อัลเกาะรอฟีย์ กล่าวว่า
وَأَجْمَعَ الصَّحَابَةُ عَلَى أَنَّ مَنِ اسْتَفْتَى أَبَا بَكْرٍ وَعُمَرَ وَقَلَّدَهُمَا فَلَهُ أَنْ يَسْتَفْتِيَ أَبَا هُرَيْرَةَ وَمُعَاذَ بْنَ جَبَلٍ وَغَيْرَهُمَا ، وَيَعْمَلَ بِقَوْلِهِمْ بِغَيْرِ نَكِيرٍ
และมติเอกฉันของบรรดาเศาะหาบะฮ ว่า ผู้ใดขอคำฟัตวา ต่ออบูบักร์ และอุมัร และเขาได้เชื่อตามคนทั้งสองนั้น แล้วก็อนุญาตแก่เขา ขอคำฟัตวา ต่ออบูฮุรัยเราะฮ ,มุอาซ บิน ญะบัล และอื่นจากทั้งสองและปฏิบัติตามคำพูดของพวกเขาได้โดยปราศการคัดค้าน- ดูตัฟสีรอัฎวาอุลบะยาน ของอัชชันกิฏีย์ เล่ม 7 หน้า 307
......
จากคำพูดของอัลเกาะรอฟีย ที่ท่านอิหม่ามอัชชันกิฏีย์ รายงานไว้ แสดงให้เห็นว่า เหล่าเศาะหาบะฮเขาไม่มีการผูกขาด หรือ ยึดติดมัซฮับ คนหนึ่งคนใดโดยเฉพาะ
อิบนุกอ็ยยิม ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน ได้ตอบไว้
وَهَلْ يَلْزَمُ الْعَامِّيَّ أَنْ يَتَمَذْهَبَ بِبَعْضِ الْمَذَاهِبِ الْمَعْرُوفَةِ أَمْ لَا ؟ فِيهِ مَذْهَبَانِ : [ هَلْ عَلَى الْعَامِّيِّ أَنْ يَتَمَذْهَبَ بِمَذْهَبٍ وَاحِدٍ مِنْ الْأَرْبَعَةِ أَوْ غَيْرِهِمْ ؟ ] أَحَدُهُمَا : لَا يَلْزَمُهُ ، وَهُوَ الصَّوَابُ الْمَقْطُوعُ بِهِ ; إذْ لَا وَاجِبَ إلَّا مَا أَوْجَبَهُ اللَّهُ وَرَسُولُهُ ، وَلَمْ يُوجِبْ اللَّهُ وَلَا رَسُولُهُ عَلَى أَحَدٍ مِنْ النَّاسِ أَنْ يَتَمَذْهَبَ بِمَذْهَبِ رَجُلٍ مِنْ الْأُمَّةِ فَيُقَلِّدَهُ دِينَهُ دُونَ غَيْرِهِ
และคนทั่วไป(คนอาวาม) จำเป็นจะต้อง สังกัดมัซฮับ ด้วยส่วนหนึ่งของบรรดามัซฮับที่เป็นที่รู้จักหรือไม่...
ในประเด็นนี้ มี 2 ทัศนะด้วยกัน ( จำเป็นแก่คนทั่วไป(คนอาวาม)ต้องสังกัดมัซฮับคนหนึ่งคนใดจากบุคคลทั้งสี่ หรืออื่นจากพวกเขาหรือไม่
ทัศนะที่หนึ่ง : ไม่จำเป็นแก่เขา (ว่าต้องสังกัดมัซฮับ) และมันคือ ทัศนะที่ถูกต้อง ที่เป็นข้อยุติด้วยมัน
เพราะ ไม่เป็นที่วาญิบ (เหนือผู้ใด)นอกจากสิ่งที่อัลลอฮและรอซูลของพระองค์ได้กำหนดให้เป็นวาญิบมันเท่านั้น ,อัลลอฮและรอซูลของพระองค์ ไม่ได้กำหนดให้เป็นวาญิบ(ข้อบังคับ) แก่มนุษย์คนหนึ่งคนใด สังกัดมัซฮับ ด้วยมัซฮับของคนๆหนึ่ง จากอุมมะฮแล้วเชื่อตามศาสนาของเขา ต่อเขาผู้นั้น โดยไม่เชื่อตามคนอื่นๆจากเขา(หมายถึงอื่นจากผู้ที่เขาสังกัด) – ดูเอียะลามอัลมุวักกิอีน เล่ม 4 หน้า 202
อิบนุกอ็ยยิม ได้ยืนยันว่า อัลลอฮและรซูลลุลฮ ศอ็ลฯ ไม่ได้กำหนดให้บุคคลใดสังกัดมัซฮับแบบผูกขาด โดยที่จะตามมัซฮับอื่นจากมัซฮับตัวเองไม่ได้
และท่านอิบนุกอ็ยยิมได้กล่าวอีกว่า
وَلَا يَلْزَمُ أَحَدًا قَطُّ أَنْ يَتَمَذْهَبَ بِمَذْهَبِ رَجُلٍ مِنْ الْأُمَّةِ بِحَيْثُ يَأْخُذُ أَقْوَالَهُ كُلَّهَا وَيَدْعُ أَقْوَالَ غَيْرِهِ .
وَهَذِهِ بِدْعَةٌ قَبِيحَةٌ حَدَثَتْ فِي الْأُمَّةِ ، لَمْ يَقُلْ بِهَا أَحَدٌ مِنْ أَئِمَّةِ الْإِسْلَامِ
และ ไม่จำเป็นแก่คนหนึ่งคนใด เลย ต่อการที่เขาสังจะสังกัดมัซฮับ ของคนหนึ่งคนใดจากอุมมะฮ โดยที่เขายึดถือ บรรดาคำพูดของเขาผู้นั้น ทั้งหมด และทิ้งบรรดาคำพูดของคนอื่นๆจากผู้ที่เขาสังกัด และนี้คือ บิดอะฮที่น่าเกลียด ที่เกิดขึ้นใหม่ในอุมมะฮนี้ ,ไม่มีคนหนึ่งคนใดจากบรรดานักปราชญ์ระดับอิหม่ามแห่งอิสลาม เคยกล่าวด้วยมัน –จากตำราที่อ้างแล้ว
......
อิบนุก็อยยิมกล่าวว่า การผูกขาดมัซฮับเป็นการเฉพาะโดยไม่ยอมรับคำพูดของนักวิชาการมัซฮับอื่นนั้น
เป็นบิดอะฮที่น่าเกลียด และบรรดาปราชญ์ระดับอิหม่ามแห่งอิสลาม ไม่ได้พูดว่า วาญิบต้องสังกัดมัซฮับ การไม่ยึดมัซฮับหนึ่งมัซอับใดเป็นเป็นการเฉพาะไม่ใช่เป็นสิ่งชั่วร้าย ตามที่คนบางกลุ่มกล่าวหาและตั้งข้อรังเกียจ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น