อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

อัลกุรอ่านบอกไว้..ให้มนุษย์เข้าใจในเรื่อง "ปวด"



โดย Sukree Ibn Qadir

อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ใน "คัมภีร์อัลกุรอ่าน" ว่า..

" แท้จริงบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อสัญญาณต่างๆ ของเรานั้น เราจะให้พวกเขาเข้าไปในไฟนรก คราใดที่ผิวหนังพวกเขาสุก เราก็เปลี่ยนผิวหนังให้แก่พวกเขาใหม่ซึ่งมิใช่ผิวหนังเดิม เพื่อพวกเขาจะได้ลิ้มรสการลงโทษ แท้จริงอัลลอฮฺ เป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ " (อัลกุรอาน 4:56)

ถ้าเราลองพิจารณาโองการดังกล่าวนี้ดูแล้ว จะพบว่ามีประเด็นที่น่าสนใจยิ่งอยู่ตอนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่วงการวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบันได้มีการค้นคว้าวิจัยต่อยอดไปอย่างกว้างขวาง... นั่นก็คือ "ต่อมรับรู้ความเจ็บปวดที่อยู่บริเวณผิวหนัง"
ดังที่ในโองการข้างต้นความว่า...

"...คราใดที่ผิวหนังพวกเขาสุก เราก็เปลี่ยนผิวหนังให้แก่พวกเขาใหม่ซึ่งมิใช่ผิวหนังเดิม เพื่อพวกเขาจะได้ลิ้มรสการลงโทษ..."

ตรงจุดนี้ สิ่งที่น่าสนใจก็คือว่า ทำไมในโองการดังกล่าวถึงเน้นย้ำและพยายามพูดถึง "ผิวหนัง" ของมนุษย์ว่าจะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับ การลิ้มรส "ความเจ็บปวด" (จากการลงโทษด้วยความร้อนของไฟนรก) ?

ภาพโครงสร้างผิวหนังของมนุษย์ ซึ่งจะมีต่อมรับความรู้สึกเจ็บปวด (pain receptor) ชนิดต่างๆ กระจายอยู่ทั่วๆ ไป (ในรูปนี้ แสดงด้วยสีฟ้า)

..คำตอบของมันก็คือ คัมภีร์อัลกุรอ่าน (ซึ่งเป็นพระดำรัสของพระเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมา) กำลังบอกความลับให้เราได้ทราบว่า "ตำแหน่งของต่อมที่ทำหน้าที่รับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นอยู่ตรงที่ผิวหนังนั่นเอง" (วัลลอฮุอะหฺลัม - พระองค์เท่านั้นที่ทรงรู้ดียิ่งในทุกสิ่ง)
หากว่ากล่าวไปแค่นี้ว่า "ต่อมรับความรู้สึกเจ็บปวดอยู่ที่ผิวหนัง"... แน่นอนว่าจะต้องมีหลายๆ คนรีบแย้งขึ้นมาว่า "เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นเด็กประถม มัธยม หรือเป็นผู้ใหญ่คนใหน ต่างก็รู้กันอยู่แล้วนี่ เพราะมันมีสอนอยู่ในวิชาชีววิทยา หรือวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วๆ ไป"

ครับ... ผมคงไม่แย้งในประเด็นนั้น แต่อยากให้เราลองคิดย้อนกลับไปในมุมกลับกันว่า เนื้อหาที่อัลกุรอ่านบอกกล่าวเอาไว้ในโองการนี้ มันได้ถูกประทานลงมาเป็นระยะเวลาตั้ง 1,400 กว่าปีมาแล้ว !
ซึ่งแน่นอนว่าในขณะนั้น (เมื่อ 1,400 กว่าปีก่อน) มนุษย์ยังไม่มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และไม่มีเครื่องมือที่ทันสมัยเพียงพอ (ที่จะมาช่วยศึกษาเรื่องเหล่านี้) อย่างเช่นที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน..


แสดง "Pain pathway" หรือเส้นทางการรับรู้ความรู้สึกปวดที่เริ้มต้นตั้งแต่บริเวณต่อมใต้ผิวหนังไปจนถึงศูนย์แปลผลที่สมอง

อีกทั้ง ถ้าเราลองศึกษาดูถึงเรื่องประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกไว้ เกี่ยวกับการเริ่มต้นศึกษาและเริ่มค้นพบความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ "สรีระวิทยาของความปวดและโครงสร้างของตัวรับความรู้สึกเจ็บปวด" นั้นมันเพิ่งมาเริ่มเกิดขึ้นในช่วงหลังๆ มานี้เอง โดยกล่าวถึงแค่สมองไว้เป็นสำคัญ และต่อมาก็เริ่มมีการขยายความในรายละเอียดของ "กระบวนการรับรู้ความเจ็บปวดของร่างกาย" มากขึ้นโดยนักปรัชญาผู้มีชื่อเสียงชาวฝรั่งเศษคือ René Descartes ซึ่งเขาเริ่มมีการกล่าวถึงตั้งแต่อวัยวะเริ่มต้นที่ทำหน้าที่รับรู้ความรู้สึกเจ็บปวด (ผิวหนัง) ไปจนถึงตำแหน่งที่มีการแปลผล (สมอง) โดยที่เขาเรียกเส้นทางรับรู้ความรู้สึกนี้ว่า "pain pathway" (ซึ่งในวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบันก็ยังคงใช้คำนี้อยู่เช่นกัน)

..ครับ เรื่องราวความเป็นจริงมากมายเหล่านี้ที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์อัลกุรอ่าน นับว่าเป็นความอัศจรรย์ใจยิ่งและไม่อาจหาคำอธิบายได้สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อว่ามันได้ถูกประทานลงมาจากพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง...

แต่สำหรับ มุสลิม ผู้ศรัทธาในพระเจ้าที่เที่ยงแท้และเชื่อว่าทุกถ้อยคำในคัมภีร์อัลกุรอ่านมาจากพระองค์แล้ว ความอัศจรรย์เหล่านี้อาจไม่ได้มีความสำคัญใดๆ มากไปกว่าความศรัทธาที่เขายิ่งมีมากขึ้น... เพราะแม้พระองค์อัลลอฮฺไม่ได้ให้มนุษย์เห็นความอัศจรรย์ใดๆ ให้ล่องลอยออกมาจากอัลกุรอ่านให้เห็นชัดๆ ด้วยตา แต่หัวใจของเขาก็เฝ้าคิดใคร่ครวญถึงความอัศจรรย์อื่นๆ ที่อยู่รายรอบตัวเขาอยู่แล้ว... ดังที่พระองค์ตรัสไว้ว่า ;

"แท้จริงในการสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และการที่กลางวันและกลางคืนตามหลังกันนั้น แน่นอนมีหลายสัญญาณสำหรับผู้มีปัญญา คือบรรดาผู้ที่รำลึกถึงอัลลอฮ์ ทั้งในสภาพยืน และนั่ง และในสภาพที่นอนตะแคง และพวกเขาพินิจพิจารณากัน (ถึงความน่าอัศจรรย์) ในการสร้างบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดิน (โดยกล่าวว่า) โอ้พระเจ้าของพวกเข้าพระองค์ พระองค์มิได้ทรงสร้างสิ่งนี้มาโดยไร้จุดมุ่งหมายเลย! มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่าน โปรดทรงคุ้มครองพวกข้าพระองค์ให้พ้นจากการลงโทษแห่งไฟนรกด้วยเถิด " (อัลกุรอ่าน ,3 : 190-191.)


........................................................................................
http://anuchamas.blogspot.com/2013/06/blog-post_13.html 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น