อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556

อุมมะตุลวาหิดะฮฺ (ประชาชาติหนึ่งเดียว)



----------------------------------------
ฟะฏีละตุชชัยคฺ ซอลิฮฺ อิบนุ เฟาซาน อัล-เฟาซาน
----------------------------------------

คำถาม : ความหมายของความเป็นเอกภาพคืออะไร ? และหนทางที่จะนำไปสู่ความเป็นเอกภาพมีอะไรบ้าง ?

ฟัตวา : ความเป็นเอกภาพหมายถึง

1.การมีอากีดะฮฺที่ถูกต้องหนึ่งเดียว หลีกห่างจากชิริก อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล กล่าวว่า

وَإِنَّ هَـٰذِهِ أُمَّتُكُمْ أُمَّةً وَاحِدَةً وَأَنَا رَ‌بُّكُمْ فَاتَّقُونِ

และแท้จริงนี้คือประชาชาติของพวกเจ้าซึ่งเป็นประชาชาติเดียวกัน และข้าคือพระเจ้าของพวกเจ้า ดังนั้นจงยำเกรงต่อข้าเถิด
(อัลมุอฺมินูน : 52)

อากีดะฮฺที่ถูกต้องเท่านั้นที่จะนำไปสู่ความเป็นเอกภาพในหัวใจ ลดความบาดหมางที่มีต่อกัน แต่ทว่าในทางตรงกันข้ามอากีดะฮฺที่แตกต่างหลากหลายความเชื่อ และการเชื่อในพระเจ้าจอมปลอมอื่นๆจำนำไปสู่ความโง่เขลา ญะฮิลียะฮฺ ซึ่งประหนึ่งแนวทางที่อัลลอฮฺ อัซซะวะญัลกล่าวว่า

أَأَرْ‌بَابٌ مُّتَفَرِّ‌قُونَ خَيْرٌ‌ أَمِ اللَّـهُ الْوَاحِدُ الْقَهَّارُ‌

พระเจ้าหลายองค์ดีกว่า หรือว่าอัลลอฮฺองค์เดียวผู้ทรงอานุภาพ (ยูซุฟ : 39)

นี้คือเหตุผลที่จะอธิบายว่าทำไมอาหรับในยุคญาฮิลียะฮฺจึงมีความแตกแยกกันอย่างมากมาย อย่างไรก็ตามเมือเข้าสู่ยุคอิสลามพวกท่านเหล่านั้นก็มีอากีดะอฺเดียวกัน มีความเชื่อที่บริสุทธ์ ถูกต้อง มีความเป็นเอกภาพ อัลลอฮฺได้ยกเกียรติพวกเขา มีการปกครองที่เป็นเอกภาพ


2.เอกภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อท่านทั้งหลายเชื่อฟังต่อผู้นำมุสลิม นี้คือสิ่งที่ท่านเราะสูลลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

ฉันขอสั่งแก่ท่านให้ยำเกรงต่ออัลลอฮฺ และจงเชื่อฟังผู้นำแม้ว่าทาสอบิสสิเนียจะถูกเลือกมาให้เป็นผู้นำเหนือพวกท่าน แท้จริงผู้ที่มีชีวิตอยู่หลังจากนี้จะได้พบกับความขัดแย้งอย่างมากมาย..

3. ท่านจงกลับไปสู่อัลกรุอาน สุนนะฮฺ ในเรื่องที่ขัดแย้งกันเพื่อหาช่องทางยุติความขัดแย้ง
อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล กล่าวว่า

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا أَطِيعُوا اللَّـهَ وَأَطِيعُوا الرَّ‌سُولَ وَأُولِي الْأَمْرِ‌ مِنكُمْ
فَإِن تَنَازَعْتُمْ فِي شَيْءٍ فَرُ‌دُّوهُ إِلَى اللَّـهِ وَالرَّ‌سُولِ إِن كُنتُمْ تُؤْمِنُونَ بِاللَّـهِ وَالْيَوْمِ الْآخِرِ‌
ذَٰلِكَ خَيْرٌ‌ وَأَحْسَنُ تَأْوِيلًا

บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ จงเชื่อฟังเราะสูลและบรรดาผู้นำในหมู่พวกเจ้า แต่หากพวกเจ้าขัดแย้งในสิ่งใดจงนำสิ่งนั้นกลับไปยังอัลลอฮฺและเราะสูล หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันอาคิเราะฮฺ นั้นเป็นสิ่งที่ดียิ่ง และเป็นการกลับที่งดงามยิ่ง (อันนิซาอฺ : 59)

4. จงทำในสิ่งที่ถูกต้องและจงประนีประนอมเมื่อมีความขัดแย้งกัน

อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล กล่าวว่า

فَاتَّقُوا اللَّـهَ وَأَصْلِحُوا ذَاتَ بَيْنِكُمْ

ดังนั้นจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด และจงปรับปรุงความสัมพันธ์ในหมู่พวกเจ้า (อัลอัมฟาล : 1)

5. ท่านทั้งหลายจงต่อสู้กับผู้ที่บุกรุก กบถผู้ซึ่งหวังสร้างความแตกแตกในหมู่มุสลิม เพราะหากปล่อยให้พวกเหล่านี้เข้มแข็งพวกเขาจะทำลายอุมมะฮฺอิสลามในที่สุด

อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล กล่าวว่า

فَإِن بَغَتْ إِحْدَاهُمَا عَلَى الْأُخْرَ‌ىٰ فَقَاتِلُوا الَّتِي تَبْغِي

หากหนึ่งในสองฝ่ายละเมิดอีกฝ่ายหนึ่ง เจ้าจงปราบปรามฝ่ายที่ละเมิด (อัลหุญุรอต : 9)

นี้คือเหตุผลที่ท่านอมีรุลมุอฺมินีน อะลี บินอบีตอลิบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ได้ปราบปรามผู้ละเมิด ปราบปรามกลุ่มคอวาริจญ์ นี้คือคุณความดีของท่าน

------------------------------------------------------
------------------------------------------------------

คำถาม : เป็นไปได้หรือไม่ที่จะสร้างเอกภาพท่ามกลางมันฮัจญฺ(แนวทาง)ที่หลากหลาย และมันฮัจญฺ(แนวทาง)แบบใดที่จำเป็นในการสร้างเอกภาพในอุมมะฮฺ

ฟัตวา : เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างความเป็นเอกภาพ ความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันท่ามกลางมันฮัจญฺที่หลากหลาย เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างความเป็นหนึ่งเดียวท่ามกลางสองสิ่งที่เป็นคู่ตรงข้าม

อัลลอฮฺอัซซะวะญัล กล่าวว่า

وَاذْكُرُ‌وا نِعْمَتَ اللَّـهِ عَلَيْكُمْ إِذْ كُنتُمْ أَعْدَاءً فَأَلَّفَ بَيْنَ قُلُوبِكُمْ فَأَصْبَحْتُم بِنِعْمَتِهِ إِخْوَانًا

และจงรำลึกถึงความเมตตาของอัลลอฮฺที่มีแก่พวกเจ้าในขณะที่พวกเจ้าเป็นศัตรูกัน และอัลลอฮฺก็ได้เชื่อมหัวใจของพวกเจ้า แล้วพวกเจ้าก็เป็นพี่น้องกัน (อาลิอิมรอน : 103)

อัลลอฮฺห้ามการแตกแตก อัลลอฮฺสั่งให้มีความเป็นเอกภาพด้วยกับมันฮัจญฺเดียวเท่านั้น อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล กล่าวว่า

أَلَا إِنَّ حِزْبَ اللَّـهِ هُمُ الْمُفْلِحُونَ

แท้จริงสำหรับพรรคของอัลลอฮฺนั้น พวกเขาเหล่านั้นคือผู้ประสบความสำเร็จ (มุญาดาละฮฺ : 22)

وَإِنَّ هَـٰذِهِ أُمَّتُكُمْ أُمَّةً وَاحِدَةً

และแท้จริงนี้เป็นประชาชาติของพวกเจ้าซึ่งเป็นประชาชาติหนึ่งเดียวกัน (มุอฺมินูน : 52 )

