อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

อย่าฟันธงหรือชีชัดว่ามุสลิมคนใดจะได้รับสวรรค์หรือนรก


     ชาวอะฮฺสุนนะฮฺจะไม่ฟันธง หรือชี้ชัดลงไปว่าคนหนึ่งคนใดจะได้รับสวรรค์หรือนรก นอกจากบุคคลที่ถูกชี้ชัดเอาไว้ด้วยวาจาของท่านรสูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม หวังดีต่อทุกคนที่ทำความดีและเกรงกลัวในผลร้ายที่จะประสบต่อผู้กระทำชั่ว

และไม่อนุญาตให้เรียกแทนชื่อผู้ตายด้วยคำว่า “อัลมัรหูม” หรือ “อัลมัฆฟุร ละฮุ” เพราะถ่อยคำเหล่านี้ไม่ใช่ดุอาอ์ แต่มันแสดงถึงการตัดสินหนือชีชัดในเรื่องของอัลลอฮฺโดยปราศจากความรู้ ฉะนั้นที่ถูกต้องควรกล่าวถึงผู้ตายด้วยถ่อยคำในรูปของดุอาอ์ เช่น “ฆ็อฟฟะร็อลลอฮฺ ละฮุ” (ขออัลลอฮฺทรงโปรดอภัยแก่เขา) หรือ “ร่อหิมะฮุลลอฮฺ” (ขออัลลอฮฺทรงเมตตาแก่เขา” ทำนองเดียวกันไม่อนุญาตให้เรียกผู้ที่ถูกฆ่าตายว่า “ชะฮีด” แต่ควรกล่าวเป็นดุอาอ์ว่า “นัชอะลุลลอฮฺ ละฮุชชะฮาดะฮฺ” (ขออัลลอฮฺทรงประทานตำแหน่งชะฮีดแก่เขาด้วยเถิด)

ชาวอะฮฺลุสสุนนะฮฺมีความเชื่อมั่นว่าสวรรค์มิได้เป็นอภิสิทธิ์ของบุคคลหนึ่งบุคคลใด แม้นตัวเขาได้ประกอบความดีงามมากมายก็ตาม แต่ทั้งนี้ทุกอย่างล้วนเป็นไปด้วยความเมตตาของอัลลอฮฺต่างหาก ซึ่งด้วยความเมตตาดังกล่าวเท่านั้นที่สามารถนำพาเข้าสู่สวรรค์ได้

พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

 وَلَوْلَا فَضْلُ اللَّهِ عَلَيْكُمْ وَرَحْمَتُهُ مَا زَكَىٰ مِنكُم مِّنْ أَحَدٍ أَبَدًا وَلَٰكِنَّ اللَّهَ يُزَكِّي مَن يَشَاءُ وَاللَّهُ سَمِيعٌ عَلِيمٌ ( 21 ) อัน-นูร - Ayaa 21

" และหากมิใช่ความโปรดปรานของอัลลอฮ์แก่พวกเจ้า และความเมตตาของพระองค์แล้ว ก็จะไม่มีผู้ใดเลยหมู่พวกเจ้าบริสุทธิ์ แต่อัลลอฮ์ทรงให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์บริสุทธิ์ และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงได้ยินผู้ทรงรอบรู้"
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺ อันนูร 21)

ท่านรสูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ไม่มีบุคคลใดที่การงานของพวกเขาจะพาเข้าสวรรค์ได้ เศาะหาบะฮฺถามว่า : รวมถึงตัวท่านเองด้วยหรือ? ท่านตอบว่า “ใช่ รวมถึงฉันด้วย เว้นแต่องค์อภิบาลจะทรงแผ่คลุมความเมตตาของพระองค์ปกคลุมฉัน” (บันทึกโยมุสลิม)

 والله أعلم بالصواب

.....................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น