่ไม้ท่อนใหญ่”

ชายชราผู้นั้นถึงกับร้องไห้ พลางรำพึงว่า แท้จริงเด็กคนนี้ เขากลัวนรกมากกว่าเราเสียอีก เราจะมีสภาพเป็นอย่างไร? จงพิจารณาดูเถิด โอ้ บรรดาผู้ที่มีปัญญาทั้งหลาย ทำไมจึงยังไม่ร้องไห้ ให้กับตัวของท่าน ที่ท่านได้จำนำมันไว้กับนรกอเวจี ทั้ง ๆ ที่ความตายก็กำลังขี่คอท่านอยู่แล้ว ตลอดจนกูโบร์ ก็คือ สถานที่พำนักของท่าน

"ให้น้ำใจ ไร้น้ำตา ให้เวลา ปัญหาคลี่คลาย"

Credit : muslimchiangmai.net

Islam is my Life  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น