อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558

เมื่อเขาต้องการทำซินา




เด็กหนุ่มคนหนึ่ง...
ได้เข้าไปพบศาสนทูตมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม
และขออนุญาตท่านเพื่อไปทำซินา (ทำผิดประเวณี)
เพราะเขาขาดมันไม่ได้หลังจากที่เขาได้เข้ารับอิสลาม
ซึ่งขณะนั้นบรรดาเศาะหาบะฮฺต่างปฏิเสธ
และทำการต่อต้านเด็กหนุ่มคนดังกล่าวอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามท่านนบีมุหัมมัดกลับเรียกเด็กหนุ่มให้เข้าไปหาท่านใกล้ๆ
และถามเขาว่า...
"เธอจะยอมรับได้หรือไม่... หากว่าเธอเห็นมารดาของเธอ
กระทำผิดประเวณี?’
เด็กหนุ่มได้ตอบปฏิเสธกับท่าน ดังนั้นนบีมุหัมมัดจึงกล่าวว่า...
"ด้วยเหตุนี้ ผู้คนอื่นๆ ต่างก็ปฏิเสธที่จะเห็นมารดาของพวกเขา
(หรือสตรีในครอบครัวของเขา) ยุ่งเกี่ยวกับการทำผิดประเวณี"
จากนั้นท่านจึงถามเด็กหนุ่มต่อไปว่า...
"เธอจะยอมรับได้หรือไม่หากว่าเธอเห็นพี่สาวน้องสาวของเธอ
กระทำผิดประเวณี?’
เด็กหนุ่มก็ตอบปฏิเสธเช่นเดิม
นบีมุหัมมัดจึงกล่าวว่า...
"ด้วยเหตุนี้ ผู้คนอื่นๆ ต่างก็ปฏิเสธที่จะเห็นพี่สาวน้องสาวของเขา
ยุ่งเกี่ยวกับการทำผิดประเวณีเช่นกัน"
ซึ่งท่านนบีไม่ได้แสดงความแข็งกร้าวต่อเขาแต่อย่างใด
อีกทั้งท่านยังขอดุอาอฺให้แก่เขาด้วยการกล่าวว่า...
"โอ้ อัลลอฮฺ โปรดชำระล้างหัวใจของเด็กหนุ่มคนนี้ให้สะอาดบริสุทธ์
ด้วยเถิด และปกป้องอวัยวะพึงสงวนของเขาและทำให้เขามีความสามารถ
ที่จะลดสายตาลงต่ำด้วยเถิด"
และในหะดีษได้รายงานว่าจากนั้นเด็กหนุ่มคนดังกล่าวได้กล่าวออกมาว่า...
"ขอสาบานด้วยอัลลอฮฺ กระผมจะไม่แสวงหาความสัมพันธ์ที่หะรอม
อีกต่อไปแล้วขอรับ" (รายงานโดยฏ็อบะรอนียฺ)

............................
อับดุลรอมาน หะระตี




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น