การแบ่งพรรคแบ่งพวกออกเป็นหลายๆพรรค หลายๆแนวทาง ไม่ใช่สิ่งที่อิสลามสอนไว้ อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล กล่าวว่า

إِنَّ الَّذِينَ فَرَّ‌قُوا دِينَهُمْ وَكَانُوا شِيَعًا لَّسْتَ مِنْهُمْ فِي شَيْءٍ

แท้จริงพวกเขาเหล่านั้นได้แยกศาสนาของพวกเขาแล้วพวกเขาก็กลายเป็นกลุ่มก้อนต่างๆ เจ้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพวกเขาแต่อย่างใด (อัลอันอาม : 159)

ท่านเราะสูลลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวถึงการแตกแยกของอุมมะฮฺว่า “ทุกกลุ่มจะลงนรก เว้นแต่กลุ่มดียว เศาะหาบะฮฺกล่าวว่า คือกลุ่มใดกัน ท่านตอบว่า คือสิ่งที่ฉันและเศาะหาบะฮฺของฉันเป็นอยู่”

ดังนั้น พวกท่านทั้งพึงทราบเถิดว่าตออีฟะตุลมันซูเราะฮฺ มีเพียงกลุ่มเดียว มีเพียงมันฮัจญฺที่รอดพ้น คือมันฮัจยญฺของท่านเราะสูลลุลลอฮฺและเศาะหาบะฮฺของท่าน มันฮัจญฺอื่นนอกจากนี้คือมันฮัจญฺที่แตกแยกออกไป

อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล กล่าวว่า

وَّإِن تَوَلَّوْا فَإِنَّمَا هُمْ فِي شِقَاقٍ

และหากพวกเขาผินหลัง(ให้มูฮัมมัด) แน่นอนว่าพวกเขาจะแตกแยกกัน (อัลบากอเราะฮฺ : 137)

อิมามมาลิก เราะฮิมาฮุลลอฮฺ กล่าวว่า “คนรุ่นหลังจะไม่อยู่บนความดี เว้นแต่จากคนรุ่นแรก (สลัฟ)”

อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล กล่าวว่า

وَالسَّابِقُونَ الْأَوَّلُونَ مِنَ الْمُهَاجِرِ‌ينَ وَالْأَنصَارِ‌ وَالَّذِينَ اتَّبَعُوهُم بِإِحْسَانٍ رَّ‌ضِيَ اللَّـهُ عَنْهُمْ وَرَ‌ضُوا عَنْهُ وَأَعَدَّ لَهُمْ جَنَّاتٍ تَجْرِ‌ي تَحْتَهَا الْأَنْهَارُ‌ خَالِدِينَ فِيهَا أَبَدًا ۚ ذَٰلِكَ الْفَوْزُ الْعَظِيمُ

และบรรดาบรรพชนผู้อยู่แนวหน้าซึ่งมาจากบรรดามูฮาญีรีนและอันศอร และบรรดาผู้ที่ดำเนินตามแนวทางของพวกเขาเหล่านั้น ด้วยการทำความดี อัลลอฮฺพึงพอใจพวกเขา พวกเขาก็พอใจต่ออัลลอฮฺ และอัลลอฮฺได้เตรียยมสวรรค์ไว้ให้พวกเขา ซึ่งคือสวรรค์ที่มีแม่น้ำไหลผ่านอยู่เบื้องล่าง พวกเขาจะอยู่ในสวรรค์ตลอดกาล นั้นคือความสำเร็จอันสูงสุด (เตาบะฮฺ : 100)

ดังนั้นไม่มีทางอื่นในการสร้างความเป็นเอกภาพ นอกจากการอยู่บนมันฮัจญฺของสลัฟฟุซซอลิหฺ




Refer : Beneficial Answers to Questions On Innovaed Methodoloies No.69 , No.78 Tranlate By อบู อาอิชะฮฺ

ปล.หนังสือเล่มนี้ ชัยคฺ ศอลิหฺ เฟาซาน ตรวจสอบอีกครั้งทั้งในฉบับที่พิมพ์ขายในภาษาอาหรับ และอังกฤษ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น