อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การมาถึงของศาสนาทูต มูซา





เนื่องจากความดื้อดึงและดันทุรังของชาวอียิปต์โบราณที่งมงายในความเชื่อของตัวเอง ใครบางคนจึงถูกส่งมายังพวกเขาเพื่อประกาศสาส์นที่ให้ศรัทธาแด่อัลลอฮฺองค์เดียว แต่ประชาชาติของฟิรฺเอาน์ก้มักจะหันกลับไปสู่แนวทางที่ผิดและบิดเบือน

จนในที่สุดอัลลอฮฺก็ได้ส่งมูซาในฐานะที่เป็นศาสนทูตแก่พวกเขา เหตุผลเพราะไม่เฉพาะพวกเขาหลงงมงายกับความเชื่อที่ผิด ซึ่งมีความเชื่อที่ตรงกันข้ามกับศาสนาที่เที่ยงแท้เท่านั้น พวกเขายังนำลูกหลายชาวอิสราเอลมาเป็นทาสอีกด้วย มูซานั้นได้ชี้นำทั้งเชื้อเชิญอย่างสุภาพ ให้ผู้คนหันมานับถือศาสนาที่เที่ยงแท้และปกป้องลูกหลานชาวอิสราเอลจากการเป็นทาสพร้อมทั้งแนะนำแนวทางที่ถูกต้องแก่พวกเขา ในอัล-กุรอานมีกล่าวไว้ว่า

“เราะจะอ่านแก่เจ้าบางส่วนแห่งเรื่องราวของมูซาและฟิรฺเอาน์ด้วยความจริง เพื่อหมู่ชนผู้ศรัทธา

แท้จริง ฟิรฺเอาน์หยิ่งผยองในแผ่นดิน และทำให้ประชาชนนั้นแตกแยกเป็นกลุ่ม ๆ เขาทำให้ชนกลุ่มหนึ่งในพวกเขาอ่อนแอโดยฆ่าลูกหลานผู้ชายของพวกเขาและไว้ชีวิตเหล่าสตรีของพวกเขา แท้จริง เขาเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้บ่อนทำลาย

และเราปรารถนาที่จะให้ความโปรดปรานแก่บรรดาผู้ที่อ่อนแอในแผ่นดิน และเราจะทำให้พวกเขาเป็นหัวหน้า และทำให้พวกเขาเป็นผู้รับมรดกและเราได้ให้พวกเขาครอบครองในแผ่นดิน และเราจะให้ฟิรฺเอาน์และฮามาน ตลอดจนไพร่พลของเขาทั้งสองได้เห็นสิ่งที่พวกเขามีความกลัว” (ซูเราะฮฺ อัล –เกาะศอศ : 3-6)

ฟิรฺเอาน์นั้นต้องการที่จะป้องกันการเพิ่มจำนวนของลูกหลานชาวอิสราเอลโดยการสังหารทารกชายแรกเกิดทุกคน และด้วยพระประสงค์ของอัลลอฮฺ นี่จึงเป็นเหตุผลที่มารดาของมูซาได้นำท่านใส่ในตะกร้าแล้วลอยไปกับแม่น้ำ ซึ่งเป็ฯหนทางที่นำท่านไปสู่พระราชวังของฟิรฺเอาน์ อัล-กุรอานมีกล่าวไว้ดังนี้

“และเราได้ดลใจแก่มารดาของมูซาจงให้นมก่เขา เมื่อเจ้ากลัวแทนเขาก็จงลอยเขาลงไปในแม่น้ำ และเจ้าอย่าได้กลัว และอย่าได้เศร้าโศก แท้จริง เราจะให้เขากลับไปหาเจ้า และเราจะทำให้เขาเป็นหนึ่งในบรรดาศาสนทูต

ดังนั้น บริวารของฟิรฺเอาน์ได้เก็บเขาขึ้นมาเพื่อให้เขากลายเป็นศัตรู และความเศร้าโศกแก่พวกเขา แท้จริง ฟิรฺเอาน์และฮามานและไพร่พลของเขาทั้งสองเป็นพวกที่มีความผิด

และภริยาของฟิรฺเอาน์กล่าวว่า (เขาจะเป็นที่) น่าชื่นชมยินดีแก่ดินฉันและแก่ท่าน อย่าฆ่าเขาเลย บางทีเขาจะเป็นประโยชน์แก่เราหรือเราจะถือเขาเป็นลูก และพวกเขาหารู้สึกตัวไม่” (ซูเราะฮฺ อัล-เกาะศอศ : 7-9)

ราชินีของฟิรฺเอาน์ได้ปกป้องมูซาจากการสังหาร และรับท่านไว้เป็นลูกบุญธรรม มูซาจึงใช้ชีวิตในวัยเด็กของท่านในวังของฟิรฺเอาน์ และด้วยความช่วยเหลือของอัลลอฮฺ มารดาที่แท้จริงของมูซาก็ถูกส่งตัวให้มาเป็นแม่นมแก่ท่าน จนกระทั่งท่านโตเป็นผู้ใหญ่ วันหนี่งท่านก็ได้เห็นชาวอียิปต์คนหนึ่งทรมานเด็กชาวอิสราเอลอย่างโหดร้าย ท่านจึงไปทุบตีชาวอียิปต์คนนั้น ปรากฏว่าชาวอียิปต์คนนั้นเสียชีวิตทันที ถึงแม้ว่ามูซาจะใช้ชีวิตอยู่ในพระราชวังของฟิรฺเอาน์ และเป็นลูกบุญธรรมของราชินี แต่เจ้าผู้ครองเมืองก็ได้ตัดสินลงโทษโดยการประหารชีวิตทาน เมื่อมูซาทราบเรื่อง จึงหลบหนีออกจากอียิปต์ไปอยู่เมืองมัดยัน เมื่อท่านผ่านไปที่เมืองนั้น อัลลอฮฺก็ดำรัสแก่ท่านโดยตรง และแต่งตั้งท่านให้เป็นศาสนทูตและทรงสั่งให้มูซากลับไปหาฟิรฺเอาน์ พร้อมกับถ่ายทอดคำสอนของศาสนาแก่เขา



.................................................
**** ฟิรฺเอาน์ผู้ที่จมอยู่ใต้น้ำ*****
ฮารูน ยะฮฺยา : เขียน
ซากี เริงสมุทร์ และกอมารียะฮ์ อิสมาแอ : แปล
(จากหนังสือ : ประชาชาติที่ถูกทำลาย)
อดทน เพื่อชัยชนะ โพสต์





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น