เมื่ออาดัมกินจากต้เนไม้ที่ต้องห้ามนั้้น อัลลอฮฺก็ได้ทรงทดสอบเขาทั้งสองด้วยกับ 10 ประการคือ
1. อัลลอฮฺทรงตำหนิคนทั้งสองเป็ฯการเฉพาะ ดังที่พระองค์ตรัสว่า : [ข้ามิได้ห้ามเจ้าทั้งสองเกี่ยวกับต้นไม้นั้นดอกหรือ และข้ามิได้กล่าวแก่เจ้าทั้งสองดอกหรือว่า แท้จริงชัยฏอนนั้นคือศัตรูที่ชัดแจ้งแก่เจ้าทั้งสอง]
(อัลกุรอาน 7 : 22)
2. เป็ฯการประจานความผิด ในสิ่งที่เขาทั้งสองฝ่าฝืนต่อพระผู้เป็นเจ้ากระทำความผิด โดยกินจากต้นไม้นั้น ดังนั้นพระองค์จึงทำให้สิ่งที่พึงสงวนของขาทั้งสองถูกเปิดเผยขึ้น จากที่เคยห่มเครื่องอาภรณ์สวรรค์คอยปกปิดร่างกาย : [ดังนั้นเขาทั้งสองจึงกินจากต้นไม้นั้น สิ่งพึงสงวนของทั้งสองจึงถูกเผยแ่ก่เขาทั้งสอง เขาทั้งสองจึงเริ่มเอาใบไม้ของสวนนั้นปกปิดบนตัวของเขาทั้งสอง]
(อัลกุรอาน 20 : 121)
3. ทั้งสองถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ ดังที่พระองค์ตรัสว่า : [เจ้าทั้งสองจงออกไปจากสวนสวรรค์ทั้งหมด]
(อัลกุรอาน 20 : 123)
4. เขาทั้งสองต้องพลัดพรากแยกออกจากกันเป็ฯเวลานานา อาดัมไปอยู่ที่อินเดียว ส่วนเฮาวาอ์ไปอยู่ที่ญิดดะฮ์ จนกระทั่งมาพบกันอีกครั้งที่ทุ่งอาราฟัต
5. ลูกหลานของเขาทั้งสองต้องกลับมาเป็นศัตรูกันเสียเอง ดังที่พระองค์ตรัสว่า : [เจ้าทั้งสองจงออกไปจากสวนสวรรค์ทั้งหมด โดยบางคน (ลูกหลาน) ในหมู่พวกเจ้าเป็นศัตรูกับอีกบางคน]
(อัลกุรอาน 20 : 123)
คือ อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสแก่อาดัมและเฮาวาอ์ว่า เจ้าทั้งสองออกไปจากสวนสวรรค์ไปยังแผ่นดิน โดยไปอยู่ร่วมกัน บางคนในหมู่ลูกหลานของเจ้าทั้งสองก็จะเป็นศัตรูต่อกัน เพราะการแสวงหาปัจจัุยยังชีพ การมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน และความต้องการที่ตแกต่างกัน พระองค์ตรัสว่า : [บางส่วนของพวกเจ้าเป็นศัตรูกับอีกบางส่วน]
6. เรียกอาดัมอย่างชัดเจนว่า ผู้ฝ่าฝืน : [และอาดัมได้ฝ่าฝืนพระผู้อภิบาลของเขา เขาจึงหลงผิด]
(อัลกุรอาน 20 : 121)
คือ เขาได้ฝ่าฝืนในคำสั่งของพระองค์ด้วยการกินจากต้นไม่ที่พระองค์ทรงห้ามนั้น
7. ศัตรูได้ครอบงำต่อลูกหลานอาดัม ดังที่พระองค์ตรัสว่า : [และเจ้า (อิบลีส) จงยั่วยวนผู้ที่เจ้าสามารถทำให้เขาหลงในหมู่พวกเขาด้วยเสียงของเจ้า และชัดชวนพวกเขาให้เห็นพ้องด้วย ด้วยม้าของเจ้าและด้วยเท้าของเจ้า และจงร่วมกับพวกเขาในทรัพย์สินและลูกหลาน และจงให้สัญญากับพวกเขา และชัยฏอนมิได้ให้สัญญาใด ๆ แก่พวกเขา เว้นแต่เป็นการหลอกลวงเท่านั้น]
(อัลกุรอาน 17 : 64)
[ด้วยเสียงของเจ้า] คือล่อลวงให้เขาหลง อิบนุอับบาส กล่าวว่า ด้วยเสียงของมันคือการเรียกร้องเชิญชวนของมันทุกอยางที่จะนำไปสู่การฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ (ซูบฮานะฮูวะตะอาลา) มุญาฮิด กล่าวว่า เสียงของมันคือ เสียงเพลง เสียงดนตรี และการละเล่นต่าง ๆ
[ด้วยม้าของเจ้าและด้วยเท้าของเจ้า] คือการชักชวนของมันพร้อมด้วยลูกน้องและสมััครพรรคพวกของมัน จะโดยทางยานพาหนะหรือการเดินด้วยเท้่าก็ตาม
[และจงร่วมกับพวกเขาในทรัพย์สินและลูกหลาน] คือ การร่วมกับพวกเขา ซึ่งหมายถึงมนุษย์ คือเป็นหุ้นส่วนกับพวกเขาในทรัพย์สิน สนับสนุนให้เขาแสวงหาอาชีพในทางทุจริตในทางหะรอม และใช้จ่ายไปในทางสิ่งที่เป็นฝ่าฝืนต่อพระผู้เป็นเจ้า ส่วนการเป็นหุ้นส่วนในลูกหลานก็คือ สนับสนุนให้มีการสังคมที่ปะปนกันระหว่างชายกับหญิง จนกระทั่งนำไปสู่การกระทำที่ไม่ถูกต้องตามศาสนบัญญัติ และเกิดลูกหลานจากการทำซินามากขึ้น
8. พระองค์ทรงทำให้โลกดุนยาเป็นคุกคุมขังอาดัมและลูกหลานของเขา อิบรอฮีม อิบนิ อัดฮัม กล่าวว่า : แน่นอนท่านได้มอบมรดกการกินนี้ให้กับพวกเขา ซึ่งมันคือความเศร้าโศกอันยาวนาน
9. ประสบกับชะตากรรมความยากลำบาก พระองค์ตรัสว่า : [โอ้ อาดัมเอ๋ย ! แท้จริงนี่คือศัตรูของเจ้าและของภรรยาของเจ้า ดังนั้นอย่าให้มันทำให้เจ้าทั้งสองออกจากสวนสวรรค์ แล้วเจ้าจะได้รับความยากลำบาก]
(อัลกุรอาน 20 : 117)
10. พระองค์ได้ทรงทำให้หนังของเขามีความบอบบาง เพื่อให้เหมาะกับสภาพการณ์ความมืดมัว หลังจากที่เขาเคยมีหนังห่อหุ้มร่างกายอันแข็งแกร่ง ประดุจดังเล็บที่แข็งแกร่ง แต่พระองค์ทรงให้เขาคงเหลือไว้ซึ่งความสามารถอย่างง่าย ๆ บนปลายนิ้วของเขาเพื่อที่เขาจะได้ระลึกถึงยามแรกแห่งชีวิตทีสุขสบาย
(ตอนต่อไป....สวรรค์สถานพำนักของอาดัมนั้นอยู่ที่ไหน?, .....การขออภัยโทษของอาดัม,....อาดัมร้องไห้)
....................................
(จากหนังสือ : เรื่องเล่ากุรอาน เล่ม 1)
อดทน เพื่อชัยชนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น