สุราหรือน้ำเมา ถูกขนานนามว่า “แม่แห่งอบายมุข”
ด้วยเหตุที่มันเป็นต้นตอของทุกการกระทำที่น่ารังเกียจ และชั่วช้า
ท่านอันนะสาอีย์ ได้รายงาจากท่านอุสมาน ว่า :พวกท่านจงหลีกห่างสุรา(น้ำเมา)
เพราะสุรานั้นคือ แม่แห่งความชั่วช้าทั้งมวล
ดังที่มีชายคนหนึ่งอยู่ในยุคก่อนหน้าพวกท่าน
เขาเป็นประพฤติธรรมที่เคร่งครัด
ต่อมามีหญิงนางหนึ่งซึ่งมีจริยามารยาทแพรวพราวได้หลุ่มรักชายผู้นี้
นางจึงส่งสาวใช้ไปหานักปฏิบัติธรรมผู้นั้นโดยกล่าวว่า
: พวกเราขอเชิญชวนท่านมาร่วมเป็นสักขีพยานในกิจธุระหนึ่ง
ชายผู้นั้นออกไปพร้อมกับสาวใช้
ครั้นเมื่อบุรุษทรงศิลได้เข้าสู่นิวาสสถานของหญิงผู้เป็นนาย
นางสาวใช้ปิดประตูตามหลังทุกบาน
ไปจวบจนกระทั่งเขาเดินเข้ามาพบกับหญิงผู้นั้นซึ่งมีรูปโฉมสวยงามและสะอาดยิ่งนัก
และ ณ ที่นางยังมีเด็กทารกกับเหยือกสุราอีกด้วย
และแล้วนางก็กล่าวขึ้นว่า : ฉันนมิได้เชิญชวนท่านมาเป็นสักขีพยานหรอก
แต่หากเชื้อเชิญท่านเพื่อร่วมหลับนอนกับฉัน
หรือไม่ท่านก็ต้องดื่มสุรานี้สักแก้วหนึ่ง
หรือไม่เช่นนั้นท่านก็ต้องฆ่าทารกผู้นี้
บุรุษผู้ทรงศิลก็กล่าวขึ้นว่า : ถ้าเช่นนั้นก็ขอให้เธอรินสุราให้ฉันสักแก้วหนึ่งเถิด
ว่าแล้วนางก็รินสุราให้ผู้ทรงศิล
เมื่อสุราเข้าปาก ความติดใจในรสชาติก็ทำให้บุรุษผู้ทรงศิลต้องขอให้นางรินสุราเพิ่มอีก
จอกแล้วจอกเล่า จนเมื่อขาดสติและเกิดความเมามายในรสชาติของสุรา
บุรุษผู้ทรงศิลก็ถึงคราบะแตก และร่วมสังวาสกับกับหญิงนางนั้น
อีกทั้งยังได้ฆ่าชีวิตอันบริสุทธิ์ของทารก
ฉะนั้นพวกท่านพึงหลีกห่างจากสุราเถิด
ขอสาบานต่อพระองค์อัลลอฮฺ
ความศรัทธาย่อมมิอาจอยู่ร่วมกับการเสพสุรา
นอกเสียจากหนึ่งในสองประการนั้นจะนำพาให้ผู้นั้นหลุดออกไปในที่สุด”
(จาก “ตัฟสีรฺ ศ็อฟวะห์ อัตตะฟฟาสีรฺ 1/143)
...................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น