อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

อนุญาตการร้องไห้ให้คนตาย ตราบใดที่ไม่ตีโพยตีพาย ไม่แสดงการขุ่นเคือง



ท่านอนัส บิน มาลิก เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า

دَخَلْنَا عَىَั أَبِيْ سَيْفِ القَيْن - وَكَانَ ظِئْراً لِإِبْراهِيْمَ عليه السلام - (أيْ: زَوْجَ مُرْضِعَتِهِ) فَأَخَذَ رَسُوْلُ اللهِﷺ إِبْرَاهِيْمَ فَقَبَّلَهُ وَشَمَّهُ، ثُمَّ دَخَلْناَ عَلَيْه بَعْدَ ذَلِك - وَإِبراهِيْم يَجُوْدُ بِنَفْسِهِ فَجَعَلَتْ عَيْنَا رَسُوْلِ اللهِ ﷺ تَذْرِفَان، فَقَالَ عَبْدُ الرَحْمن بنُ عَوْف:وَأَنْتَ يَا رَسُوْلَ اللهِ؟! فَقَالَ: «يَا ابْنَ عَوْف إِنَّهَا رَحْمَةٌ»، ثُمَّ أَتْبَعَهَا بِأُخْرَى (أيْ: بِدَمْعَةٍ أُخْرى) فقال ﷺ  : «إِنَّ العَيْنَ تَدْمَعُ وَالقَلْبُ يَحْزَنُ وَلَا نَقُوْلُ إِلَّا مَا يَرْضَى رَبُّنَا، وَإَنَّا لَفِرَاقُكَ يَا إِبْراهِيْمَ لَمَحْزُوْنُوْنَ» [أخرجه البخاري[

“เราได้เข้าไปยัง(บ้าน)อบู สัยฟ์ อัล-ก็อยน์ –เขาเป็นสามีของแม่นมอิบรอฮีม บุตรชายของท่านนบีที่เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก- แล้วท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็ได้อุ้มอิบรอฮีม จูบและหอมเขา แล้วจากนั้นเราก็ได้เข้าไปหาท่าน และอิบรอฮีมนั้นดูน่ารักน่าเอ็นดู แล้วดวงตาทั้งสองของท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะสัลลัม ก็มีน้ำตาไหลออกมา แล้วท่านอับดุรเราะหฺมาน บินเอาฟ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ก็ได้พูดว่า “ท่าน(ก็ร้องไห้)ด้วยหรือ? โอ้ เราะสูลุลลอฮฺ” แล้วท่านก็กล่าวตอบว่า “ บุตรของเอาฟฺเอ๋ย มันคือความอาทร” หลังจากนั้นน้ำตาท่านก็ไหลออกมาอีก แล้วท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็กล่าวว่า “แท้จริงดวงตาก็หลั่งน้ำตา และหัวใจก็เศร้าโศก แต่เราก็จะไม่พูดสิ่งใดเว้นแต่ที่ทำให้พระองค์ทรงพอพระทัย และแท้จริงเรากับการจากไปของเจ้า อิบรอฮีมเอ๋ย เราอาดูร”  บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ

