อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

เขาโจมตีว่า "อิบนุตัยมียะห์โต๊ะครูใหญ่ของวะฮาบีย์ ได้ยืนยันถึงการการมีระยะทางระหว่างอัลลอฮ์กับมัคลู๊ก



คลังอาวุธทางวิชาการ โจมตีอิบนุตัยมียะฮว่า
ตัวอย่างของหลักอะกีดะห์มุญัสสิมะห์ของวะฮาบีย์ ตอน "ห่างกันเพียงแค่ระยะทาง"
....อิบนุตัยมียะห์โต๊ะครูใหญ่ของวะฮาบีย์ ได้ยืนยันถึงการการมีระยะทางระหว่างอัลลอฮ์กับมัคลู๊ก และอิบนุตัยมียะห์ก็ได้บอกว่า มัสหับอะห์ลิซซุนนะห์วั้ลญะมาอะห์ (ตามทัศนะของอิบนุตัยมียะห์ก็คือ กลุ่มมุญัสสิมะห์ในยุคสะลัฟ) เชื่อว่า ทุกๆครั้งที่ใครก็ตามที่ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ยิ่งขึ้นไปสูงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเข้าไกล้สถานที่ๆอัลลอฮ์พำนักอยู่มากขึ้นเท่านั้น ไกล้เสียยิ่งกว่า บุคคลที่อัลลอฮ์ทรงกล่าวไว้ในอัลกุรอ่านเสียอีก
واسجُدْ واقْتَرِبْ"!
นี่คือการใส่ใคล้ว่าอัลลอฮ์พระองค์ทรงมีสถานที่อยู่บนอะรัช และทรงถูกคลอบคลุมโดยท้องฟ้า และทรงจำกัดทิศที่อยู๋บนท้องฟ้าชั้นสูงสุด ตะอาลั้ลลออ์ อันซ่าลิก อุลูวัน กะบีรอน
โอ้อัลลอฮ์ขอพระองค์โปรดคุ้มครองพวกเราให้ปลอดภัยจากอะกีดะห์ตัจซีมแบบพวกยิวและคริสเตียนด้วยเถิด
>>>>>>>>>>>>>>>>
ชี้แจง
ขุนคลังอาวุทธทางวิชาการคนนี้ สร้างเพจขึ้นมา ตัดตอนบางส่วนของนักวิชาการที่เขามีอคติ ต้องการทำลายความเชื่อถือ นำมาชงแล้วโจมตีให้ร้าย โดยที่ตนเองไม่มีหลักฐานทางวิชาการมาตอบโต้ ว่าผิดถูกอย่างไร
มาดูคำพูดของอิบนุตัยมียะฮ
الثَّالِثُ : قَوْلُ : " أَهْلِ السُّنَّةِ وَالْجَمَاعَةِ " الَّذِينَ يُثْبِتُونَ أَنَّ اللَّهَ عَلَى الْعَرْشِ وَأَنَّ حَمَلَةَ الْعَرْشِ أَقْرَبُ إلَيْهِ مِمَّنْ دُونَهُمْ وَأَنَّ مَلَائِكَةَ السَّمَاءِ الْعُلْيَا أَقْرَبُ إلَى اللَّهِ مِنْ مَلَائِكَةِ السَّمَاءِ الثَّانِيَةِ وَأَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَمَّا عُرِجَ بِهِ إلَى السَّمَاءِ صَارَ يَزْدَادُ قُرْبًا إلَى رَبِّهِ بِعُرُوجِهِ وَصُعُودِهِ وَكَانَ عُرُوجُهُ إلَى اللَّهِ لَا إلَى مُجَرَّدِ خَلْقٍ مِنْ خَلْقِهِ وَأَنَّ رُوحَ الْمُصَلِّي تَقْرُبُ إلَى اللَّهِ فِي السُّجُودِ وَإِنْ كَانَ بَدَنُهُ مُتَوَاضِعًا . وَهَذَا هُوَ الَّذِي دَلَّتْ عَلَيْهِ نُصُوصُ الْكِتَابِ .
ทัศนะที่สาม คือ ทัศนะอะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ ที่พวกเขายืนยันว่า อัลลอฮ อยู่บน อะรัช และแท้จริง (มลาอิกะฮ)ที่แบกอะรัช ย่อมใกล้ชิดหระองค์ยิ่งกว่า ผู้อื่นจากพวกเขา และแท้จริงมลาอิกะฮ แห่งฟากฟ้า เบื้องสูง ย่อมใกล้ชิดอัลลอฮ ยิ่งกว่ามลาอิกะฮ แห่งฟากฟ้าชั้นที่สอง และแท้จริงท่านนบี ศอ็ลฯ เมื่อท่านถูกนำขึ้นไปยังฟากฟ้า ท่านนบีจึงเพิ่มความใกล้ชิดต่อพระเจ้าของท่าน ด้วยการขึ้นไปของท่านนบีและการขึ้นสูงของท่าน และการขึ้นของท่านนบีไปยังอัลลอฮ นั้น ไม่ใช่ แต่เพียงมัคลูคหนึ่งจากมัคลูคของพระองค์เท่านั้น และแท้จริง วิญญาณของผู้ละหมาด ได้ใกล้ชิดอัลลอฮในการสุญูดของเขาด้วย และหากปรากฏว่าร่างกายของเขา มีความนอบน้อม และนี่คือ ที่บรรดาตัวบทแห่งคัมภีร์ได้แสดงบอกเอาไว้
- มัจญมัวฟะตาวา เล่ม ๖ หน้า ๗
- อิบนุตัยมียะฮได้อ้างอิงหลักฐานเช่น
- وَاسْجُدْ وَاقْتَرِبْ
- ความว่า แต่จงสุญูด และเข้าใกล้อ้ลลอฮ์เถิด
- ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ส่งเสริมให้กระทำ
- عن عن أبي هريرة رضي الله عنه عن النبي- صلى الله عليه وسلم-أنه قال: (أقرب ما يكون العبد من ربه وهو ساجد، فأكثروا من الدعاء
- รายงานจากอบีฮุรัยเราะฮ (ร.ฎ) จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า " สิ่งที่ทำให้บ่าวได้ใกล้ชิดพระเจ้าของเขามากที่สุด โดยที่เขาเป็นผู้ที่กำลัง สุญูด ดังนั้นพวกท่านจงดุอาให้มากๆ - รายงานโดยมุสลิม
- คุณขุนคลังฯเอาแต่โจมตีว่าผิดแต่ไม่มีหลักฐานมาหักล้าง มีแต่ความคิดที่มาจากอคติเท่านั้น

والله أعلم بالصواب

.......................
หะสัน หมัดอะดั้ม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น