ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สังคมมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การปกครองและวัฒนธรรม ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้มีคนพยายามจะอธิบายว่ามันเกิดขึ้นมาจากการต่อสู้ระหว่างชนชั้นผู้ปกครองและผู้มั่งคั่งกับชนชั้นคนยากจนที่ถูกผู้ปกครองและผู้มั่งคั่งกดขี่ขูดรีด
พูดง่ายๆก็คือ สังคมเปลี่ยนแปลงก็เพราะมนุษย์จำเป็นต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเอง ถ้าสังคมมีคนกลุ่มน้อยที่มั่งคั่งมีกินมีใช้อย่างเหลือเฟือในขณะที่คนยากจนเป็นคนกลุ่มใหญ่ คนยากจนจะหาหนทางเอาความมั่งคั่งของคนกลุ่มน้อยมากระจายในหมู่คนยากจนที่ถูกกดขี่ การต่อสู้ระหว่างชนชั้นนี้เองที่ทำให้สังคมมีการเปลี่ยนแปลง
ความคิดดังกล่าวนี้เป็นต้นกำเนิดของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ถือว่าวิวัฒนาการของสังคมมนุษย์มาจากความต้องการทางวัตถุล้วนๆ ไม่ได้มีเรื่องจิตวิญญาณเข้ามาเกี่ยวข้อง
คาร์ล มาร์กซ์ ผู้เป็นบิดาของลัทธิคอมมิวนิสต์ เกิดใน ค.ศ. 1818 ในสังคมแบบศักดินาที่พัฒนาเป็นลัทธิทุนนิยมแบบกดขี่ขูดรีดแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เขาจะถูกสภาพสังคมหล่อหลอมให้เขาคิดเช่นนั้น
คาร์ล มาร์กซ์ เป็นชาวยิวเยอรมัน และชาวยิวได้ชื่อว่าเป็นชนชาติที่มีความรู้ทางศาสนา นอกจากนี้แล้วเขายังได้เรียนรู้ปรัชญาของเฮเกลผู้ถือว่าโลกถูกสร้างขึ้นมาโดยอำนาจจิตอันยิ่งใหญ่ที่ครอบคลุมจักรวาล
แต่มาร์กซ์ กลับปฏิเสธความคิดเรื่องจิตวิญญาณและถือว่าศาสนาเป็นยาเสพติด
ไม่มีชาวยิวคนใดที่ไม่รู้จักโมเสส ต่อให้โง่เพียงใดก็ตาม เพราะชาวยิวถือว่าโมเสสเป็นวีรบุรุษของพวกตน แต่มาร์กซ์ไม่รู้เลยหรือว่าการต่อสู้ระหว่างโมเสสกับฟาโรห์ทรราชแห่งอาณาจักรไอยคุปต์มิได้เป็นการต่อสู้ทางชนชั้นที่เกิดขึ้นจากความต้องการทางวัตถุแต่ประการใด หากแต่มันเป็นการต่อสู้ระหว่างอำนาจจิตวิญญาณที่มีโมเสสเป็นสัญลักษณ์กับอำนาจทางวัตถุที่มีฟาโรห์เป็นตัวแทน
................................
อาจารย์บรรจง บินกะซัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น