อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

ความประเสริฐของการละหมาดคนตาย การส่งศพ และข้อปฏิบัติบางประการ



ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุได้กล่าวว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ว่าท่านได้กล่าวว่า

«مَنْ شَهِدَ الجَنَازَةَ حَتَّى يُصَلَّى عَلَيْهَا فَلَهُ قِيْرَاطٌ، وَمَنْ شَهِدَهَا حَتَّى تُدْفَنَ فَلَهُ قِيْرَاطَان. قِيْلَ: وَمَا القِيْراطَان؟ قَالَ: مِثْلَ الجَبَلَيْنِ العَظِيْمَيْنِ» [متفق عليه]

“ผู้ใดอยู่ร่วมกับคนตายจนเขาถูกละหมาดให้ เขาจะได้ 1 กีรอฏ และผู้ใดอยู่ร่วมกับคนตายจนเขาถูกฝัง เขาจะได้ 2 กีรอฏ มีคนกล่าวว่า “และกีรอฏคืออันใดหรือ?” ท่านกล่าวตอบว่า “เหมือนภูเขามหึมา 2 ลูก”” บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺและมุสลิม

ท่านบะรออ์ บินอาซิบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
«أَمَرَنا رَسُوْلُ اللهِ ﷺ  بِسَبْعٍ: بِعِيَادَةِ المَرِيْض، واتِبَاعِ الجَنَائِز، وَتَشْمِيْتِ العَاطِس وَنَصْرِ الضَعِيْفِ وَعَوْنِ المَظْلومِ وإِفْشَاءِ السَّلامِ وإِبْرارِ المُقْسَم» [متفق عليه]
“ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กำชับใช้เราปฏิบัติ 7 ประการ คือ เยี่ยมเยียนคนป่วย ตามไปส่งคนตาย กล่าวตัชมัตให้คนจาม ช่วยเหลือคนอ่อนแอ ช่วยเหลือคนโดนรังแก กล่าวสลามให้แพร่หลาย และทำตามคำสาบานของผู้สาบาน” บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ และมุสลิม
(ความหมายของคำว่า ตัชมีตให้คนจาม คือ ให้กล่าว ยัรหะมุกัลลอฮฺ และคำว่า อิบรอรมุกสิม (ในหะดีษ) คือ ให้เราทำในที่ผู้สาบานได้สาบานไว้ เพื่อให้เขาเป็นคนรักษาคำสาบาน)

ท่านอบู สะอีด อัล-คุดรียฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุได้รายงานถึงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ว่าท่านได้กล่าวว่า
«إِذَا رَأَيْتُمْ الجَنَازَةَ فَقُوْمُوا، فَمَنْ تَبِعَها فَلا يَقْعُدْ حَتَى تُوْضَعَ» [أخرجه البخاري]
“เมื่อพวกท่านเห็นคนตาย ก็จงยืนขึ้น แล้วผู้ใดที่เขาตามไปส่งคนตาย เขาก็จงอย่าได้นั่งจนกว่า(คนตาย)เขาจะถูกฝัง” บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ


ท่านอุมมุ อะฏียะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ได้กล่าวว่า
نُهِيْنَا عَنْ اتِّبَاعِ الجَنَائِزِ وَلَمْ يَعْزِمْ عَلَيْنَا. [أخرجه البخاري]
“พวกเรา(ผู้หญิง)ถูกห้ามมิให้ตามไปส่งคนตาย ท่านไม่ได้กำชับแก่พวกเรา” บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ

อธิบาย
การเดินไปส่งคนตายจนถึงฝังเสร็จเป็นเรื่องที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม สนับสนุนให้ผู้ชายทำ ไม่ใช่ผู้หญิง และท่านได้บอกว่าผู้ที่ตามไปส่งคนตายเขาจะได้รางวัลที่ใหญ่โตเท่าภูเขาลูกมหึมา และท่านได้ชี้แนะถึงผู้ที่ตามไปส่งคนตายไม่ให้นั่งจนกว่าจะฝังเสร็จ

ประโยชน์ที่ได้รับ
การตามไปส่งคนตายถือเป็นสุนนะฮฺประการหนึ่ง
ความมหาศาลของผลบุญของผู้ทำตามเรื่องดังกล่าว
เป็นสุนนะฮฺสำหรับผู้ตามไปส่งคนตายไม่ให้เขานั่งจนกว่าจะฝังเสร็จ
ห้ามผู้หญิงเดินตามไปส่งคนตาย

والله أعلم بالصواب

.......................
ดร.รอชิด บิน หุเสน อัล-อับดุลกะรีม

แปลโดย : สะอัด วารีย์
ตรวจทานโดย : ฟัยซอล อับดุลฮาดี
ที่มา : หนังสือ อัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ, เว็บ al-islam.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น