อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

การมอบหมายต่อพระองค์อัลลอฮฺอย่างแท้จริง


ท่านอิบนุ อัลเญาซีย์ ได้รายงานจากท่านอุมัรฺ  อินุคอฏฏ็อบ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ ว่า

วันหนึ่งท่านอุมัร ได้พบกลุมชนหนึ่งที่ไม่ประกอบสัมมาอาชีพ

 ได้แต่นั่งๆนอนๆงอมืองอเท้าโดยไม่ทำมาหากินแต่อย่างใด

 ท่านอุมัรได้กล่าวถามว่า : พวกท่านเป็นอะไรกัน ถึงได้ไม่ทำมาหากิน

 พวกนั้นตอบว่า : พวกเราเป็นผู้ที่มอบหมายต่อพระองค์อัลลอฮฺ

เมื่อได้รับคำตอบเช่นนั้นท่านอุมัรก็ไม่พอใจเป็นอันมาก

จึงกล่าวสวนทันควันว่า : พวกท่านโกหก!

 อันที่จริงแล้ว ผู้ที่มอบหมายต่อพระองค์อัลลอฮฺ นั้นหมายถึง บุคคลที่หว่านเมล็ดพืชลงสู่พื้นดิน

แล้วเขาจึงมอบหมายต่อพระองค์อัลลอฮฺ

 ฉะนั้นคนหนึ่งในหมู่พวกท่านจงอย่านั่งงอมืองอเท้าจากการหาปัจจัยยังชีพ

 และได้แต่พร่ำบ่นว่า โอ้ พระองค์อัลลอฮฺ ขอพระองค์ได้ประทานปัจจัยยังชีพให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด.

ทั้งที่เขารู้แก่ใจว่า ท้องฟ้านั้นมิได้หลั่งฝนลงมาเป็นเงินเป็นทอง..”

 ท่านอุมัรได้ห้ามปรามเหล่าผู้ยากจนในการที่พวกเขาจะงอมืองอเท้าจากการประกอบอาชีพการงาน

เพียงเพื่อพึ่งพาการบริจาคแต่ประการเดียว

ฉะนั้นมุสลิม ทุกคนจำต้องประกอบอาชีพการงานตามอัตภาพของตนจนสุดความสามารถ

 หลังจากที่ได้ทุ่มเทและมานะ

แล้วก็จงมอบหมายผลที่ได้รับจากการทำงานต่อพระองค์อัลลออฺ”
(จากหนังสือ “ตัรฺบียะตุ้ล เอาลาด 1/142)

...................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น