อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

สะลัฟ


เช็ค อิบนุอุษัยมีนกล่าวว่า

السلف معناه المتقدمون فكل متقدم على غيره فهو سلف له ولكن إذا أطلق لفظ السلف فالمراد به القرون الثلاثة المفضلة الصحابة والتابعون وتابعوهم هؤلاء هم السلف الصالح ومن كان بعدهم وسار على منهاجهم فإنه مثلهم على طريقة السلف وإن كان متأخراً عنهم في الزمن لأن السلفية تطلق على المنهاج الذي سلكه السلف الصالح رضي الله عنهم كما قال النبي عليه الصلاة والسلام (إني أمتي ستفترق على ثلاثة وسبعين فرقة كلها في النار إلا واحدة وهي الجماعة) وفي لفظ (من كان على مثل ما أنا عليه وأصحابي) وبناء على ذلك تكون السلفية هنا مقيدة بالمعنى فكل من كان على منهاج الصحابة والتابعين وتابعيهم بإحسان فهو سلفي وإن كان في عصرنا هذا وهو القرن الرابع عشر بعد الهجرة نعم

สะลัฟ ความหมายของมันคือ บรรดาคนยุคก่อน ดังนั้น ทุกคนที่อยู่ก่อนผู้อื่น มันก็คือสะลัฟ สำหรับเขา แต่ว่า เมื่อกล่าวถึง คำว่า สะลัฟ ความมุ่งหมายด้วยมันคือ ศตวรรษที่สาม อันประเสริฐ คือ เหล่าเศาะหาบะฮ , ตาบิอูน และ บรรดาผู้เจริญรอยตามพวกเขา พวกเขาคือ บรรพชนผู้ทรงธรรม (สะละฟุศศอลิห) และผู้ใด อยู่หลังจากพวกเขา และดำเนินตามแนวทาง ของพวกเขา เขาก็เหมือนกับพวกนั้น บนแนวทางสะลัฟ และแม้ว่า เขาจะอยู่ยุคสุดท้ายจากพวกเขา เพราะแท้จริง คำว่า สะละฟียะฮ ถูกกล่าว บนแนวทางที่ บรรดาสะลัฟผู้ทรงธรรม (ร.ฎ)ดำเนินอยู่ ดังที่นบี ศอ็ลฯกล่าวว่า
อุมมะฮของฉัน แตกออกเป็น 73 พวก ทั้งหมดนั้นอยู่ในนรก ยกเว้น พวกเดียวคืออัลญะมาอะฮ และในสำนวนหนึ่ง กล่าวว่า “ผู้ที่ อยู่บนสิ่งที่เหมือนฉันและ บรรดาสาวกของฉันยืนหยัดอยู่บนมัน “ ตามนัยยะ ดังกล่าว นั้น คำว่าสะละฟียะฮในที่นี้ ถูกจำกัด ด้วยความหมาย ดังนั้น ทุกคนที่อยู่บนแนวทาง เศาะหาบะฮ ,ตาบิอีน และบรรดาผู้เจริญรอยตามพวกเขาด้วยความดีงาม เขาก็คือ สะละฟีย์ และหาเขาอยู่ในสมัยของเรานี้ก็ตาม คือ ศตวรรษที่ 14 หลักจากฮิจญเราะฮศักราช ก็ตาม


http://www.ibnothaimeen.com/all/noor/article_969.shtml



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น