อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

ยามที่เห็นบุคคลจากแนวทางอะฮฺลุสสุนนะฮฺฯเสมือนกับว่าเห็นเหล่าสาวกของท่านนบี



ชาวสลัฟถือว่าผู้ใดก็ตามที่เกลียดเหล่าสาวกของท่านนบีทั้งหมด ตลอดจนปราชญ์สะลัฟที่ปกป้องสุนนะฮฺ อาธิ ท่านอิมามอะหฺมัด , ท่านอิมามมาลิก บินอนัส , ท่านซุฟยาน อัษเษารีย์ ท่านอินุลมุบาร็อก ฯลฯ บุคคลนั้นคือพวกบิดอะอฺ และผู้ใดรักท่านเหล่านี้ทั้งหมด บุคคลผู้นั้นก็คือชาวสุนนะฮฺ

ท่านฟุฎ็อยลฺ อิบนุอียฺยาฎ ปราชญ์สะลัฟ ได้กล่าวว่า
"ในยามที่ฉันเห็นบุคคลจากแนวทางอะฮฺลุสสุนนะฮฺฯ เสมือนกับว่าฉันเห็นเหล่าสาวกของท่านนบี และยามที่ฉันเห็นบุคคลหนึ่งขากพวกบิดอะฮฺก็เสมือนกับว่าฉันได้เห็นพวกมุนาฟิก ท่านอิมามชาฟิอีย์ก็ได้พูดเช่นนี้โดยใช้สำนวนว่า ในยามที่ฉันเห็นกลุ่มนักปราชญ์หะดิษ มันดูราวกับว่าแันเห็นสาวกของท่านนบียังคงมีชีวิตอยู่" (ชัรฮุสุนนะฮฺ หน้า 133)


ซึ่งพวกบิดอะฮฺลุ่มหลงนั้นพวกเขาจะมีท่าทีต่ออุละมาอ์ที่สนับสนุนอิสลามแตกต่างไป สำหรับพวกชีอะฮฺรอฟิเฎาะฮฺ เขากู่ร้องว่ารักนบี แต่พวกเขาสาปส่งเหล่เศาะหาบะฮฺสาวกของท่านรสูล สถานภาพของพวกชีอะฮฺรอฟิเฎาะฮฺจึงไม่ต่างกับพวกกลับกลอกมุนาฟิก

والله أعلم بالصواب
....................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น