อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

‎คาร์ล‬ มาร์กซ์’จากมุมมองของมุสลิม



ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สังคมมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การปกครองและวัฒนธรรม ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้มีคนพยายามจะอธิบายว่ามันเกิดขึ้นมาจากการต่อสู้ระหว่างชนชั้นผู้ปกครองและผู้มั่งคั่งกับชนชั้นคนยากจนที่ถูกผู้ปกครองและผู้มั่งคั่งกดขี่ขูดรีด

พูดง่ายๆก็คือ สังคมเปลี่ยนแปลงก็เพราะมนุษย์จำเป็นต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเอง ถ้าสังคมมีคนกลุ่มน้อยที่มั่งคั่งมีกินมีใช้อย่างเหลือเฟือในขณะที่คนยากจนเป็นคนกลุ่มใหญ่ คนยากจนจะหาหนทางเอาความมั่งคั่งของคนกลุ่มน้อยมากระจายในหมู่คนยากจนที่ถูกกดขี่ การต่อสู้ระหว่างชนชั้นนี้เองที่ทำให้สังคมมีการเปลี่ยนแปลง

ความคิดดังกล่าวนี้เป็นต้นกำเนิดของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ถือว่าวิวัฒนาการของสังคมมนุษย์มาจากความต้องการทางวัตถุล้วนๆ ไม่ได้มีเรื่องจิตวิญญาณเข้ามาเกี่ยวข้อง

คาร์ล มาร์กซ์ ผู้เป็นบิดาของลัทธิคอมมิวนิสต์ เกิดใน ค.ศ. 1818 ในสังคมแบบศักดินาที่พัฒนาเป็นลัทธิทุนนิยมแบบกดขี่ขูดรีดแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เขาจะถูกสภาพสังคมหล่อหลอมให้เขาคิดเช่นนั้น

คาร์ล มาร์กซ์ เป็นชาวยิวเยอรมัน และชาวยิวได้ชื่อว่าเป็นชนชาติที่มีความรู้ทางศาสนา นอกจากนี้แล้วเขายังได้เรียนรู้ปรัชญาของเฮเกลผู้ถือว่าโลกถูกสร้างขึ้นมาโดยอำนาจจิตอันยิ่งใหญ่ที่ครอบคลุมจักรวาล

แต่มาร์กซ์ กลับปฏิเสธความคิดเรื่องจิตวิญญาณและถือว่าศาสนาเป็นยาเสพติด
ไม่มีชาวยิวคนใดที่ไม่รู้จักโมเสส ต่อให้โง่เพียงใดก็ตาม เพราะชาวยิวถือว่าโมเสสเป็นวีรบุรุษของพวกตน แต่มาร์กซ์ไม่รู้เลยหรือว่าการต่อสู้ระหว่างโมเสสกับฟาโรห์ทรราชแห่งอาณาจักรไอยคุปต์มิได้เป็นการต่อสู้ทางชนชั้นที่เกิดขึ้นจากความต้องการทางวัตถุแต่ประการใด หากแต่มันเป็นการต่อสู้ระหว่างอำนาจจิตวิญญาณที่มีโมเสสเป็นสัญลักษณ์กับอำนาจทางวัตถุที่มีฟาโรห์เป็นตัวแทน


................................
อาจารย์บรรจง บินกะซัน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น