การปฏิญาณตน หรือการกล่าว อัชฮะดุอันลาอิลา
ฮะอิ้ลลัลลอฮฺ ว่าอัชฮะดุอันน่ะมูฮัมมะดัรรอสูลุลลอฮฺ เพียงอย่างเดียวนั้น
ยังไม่เพียงพอที่จะชี้ชัดว่าเขาคือคนอีหม่าน
พระองค์อัลลอฮ์ ศุบอานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
قَالَتِ الْأَعْرَابُ آمَنَّا قُل لَّمْ تُؤْمِنُوا وَلَٰكِن قُولُوا أَسْلَمْنَا ( 14 ) อัล-หุญุรอต - Ayaa 14
"อาหรับชาวชนบทกล่าวว่า เราศรัทธาแล้ว จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดว่า พวกท่านยังมิได้ศรัทธา แต่จงกล่าวเถิดว่า เราเข้ารับอิสลามแล้ว" (อัลกุรอานสูเราะฮฺอัล-หุญุรอต 49: 14)
การกล่าวปฏิญาณตนนั้น
จึงเป็นเพียงการบ่งบอกว่าเขาคือผู้น้อมรับอิสลาม หรือเป็นมุสลิมเท่านั้น
ซึ่งได้รับสิทธิชอบธรรมตามข้อกำหนดของอิสลาม
รายงานจากท่านอบีฮุร็อยเราะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ
เล่าว่า ท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ฉันถูกใช้ให้สู้รบกับผู้ทำลายอิสลาม จนกว่าเขาจะปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรแก่การสักการะนอกจากอัลลออฮฺ พวกเขาศรัทธาต่อฉัน และสิ่งที่ฉันนำมา แต่เมื่อเขากล่าวคำนี้แล้ว เลือดของพวกเขา ทรัพย์สินของพวกเขาก็เป็นที่ต้องห้ามแก่ฉัน นอกจากสิทธิอันชอบธรรมแห่งอิสลามและบัญชีพวกเขา อยู่ ณ ที่อัลลอฮฺ” (บันทึกหะดิษโดยอิมามมุสลิม เลขที่ 31)
และแม้ว่าบุคคลที่กล่าวปฏิญาณตนน้อมรับอิสลามแล้ว
จะได้สิทธิ หรือสถานะความเป็นมุสลิมก็ตาม แต่การถือว่าเขาเป็นผู้ศรัทธา
หรือเป็นมุอ์มินนั้นยังต้องขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของเขาด้วย
ในกรณีที่เขาผู้นั้นละเลยข้อกำหนดศาสนา
หรือกระทำสิ่งที่ฝ่าฝืนข้อบัญญัติของศาสนาอยู่ เขาจะยังไม่ถูกเรียกว่า “มุอ์มิน” หากแต่เขาเป็น “มุสลิมอาศีย์” หรือมุสลิมที่ประพฤติชั่ว
รายงานจากท่านอิบุนุอับบาส ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ
เล่าว่า ท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“คนที่เป็นมุอ์มินเขาจะไม่ละเมิดประเวณีในขณะที่เขาเป็นมุอ์มิน คนที่เป็นมุอ์มินจะไม่ลักขโมยในขณะที่เขาเป็นมุอ์มิน”(บันทึกหะดิษโดยอิมามบุคอรีย์ เลขที่ 6284)
والله أعلى وأعلم
...................
...................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น