ท่านอุสามะฮฺ บินซัยดฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ได้กล่าวว่า
أَرْسَلَتْ بِنْتُ النَّبِيِّ
 ﷺ  إِنّ ابْنِيْ قَدْ احتَضَرَ فَاشْهِدْنا، فَأرْسل يُقْرِئُ السَلَامَ وَيَقُوْلُ: «إِنَّ للهَ مَا أَخَذَ وَلَهُ مَا أَعْطَى وَكُلّ شَيْءٍ عِنْدَهُ بِأَجَلٍ مُسَمَّى، فَلْتَصْبِرْ وَلْتَحْتَسِبْ»، فَأَرْسَلَتْ تُقْسِم عَلَيْه لَيَأْتِيَنَّهَا، فَقَامَ وَمَعَهُ سَعْدُ بْنُ عُبَادَة، وَمُعَاذُ بْنُ جَبَل، وأُبَيُّ بْنُ كَعْب، وَزَيْدُ بْنُ ثَابِت وَرِجَال رَضِيَ اللهُ عَنْهُم، فَرَفَعَ إِلى النَّبِي ﷺ  الصَبِيَّ فَأَقْعَدَهُ فِيْ حُجرِهِ ونَفْسُه تَقَعْقَع، فَفَاضَتْ عَيْناه ﷺ  فَقالَ: سَعْد: يا رسولَ اللهِ ما هذا ؟ قال: «هذِهِ رَحْمَة جَعَلَها اللهُ فِيْ قُلوبِ مَنْ شَاءَ مِنْ عِبَادِه، وَإِنَّما يَرْحَمُ اللهُ مِنْ عِبَادِه الرُحَمَاء» [متفق عليه]
บุตรีของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ส่ง(คน)มาแจ้งว่า “แท้จริงบุตรของฉันใกล้จะสิ้นใจแล้ว ท่านโปรดมาร่วมอยู่กับเรา” แล้วท่านเราะสูลก็ได้ส่ง(คน)ไปกล่าวสลาม และกล่าวว่า “แท้จริงเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺสิ่งที่พระองค์จะเอาไป และเป็นของพระองค์สิ่งที่พระองค์ให้มา และทุกสิ่ง ณ ที่ของพระองค์เป็นไปตามอายุขัยที่ถูกกำหนด ดังนั้นเธอจงอดทนเถิด และจงหวังในผลบุญตอบแทน” แล้วนางก็ได้ส่ง(คน)มาบอกว่านางสาบานว่าท่านต้องมา แล้วท่านก็ได้ลุกออกไปพร้อมกับท่านสะอฺด์ บิน อุบาดะฮฺ ท่านมุอาซ บินญะบัล ท่านอุบัยย์ บิน กะอับ ท่านซัยดฺ บิน ษาบิต และคนอื่นๆ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุม แล้วเด็กก็ถูกอุ้มยกไปให้ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ท่านก็วางเขาไว้บนตักของท่าน และตัวของท่านก็สะอื้น แล้วตาทั้งสองของท่านก็มีน้ำตาไหลรินออกมา แล้วท่านสะอฺด์ก็ได้กล่าวว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ นี่อันใดหรือ?” ท่านกล่าวตอบว่า “มันความความเมตตาที่อัลลอฮฺสร้างมันขึ้นในหัวใจของบ่าวที่พระองค์ทรงประสงค์ และอันที่จริงนั้น อัลลอฮจะทรงเมตตาต่อผู้มีความเมตตาในหมู่บ่าวของพระองค์” บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ และมุสลิม

อธิบาย

การร้องไห้ให้คนตายเพราะความเมตตา และความโศกเศร้านั้นเป็นเรื่องอนุญาตให้กระทำได้ อัลลอฮฺไม่ทรงถือสาเอาความตราบที่ไม่ถึงกับการตีโพยตีพาย และไม่เป็นการแสดงความขุ่นข้องหมองใจต่อกำหนดของอัลลอฮฺ ท่านนบีเองก็ร้องไห้ตอน อิบรอฮีม บุตรชายของท่านเสียชีวิตไป พร้อมกับที่ท่านเองก็มีศรัทธาและพอใจอย่างบริบูรณ์กับเกาะฎออ์และเกาะดัรฺของพระองค์

ประโยชน์ที่ได้รับ
อนุญาตการร้องไห้ให้คนตายที่ไม่ใช่การร้องไห้คร่ำครวญ ตีโพยตีพาย หรือแสดงความขุ่นข้องหมองใจต่อกำหนดของอัลลอฮฺ
แสดงถึงความเมตตา และความอ่อนโยนของท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม

والله أعلم بالصواب

..........................

ดร.รอชิด บิน หุเสน อัล-อับดุลกะรีม
แปลโดย : สะอัด วารีย์
ตรวจทานโดย : ฟัยซอล อับดุลฮาดี
ที่มา : หนังสือ อัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ, เว็บ al-islam.com





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น