อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

ชาร์ลี เอ็บโด โหมสงครามศาสนา


ผมไม่ชอบการเติมฟืนลงไปในกองไฟของชาร์ลี เอ็บโด ความเลวที่กองบรรณาธิการนิตยสารชาร์ลี เอ็บโด ทำก็คือการตีพิมพ์หน้าปกฉบับ ‘ผู้รอดชีวิต’ เป็นภาพศาสดามุฮำมัด (ศ็อลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) สวมผ้าโพกศีรษะสีขาวและร้องไห้ ซ้ำยังให้ศาสดามุฮำมัด (ศ็อลฯ) ถือป้ายที่มีสแกนว่า ฉันคือชาร์ลี อยู่ภายใต้ข้อความว่า ‘พระเจ้าให้อภัยทุกคน’
ภาพนี้คือการล้อเลียนที่สร้างความขัดแย้งให้มีมากขึ้นบนโลก คุณอย่าลืมว่า มุสลิมบนโลกใบนี้มีเกือบ 2,000 ล้าน ต่างรักและหวงแหนศาสนาของตนเองทั้งสิ้น การดูหมิ่นถิ่นแคลนศาสดาของศาสนาอิสลามของชาร์ลี เอ็บโด จะทำให้คนตะวันตกทั่วโลกถูกโจมตี คุณอยู่ที่สำนักพิมพ์ในใจกลางที่สุดของฝรั่งเศส คุณยังโดนโจมตีจนมีคนตายไปตั้ง 12 ศพ ต่อไปนี้ ชีวิตของคนตะวันตก โดยเฉพาะชาวฝรั่งเศสคนอื่นๆ เล่า จะอันตรายสักเพียงใด
เรื่องเสรีภาพในการเสนอข่าวก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่คุณต้องคำนึงถึงจิตใจของคนศาสนาอื่นด้วย ผมเป็นชาวพุทธ เมื่อเห็นฝรั่งมังค่าดูหมิ่นเหยียดหยามศาสดาและศาสนาพุทธของผม ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน ผมต้องต่อสู้และป้องกันศาสนาจนสุดฤทธิ์ของผม
การที่นิตยสารชาร์ลี เอ็บโดถูกโจมตีเมื่อ 7 มกราคม โดยมือปืนอิสลามิสต์และสังหารหมู่เหยื่อไปทั้งหมด 12 ชีวิต ก็เพราะมือปืนต้องการเข้าไปล้างแค้นที่ชาร์ลี เอ็บโด เคยตีพิมพ์ภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดามุฮำมัด (ศ็อลฯ) ตอนนั้นคุณพิมพ์แค่ 60,000 ฉบับต่อสัปดาห์ แต่ขายได้เพียงสัปดาห์ละ 30,000 ฉบับ คุณยังโดนโจมตี
แต่ตอนนี้ คุณท้าทายด้วยการตีพิมพ์ฉบับที่มีภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดามุฮำมัด (ศ็อลฯ) มากถึง 3,000,000 ฉบับ และบั้นปลายท้ายที่สุดก็ตีพิมพ์เพิ่มเป็น 5,000,000 ฉบับ คุณจินตนาการไม่ออกดอกหรือ ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นต่อไป
ภาพที่ชาวฝรั่งเศสไปยืนต่อคิวหน้าร้านขายหนังสือตั้งแต่เช้ามืดของวันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ.2558 เพื่อรอซื้อนิตยสารชาร์ลี เอ็บโด ฉบับภาพหน้าปกล้อเลียนศาสดาของศาสนาอื่นนั้น เสียดแทงหัวใจของมุสลิมทั่วโลก
ยิ่งอ่านคำให้สัมภาษณ์นายลุซ ซึ่งเป็นนักวาดการ์ตูนผู้ออกแบบปกนิตยสารฉบับล้อเลียนแล้ว ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นมุสลิมดอกครับ ที่จะโกรธ แม้แต่นับถือศาสนาอื่น ที่รักความยุติธรรม ก็จะต้องโกรธด้วย
นายลุซ คุณให้สัมภาษณ์ไปได้อย่างไรว่า....
‘ศาสดามุฮำมัด (ที่เราวาด) เป็นเพียงชายคนหนึ่งที่กำลังร้องไห้’
‘เขาเป็นคนดียิ่งกว่าศาสดาที่มือปืนพวกนั้นนับถือ’
สองประโยคที่นายลุซคนออกแบบปกพูดนี่ แรงมากนะครับ นี่คือท่อนฟืนขนาดใหญ่+น้ำมันเบนซินถังใหญ่ ที่นายลุซราดเข้าไปในกองไฟ
ผมไม่เชื่อว่าจะได้ยินคำพูดของนายโทนี แอ็บบอตต์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียที่บอกว่าชอบการ์ตูนศาสดามุฮำมัดบนหน้าปกนิตยสารชาร์ลี เอ็บโด
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เลยนะครับ หน้าที่ของท่านในฐานะนายกรัฐมนตรีของชาติรัฐหนึ่งที่ตั้งอยู่บนโลกใบนี้ก็คือ การทำให้ประเทศของท่านและโลกใบนี้สงบสุข แต่การที่ท่านพูดว่า ‘ผมยังไม่แน่ใจว่าทุกอย่างที่ชาร์ลี เอ็บโดตีพิมพ์ออกมา ตรงกับรสนิยมของผมหรือเปล่า’ ‘แต่ผมชอบภาพการ์ตูนที่ว่า’ และเมื่อไปออกรายการ 3AW ของสถานีวิทยุแฟร์แฟ๊กซ์ นายแอ็บบอตต์ก็ยังบอกว่า ‘ตอนนี้ ผมค่อนข้างชอบการ์ตูนนี้’
ผู้อ่านท่านเชื่อผมเถิด ว่าต่อไปนี้ โลกของเราจะร้อนกว่าในห้วงช่วงที่เราอยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2
สงครามศาสนาประกาศแล้ว
เมื่อนิตยสารชาร์ลี เอ็บโด 5,000,000 ฉบับ
วางแผงเมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา.


โดย คุณนิติ นวรัตน์




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น