อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ผู้ที่เป็นวาลีย์แต่งงานจะต้องไม่เป็นกาฟิรฺ




เงื่อนไขของการเป็นวาลีนั้น ผู้ที่เป็นวาลีจะต้องไม่เป็นกาฟิร หากเขาเป็นกาฟิร สถานะของความเป็นวาลีก็จะหายไป เรื่องนี้เป็นสิ่งที่บรรดาอุลามาอฺได้มีความเห็นพ้องต้องกัน (อิจมาอฺ) ท่านอิบนฺอัลมุซิรได้กล่าวว่า

وأجمعوا أن الكافر لا يكون وليا لابنته المسلمة
الإجماع ص: 78

ความว่า และบรรดาอุลามาอฺได้เห็นพ้องต้องกันว่า คนกาฟิรจะไม่เป็นวะลีแก่ลูกสาวเขาที่เป็นมุสลิมะห์
แล้วผู้รู้คนนี้ก็ยังกล่าวอีกว่า คนที่จะทำการนิกะห์ให้กับนางได้ต้องเป็นพ่อหรือผู้ที่อำนาจ
สำหรับมุสลิมะห์ใหม่ที่ไม่มีวะลีเป็นมุสลิม ถามว่าใครจะเป็นวะลีให้กับนาง ทางศูนย์ฟัตวาเว็บอิสลามได้ตอบให้กับเราว่า

فإن كانت المرأة مسلمة وليس لها ولي مسلم فيمكن أن يتولى نكاحها قاضي المسلمين إن كانوا في بلد الإسلام، أو جماعة المسلمين إن كانوا في بلاد الكفر، ولها أن توكل عدلا من المسلمين بذلك

ความว่า หากสตรีคนนั้นเป็นมุสลีมะห์และไม่มีวะลีที่เป็นมุสลิมสำหรับนาง ซึ่งกอฎีของคนมุสลิมสามารถทำการนิกะห์ให้ หากพวกเขาอยู่ในประเทศอิสลาม หรือให้กลุ่มคนอิสลาม (ทำการนิกะห์ให้) หากพวกเขาอยู่ประเทศไม่ใช่อิสลาม และนางสามารถมอบมายให้กับคนที่อะดิลจากพี่น้องมุสลิมด้วยกันทำการนิกะห์ให้ (ฟัตวาเลข 59115)

อีกที่หนึ่งกล่าวว่า

فالزواج الشرعي لا بد له من وجود شروط ومن انتفاء موانع، ومن الشروط الولي، فإذا كانت المرأة مسلمة وليس لها ولي مسلم فيمكنها أن توكل رجلا من صالحي المسلمين يتولى عقد نكاحها

ความว่า การแต่งงานที่ถูกต้องนั้นจะต้องครบเงื่อนไขและไม่มีสิ่งต้องห้าม และหนึ่งในเงื่อนไข คือ วะลี เมื่อนางเป็นมุสลีมะห์ และไม่มีวะลีที่เป็นมุสลิม นางสามารถที่จะมอบมายให้กับคนที่ศอลิห์จากพี่อน้องมุสลิมทำการนิกะห์ให้ (ฟัตวาเลข 77890)

และ ณ อีกที่หนึ่ง กล่าวว่า

إن الأصل أن يتولى عقد نكاح المرأة وليها، فإذا لم يكن لها ولي فالسلطان ولي من لا ولي له، وإذا لم يوجد سلطان ولا ولي فإن جماعة المسلمين، ومنها المراكز الإسلامية المتواجدة في الدول غير الإسلامية تقوم مقام القاضي. فإذا لم يكن للمرأة ولي ولا يوجد سلطان فتلك المراكز هي التي ينبغي أن تتولى عقد نكاحها، بل لو وكلت المرأة عدلاً ثقة ليلي عقد نكاحها لكفى ذلك

ความว่า แท้จริงแล้ว เดิมที่การทำการนิกะห์สำหรับสตรีนั้น คือ วะลีของนาง ทว่า หากนางไม่มีวะลี ก็ให้สุลตอน (ผู้นำหรือผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จ) เป็นวะลีของผู้ที่ไม่มีวะลี หากไม่มีสุลตอนและวะลี ก็ให้กลุ่มพี่น้องมุสลิมจัดการได้ และหนึ่งในนั้นคือ ศูนย์อิสลามต่างๆที่มีอยู่ประเทศที่ไม่ได้เป็นมุสลิม แทนที่ก่อฎี หากนางไม่มีวะลี และไม่มีสุลตอน ก็ให้ศูนย์เหล่านั้นเป็นผู้ทำการนิกะห์ให้ ทว่า หากนางมอบมายการนิกะห์นั้นให้กับผู้อะดิลและน่าเชื่อถือ ก็เพียงพอ (ฟัตวาเลข 102872 )

เนื่องด้วยมีผู้รู้ท่านหนึ่งได้ฟัตวาว่า เมื่อมุสลีมะห์ที่เป็นมุอัลลัฟต้องการที่จะแต่งงาน เขาจะต้องขออนุญาติพ่อของเขาก่อน แม้ว่าพ่อของเขาเป็นกาฟิรก็ตาม  คนที่แต่งงานโดยที่พ่อที่เป็นกาฟิรไม่อนุญาติ ถือว่าการแต่งงานนั้นเป็นโมฆะ ไม่เศาะห์

 เชื่อเหลือเกินว่า ผู้รู้ท่านนี้ไม่ค่อยละเอียดในเรื่องของการเป็นวาลี และคงไม่เข้าใจดีในเรื่องนี้ เป็นเหตุให้เขาต้องฟัตวาผิดพลาดไป ทั้งๆหนังสืออิสลามมากมายก็ได้เขียนและบันทึกข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับการเป็นวาลีในเรื่องนี้ อย่างชัดเจนตามที่กล่าวมาข้างต้น

ดังนั้น จึงวอนผู้รู้ทั้งหลาย ให้เปิดใจกว้าง อย่าได้ใช้ความอคติส่วนตัวในการตัดสิน ถึงขั้นเรียกร้องในสิ่งที่ไม่ควรเรียกร้องก็มี เช่น บังคับให้นางรับทัศนะของเขา ทั้งๆที่อิสลามไม่ได้บังคับในเรื่องนี้แต่อย่างใด
มันช่างเศร้าใจนักเมื่อต้องเจอผู้รู้ที่มีความคติส่วนตัวและบังคับคนอื่นให้ตามทัศนะของตัวเอง

ขอให้อัลลอฮฺทรงอภัยให้กับพวกเราทุกคน อามีน


...................................
อาจารย์อิบรอฮิม สือแม







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น