อ.มะห์มูด (ปราโมทย์) ศรีอุทัย
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2540 ว่า ...
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยมัสยิดอิสลาม และกฎหมายว่าด้วยการศาสนูปถัมภ์ฝ่ายอิสลาม
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. ๒๕๔๐”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ยกเลิก
(๑) พระราชบัญญัติมัสยิดอิสลาม พ.ศ. ๒๔๙๐
(๒) พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการศาสนูปถัมภ์ฝ่ายอิสลาม พุทธศักราช ๒๔๘๘
(๓) พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการศาสนูปถัมภ์ฝ่ายอิสลาม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๑ มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
อธิบาย
ข้อความในมาตรา 3 .. ทั้งวงเล็บ 1, วงเล็บ 2, และวงเล็บ 3 ของพระราชบัญญัติฉบับนี้แสดงว่า วิธีการสรรหาจุฬาราชมนตรี และอำนาจหน้าที่ของผู้เป็นจุฬาราชมนตรี .. ดังที่มีระบุไว้ในพระราชบัญญัติปี พ.ศ. 2490 และในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการศาสนูปถัมป์ฝ่ายอิสลาม พ.ศ. 2488, และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการศาสนูปถัมภ์ฝ่ายอิสลาม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2491 มาตรา 4 จะต้องถูกยกเลิกทั้งหมดด้วยพระราชบัญญัติฉบับปี พ.ศ. 2540 นี้ ...
พระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 ยังได้ระบุต่อไปว่า
หมวด ๑
บททั่วไป
มาตรา ๖ พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจุฬาราชมนตรีคนหนึ่ง เพื่อเป็นผู้นำกิจการศาสนาอิสลามในประเทศไทย
ให้นายกรัฐมนตรีนำชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรีซึ่งได้รับความเห็นชอบจากกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นจุฬาราชมนตรี
อธิบาย
จากมาตรา 6 หมวดที่ 1 บททั่วไปของพระราชบัญญัติฉบับนี้แสดงว่า ...
1. จุฬาราชมนตรีมิใช่เป็นที่ปรึกษาขององค์พระมหากษัตริย์ ดังที่มีบัญญัติไว้ในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการศาสนูปถัมภ์ฝ่ายอิสลาม พ.ศ. 2488 อีก ...
แต่ได้ถูกยกสถานะขึ้นเป็น “ผู้นำ” ของมุสลิมในส่วนที่เกี่ยวกับกิจการศาสนาอิสลามในประเทศไทย ...
2. วิธีการสรรหาจุฬาราชมนตรี ถูกเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เป็นการสรรหาของประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศ มาเป็น “การลงมติเห็นชอบของกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศ” แทน ...
การลงมติของกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศในการคัดเลือกตัวผู้มาดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรี จึงมิใช่เป็นการ “เลือกผู้แทนประจำจังหวัด” ของตน เหมือนการเลือกผู้แทนราษฎร .. ดังที่มีบุคคลบางคนอ้าง ...
แต่เป็นการ “สรรหาผู้นำ” และเป็นการลงมติเพื่อ “เลือกผู้นำของชาวไทยมุสลิมทั้งประเทศ” ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ...
ตำแหน่งจุฬาราชมาตรี จึงมาจากการ “คัดเลือก” หรือการเลือกตั้งและ “ลงมติ”ของ “คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด” ทั่วประเทศก่อนเป็นอันดับแรก ...
หลังจากได้รายนามจุฬาราชมนตรีที่มาจากการลงมติของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว นายกรัฐมนตรีก็จะนำรายชื่อที่ถูกคัดเลือกนั้นขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ “แต่งตั้ง” เป็นจุฬาราชมนตรีต่อไป ...
การได้รับ “เลือกตั้ง” และได้รับ “แต่งตั้ง” เป็นจุฬาราชมนตรีของบุคคลใด จึงถือว่า บุคคลนั้นมีตำแหน่งเป็น “ผู้นำ” ของมุสลิมในประเทศไทยอย่างถูกต้อง, ทั้งตามหลักการศาสนาและกฎหมายรัฐธรรมนูญ ...
และบุคคลแรกที่ได้รับตำแหน่งเป็นจุฬาราชมนตรีถูกต้องตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ ก็คือ ท่านอาจารย์สวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ จุฬาราชมนตรีคนปัจจุบัน ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น