อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ท่านรักอัลลอฮจริงไหม?



การที่เรานับถือศาสนา โดยมีเป้าสูงสุดในชีวิต คือ ความโปรดปรานจากอัลลอฮ ในโลกนี้และโลกหน้า เราไม่ได้นับถือศาสนาเพื่อตามอารมณ์ตนเอง หรือ อารมณ์ของความหลากหลายของคนในดุนยา หรือ เพื่อพวกฟ้องและมัซฮับ เพราะฉะนั้น การแสวงหาความโปรดปรานของอัลลอฮ นั้น เราต้องพยายามแสวงหาแนวทางที่จะทำให้ใกล้ชิดต่อพระองค์ นั้น คือ การปฏิบัติตามสิ่งใดก็ตามที่เป็นสุนนะฮของท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม

قُلْ إِنْ كُنْتُمْ تُحِبُّونَ اللَّهَ فَاتَّبِعُونِي يُحْبِبْكُمُ اللَّهُ وَيَغْفِرْ لَكُمْ ذُنُوبَكُمْ وَاللَّهُ غَفُورٌ رَحِيمٌ

จงประกาศเถิด(โอ้มุหัมหมัด) ว่า “หากพวกท่านรักอัลลอฮ จงปฏิบัติตามฉัน อัลลอฮก็จะรักพวกท่านและอภัยความผิดของพวกท่าน ให้แก่พวกท่าน และอัลลอฮ คือ ผู้ทรงอภัยและเมตตายิ่ง – อาลิอิมรอน/31
ท่านอิบนุกะษีร อธิบายว่า

هَذِهِ الْآيَةُ الْكَرِيمَةُ حَاكِمَةٌ عَلَى كُلِّ مَنِ ادَّعَى مَحَبَّةَ اللَّهِ ، وَلَيْسَ هُوَ عَلَى الطَّرِيقَةِ الْمُحَمَّدِيَّةِ فَإِنَّهُ كَاذِبٌ فِي دَعْوَاهُ فِي نَفْسِ الْأَمْرِ ، حَتَّى يَتَّبِعَ الشَّرْعَ الْمُحَمَّدِيَّ وَالدِّينَ النَّبَوِيَّ فِي جَمِيعِ أَقْوَالِهِ وَأَحْوَالِهِ ، كَمَا ثَبَتَ فِي الصَّحِيحِ عَنْ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَنَّهُ قَالَ : " مَنْ عَمِلَ عَمَلًا لَيْسَ عَلَيْهِ أَمْرُنَا فَهُوَ رَدٌّ

อายะฮอันทรงเกียรตินี้ คือ ผู้ตัดสิน (เอาผิด)บน ทุกๆคน ที่อ้างว่ารักอัลลอฮ โดยที่เขาไม่ได้อยู่บนแนวทางของมุหัมหมัด ,ในความเป็นจริง เขาคือ ผู้กล่าวเท็จในการอ้างของเขา จนกว่า เขาจะเจริญรอยตามบัญญัติแห่งมุหัมหมัด และศาสนาแห่งนบี ในบรรดาคำพูดและการกระทำของเขาทั้งหมด ดังหะดิษที่ยืนยันไว้ในอัศเศาะเฮียะ จากท่านรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ผู้ใดประกอบการงาน(อะมั้ลอิบาดะฉ)ใด ที่ไม่ใช่กิจการของเราบนมัน มันถูกปฏิเสธ”
- ดู ตัฟสีรอิบนุกะษีร เล่ม 2 หน้า 33

عَنِ ابْنِ جُرَيْجٍ قَوْلَهُ : " إِنْ كُنْتُمْ تُحِبُّونَ اللَّهَ فَاتَّبِعُونِي يُحْبِبْكُمُ اللَّهُ ، قَالَ : كَانَ قَوْمٌ يَزْعُمُونَ أَنَّهُمْ يُحِبُّونَ اللَّهَ ، يَقُولُونَ : إِنَّا نَحْبُ رَبَّنَا ! فَأَمَرَهُمُ اللَّهُ أَنْ يَتْبَعُوا مُحَمَّدًا - صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ - ، وَجَعَلَ اتِّبَاعَ مُحَمَّدٍ عَلَمًا لِحُبِّهِ .

จากอิบนุญุรัยญฺ เกี่ยวกับคำตรัสที่ว่า “จงประกาศเถิด(โอ้มุหัมหมัด) ว่า “หากพวกท่านรักอัลลอฮ จงปฏิบัติตามฉัน อัลลอฮก็จะรักพวกท่าน” เขาได้กล่าวว่า “ คนกลุ่มหนึ่ง เข้าใจว่า พวกเขารักอัลลอฮ โดยกล่าวว่า “พวกเรารักพระเจ้าของเรา” ดังนั้นอัลลอฮจึงสั่งให้พวกเขาปฏิบัติตามมุหัมหมัด ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และให้การปฏิบัติตามมุหัมหมัด เป็นเครื่องหมายพิสูจน์ว่า รักพระองค์ – ดู ตัฟสีร อัฏฏอ็บรีย์ เล่ม 6 หน้า 322
...........
จากตัวอย่างข้างต้น เราพยายามที่จะแสวงหาสัจธรรม โดยใช้บรรดาผู้รู้ทั้งยุคก่อนและยุคหลัง เป็นสะพานเชื่อมไปปสู่เป้าคือ ทางนำของอัลลอฮและรอซูล แต่ถ้าเรา ยังยึดติดอยู่กับ คนนั้น คนนี้ มัซฮับนั้น มัซฮับนี้ โดยไม่เปิดให้สติปัญญาได้ตริตรอง เราจะพ บแก่นของศาสนาได้อย่างไร

والله أعلم بالصواب

.......................
อะสัน หมัดอะดั้ม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น