อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เมื่ออิบนุตัยมียะฮชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทัศนะอบูหะซัน อัลอัชอะรีย์


อิหม่ามอิบนุตัยมียะฮ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
فَمَنْ قَالَ : إنَّ الْأَشْعَرِيَّ كَانَ يَنْفِيهَا وَأَنَّ لَهُ فِي تَأْوِيلِهَا قَوْلَيْنِ : فَقَدْ افْتَرَى عَلَيْهِ ؛ وَلَكِنْ هَذَا فِعْلُ طَائِفَةٍ مِنْ مُتَأَخِّرِي أَصْحَابِهِ كَأَبِي الْمَعَالِي وَنَحْوِهِ ؛ فَإِنَّ هَؤُلَاءِ أَدْخَلُوا فِي مَذْهَبِهِ أَشْيَاءَ مِنْ أُصُولِ الْمُعْتَزِلَةِ
ดังนั้นผู้ใดก็ตามกล่าวว่า แท้จริง (อบูหะซัน)อัลอัชอะรี เขาได้ปฏิเสธมัน( หมายถึงปฏิเสธสิฟัตเคาะบะรียะฮ เช่น คำว่ามือ เป็นต้น) และ (กล่าวว่า)ในการตะวีลมัน เขามีสองทัศนะ (คือ ตัฟวีฎ และตะวีล) แน่นอนเขาผู้นั้น กุความเท็จให้แก่เขา (แก่อบูหะซันอัลอัชอะรี) แต่ว่า สิ่งนี้ คือ การกระทำของคนกลุ่มหนึ่งจากบรรดาศานุศิษย์ของเขารุ่นหลัง เช่น อบีอัลมุอาลา เป็นต้น เพราะแท้จริงพวกเขา ได้นำเอาสิ่งต่างๆจากรากฐานอะกีดะฮมุอตะซิละฮ เข้าในมัซฮับของเขา(ของอบูหะซัน) – อัลฟะตาวา เล่ม 12 หน้า 203
.......
อิบนุตัยมียะฮ ได้บอกว่า อิหม่ามอบูหะซันเอง ไม่ได้ปฏิเสธ ความหมายตามที่ปรากฏตามตัวบท ของบรรดาสิฟัตเคาะบะรียะฮ เช่น คำว่า มือ ,ใบหน้า ,ประทับ, เสด็จลงมา เป็นต้น และความจริง อิหม่ามอบูหะซัน ไม่มีสองทัศนะ คือ การตีความ(ตะวีล) และการมอบหมาย(ตัฎวีฟ) คนที่อ้างที่อ้างว่า อัลอัชอะรีมีสองทัศนะ หมายถึงทัศนะที่ตะวีล และทัศนะที่ตัฎวีฟ คือ คนที่กุความเท็จให้แก่ท่านอบูหะซัน ความจริง คนที่กล่าวว่า มีสองทัศนะข้างต้น คือ บรรดาศานุศิษของเขายุคหลัง เช่น อบีอัลมะอาลา เป็นต้น โดยพวกเขาได้เอาแนวคิดบางประการของมุอฺตะซิละฮมาใส่ในแนวคิด(มัซฮับ)ของท่านอบูหะซัน
ท่านอิบนุตัยมียะฮกล่าวต่อไปว่า
وَأَمَّا الْأَشْعَرِيُّ نَفْسُهُ وَأَئِمَّةُ أَصْحَابِهِ فَلَمْ يَخْتَلِفْ قَوْلُهُمْ فِي إثْبَاتِ الصِّفَاتِ الْخَبَرِيَّةِ وَفِي الرَّدِّ عَلَى مَنْ يَتَأَوَّلُهَا كَمَنْ يَقُولُ : اسْتَوَى بِمَعْنَى اسْتَوْلَى . وَهَذَا مَذْكُورٌ فِي كُتُبِهِ كُلِّهَا كَ " الْمُوجَزِ الْكَبِيرِ
สำหรับ อัลอัชอะรีย์เอง และบรรดาสานุศิษย์ของเขาระดับแนวหน้า ทัศนะของพวกเขาไม่ได้ขัดแย้งกัน ในการรับรอง บรรดาสิฟัตเคาะบะรียะฮ และ(ไม่ได้ขัดแย้งกัน)ในการคัดค้านผู้ที่ตีความมัน เช่น ผู้ที่กล่าวว่า คำว่า “อิสติวาอฺ หมายถึง การครอบครอง เป็นต้น และนี้คือ ที่ถูกระบุไว้ในบรรดาตำราของเขา (ของอบูหะซัน อัลอัชอะรีย) ทั้งหมด เช่น หนังสือ อัลมูญิซ อัลกะบีร...
– อัลฟะตาวา เล่ม 12 หน้า 203
…………….
การชี้แจงข้อเท็จจริงของอิบนุตัยมียะฮ แบบนี้กระมัง จึงสร้างความโกรธแค้นให้กับกลุ่มคนบางกลุ่มที่คลั่งใคล้ศูฟีย์และวิชากาลาม และพยายามทำลายท่านทุกรูปแบบในปัจจุบัน

والله أعلم بالصواب

อะสัน หมัดอะดั้ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น