อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

สาเหตุของความแตกแยกในเรื่องศาสนา


ความเห็นต่างของมนุษย์ในประเด็นต่างๆนั้น เป็นปกติธรรมดาของมนุษย์ แต่ถ้าให้มนุษย์มามีความเห็นและเข้าใจตรงกันในทุกเรื่องนั้น ถือว่า เป้นสิ่งผิดปกติ ในเรื่องศาสนาก็เช่นกัน มีมากมายที่บรรดาผู้รู้ในแต่ละยุคในแต่ละสมัย มีหลายประเด็นที่พวกเขามีความเข้าใจไม่ตรงกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ ...ที่แปลกคือ ทำไม่ความแตกต่างจึงต้องแตกแยก"? เราแตกแยกกันเพื่ออะไร เพื่อหวังในความโปรดปรานของพระเจ้าหรือ? คงไม่ใช่แน่..เพราะพระเจ้าย่อมไม่ประสงค์เช่นนั้น ดังนั้น "เราจะทำอย่างไรที่จะทำให้ความเห็นต่างกัน ไม่เป็นฉนวนที่นำไปสู่ความแตกแยกของอุมมะฮมุสลิม

อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
{وَاعْتَصِمُواْ بِحَبْلِ اللَّهِ جَمِيعاً وَلاَ تَفَرَّقُواْ} [آل عمران :103].
และพวกเจ้าจงยึดสายเชือก(ศาสนา)ของอัลลอฮ์โดยพร้อมกันทั้งหมดและจงอย่าแตกแยกกัน
{وَلاَ تَنَـازَعُواْ فَتَفْشَلُواْ وَتَذْهَبَ رِيحُكُمْ} [الأنفال:46].
และพวกเจ้าจงอย่าขัดแย้งกัน แล้วจะทำให้พวกเจ้าย่อท้อ และทำให้ความเข้มแข็งของพวกเจ้าหมดไป
{وَلاَ تَكُونُواْ كَالَّذِينَ تَفَرَّقُواْ وَاخْتَلَفُواْ مِن بَعْدِ مَا جَاءهُمُ الْبَيّنَـاتُ} [آل عمران:105].
และพวกเจ้าจงอย่าเป็นเช่นบรรดาผู้ที่แตกแยกกัน และขัดแย้งกันหลังจากที่บรรดาหลักฐานอันชัดแจ้งได้มายังพวกเขาแล้ว

สาเหตุที่ทำให้เกิดความแตกแยกในเรื่องศาสนา เช่น
๑. ผู้รู้ที่รู้ไม่จริง แล้วทำการวินิจฉัยประเด็นต่างๆผิดพลาดแล้วมีมุสลิมส่วนหนึ่งเชื่อตามอย่างหลับหูหลับตา ใครนำข้อเท็จจริงมาบอกก็กลับกลายเป็นศัตรูหรือ คนละฝ่าย ของพวกเขาไป

๒. ผู้รู้ที่รู้ความจริง แต่ไม่ได้สอนหรือบอกศิษย์ไปตามความเป็นจริง เพราะเกรงว่าตนจะเสียมวลชนหรือผลประโยชน์ที่มวลชนยิบยื่นให้ แล้วถ้ามีใครมาชี้แจงว่าสิ่งเขาสอนนั้นผิด เขาก็จะยุยงให้มวลชนต่อต้านกับคนผู้นั้น เพราะเขาเกรงว่าเขาจะเสียประโยชน์หากมวลชนทั้งหลายรู้ข้อเท็จจริง จึงเป็นเหตุทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในหมู่ประชาชน

ท่านนบี กล่าวว่า
القضاة ثلاثة: قاضيان في النار، وقاضي في الجنة، فأما الذي في الجنة فرجل علم فقضى به، وأما اللذان في النار فرجل قضى للناس على جهل، ورجل علم الحق وقضى بخلافه
ผู้พิพากษานั้น แบ่งออกเป็นสามจำพวก ผู้พิพากษาสองจำพวกจะได้อยู่ในนรกและผู้พิพากษาหนึ่งจำพวกจะได้อยู่ในสวรรค์ แล้วสำหรับผู้พิพากษาที่ได้อยู่ในสวรรค์นั้น คือ ชายคนหนึ่ง ที่มีความรู้และเขาได้ตัดสินด้วยความรู้นั้น และสำหรับผู้พิพากษาสองจำพวกที่จะได้อยู่ในนรกนั้น คือ ชายคนหนึ่ง เขาได้ตัดสินให้แก่ประชาชน บนความไม่รู้ และ ชายคนหนึ่งเขารู้ความจริง และเขาได้ตัดสินขัดแย้งกับมัน(กับความจริงที่เขารู้) - รายงานโดย อบูดาวูด,อิบนุมาญะฮและอัตติรมิซีย์
๓. ผู้รู้ได้ปลูกฝังประชาชนให้ยึดติดกับมัซฮับ จนประชาชนเข้าใจว่า มัซฮับเป็นส่วนหนึ่งของนิกายในศาสนาที่เขาจำเป็นจะต้องยึดถือนิกายใดนิกายหนึ่งเป็นการเฉพาะ และสมาชิกที่ยึดติดกับมัซฮับจะมองมัซฮับที่ต่างกันเหมือนคนละพวกกับพวกเขา

อัสสัยยิดสาบิก(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
وبالتقليد والتعصب للمذاهب فقدت الأمة الهداية بالكتاب والسنة، وحدث القول بانسداد باب الاجتهاد، وصارت الشريعة هي أقوال الفقهاء، وأقوال الفقهاء هي الشريعة، واعتُبر كل من يخرج عن أقوال الفقهاء مبتدعاً لا يوثق بأقواله، ولا يُعتد بفتاويه.
การเลียนแบบและการทิฐิ(ยึดติดโดยไม่ยอมเปลี่ยนแปลง) ต่อมัซฮับต่างๆ ทำให้อุมมะฮอิสลาม ไม่ได้รับทางนำ แห่งอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ จนถึงกับมีทัศนะให้ปิดประตูอิจญติฮาด จนเป็นเหตุให้บทบัญญัติศาสนาขึ้นอยู่กับบรรดาคำพูดของนักนิติศาสตร์อิสลาม(ฟุเกาะฮาอฺ) และบรรดาคำพูดของฟุเกาะฮาอฺ คือ ศาสนบัญญัติ และถือว่า ทุกคนที่ออกจากบรรดาคำพูดของบรรดาฟุเกาะฮาอฺ เป็นผู้อุตริบิดอะฮ และ คำพูดของบุคคล(ที่ไม่ยึดติดกับฟุเกาะฮฮาอฺ)จะไม่ได้รับการเชื่อถือ และฟัตวาของเขาจะไม่ได้รับการยอมรับ.....- ฟิกฮอัสสุนนะฮ เล่ม ๑ หน้า ๑๐
..........
ปัจจุบัน พิสูจน์ได้ว่า เป็นจริงตามที่ท่านสัยยิด สาบิก กล่าวไว้ คือ ใครไม่สังกัดมัซฮับ จะถูกต่อต้านและถูกตั้งฉายาด้วยฉายาต่างๆ และจะไม่ถูกยอมรับแม้สิ่งที่เขานำมานั้น คือ อัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮที่ถูกต้องก็ตาม
والله أعلم بالصواب

....................
อะสัน หมัดอะดั้ม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น