อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

ที่สุดแห่งหัวใจ



*** ตอนที่ 1 เรื่องของหัวใจ ***

05 : ที่สุดแห่งหัวใจ 

อัลฮัมดุลิลลาอฺ ด้วยความโปรดปรานและความเมตตาของพระองค์ ทำให้เราได้เดินทางมาถึงบทสรุปเกี่ยวกับเจ้าตัวที่มีขนาดเท่ากำปั้นของเรา ทว่าอนุภาพและพลังของมันช่างมหาศาลยิ่งนัก อย่างที่ผมได้พยายามนำเสนอมาตั้งแต่ตอนแรกเกี่ยวกับหัวใจ เมื่อเอ่ยถึงหัวใจสิ่งหนึ่งที่จะต้องเอยตามมาซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับหัวใจสิ่งนั้นคือ “ความรัก” นั่นเอง

มนุษย์กับความรักเป็นสิ่งที่มิอาจจะพรากจากกันได้ เพราะมนุษย์ถูกบังเกิดมาในสภาพของผู้หวั่นไหว เมื่อเขาประสบกับความทุกข์ยากก็จะตีโพยตีพาย หัวใจของเขาวิตกกังวล เศร้าหมองและไม่สบายใจ มองไปทางไหนก็รู้สึกเหนื่อยล้าอ่อนแรง แต่เมื่อเขาประสบกับความดีงาม เขาก็จะดีใจจนลืมตัว และมักจะหวงต่อความสุขนั้น ไม่อยากให้ช่วงเวลานั้นผ่านพ้นไป ดังที่อัลลอฮฺทรงดำรัสในอัลกุรอาน

ความว่า : แท้จริงมนุษย์นั้นถูกบังเกิดมาเป็นคนหวั่นไหว เมื่อความทุกข์ยากประสบแก่เขา ก็ตีโพยตีพายกลัดกลุ้ม และเมื่อคุณความดีประสบแก่เขา เขาก็หวงแหน (สูเราะฮฺ อัลมาอาริจญ์ 70 : 19-21)

มนุษย์ทุกคนจึงเรียกร้องการเอาอกเอาใจ เรียกร้องความสนใจ และต้องการซึ่งการดูแลเอาใจใส่จากคนรอบข้าง จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่ง “ความสุข” และสิ่งหนึ่งที่จะตอบสนองอีกทั้งสามารถนำพาให้เขาประสบกับความสุขได้นั้น สิ่งนั้นคือ “ความรัก” นั่นเอง

หากไร้ซึ่งความรักชีวิตก็ไม่สดใส เพราะความรักชีวิตจึงได้สดใส

ยิ่งไปกว่านั้น ความรัก คือ น้ำที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นความรักทำให้มีชีวิตชีวา

ความรักจึงเป็นสิ่งที่พระผู้อภิบาลประทานแก่มนุษย์และสรรพสิ่งทั้งหลาย พระองค์ผู้ซึ่งเป็นผู้สร้างมนุษย์และทุกสรรพสิ่ง พระองค์ได้มอบความรักจากพระองค์ให้แก่สิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง พระนามหนึ่งของพระองค์ดังที่อีหม่ามผู้มีความชำนาญเกี่ยวกับความรัก “อิบนุลก็อยยิม” ได้ให้คำนิยามเอาไว้ว่า “อาลิหะฮฺ” หมายถึง ผู้ที่ถูกรัก ผู้ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรัก ผู้เป็นที่รัก

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สิ่งถูกสร้างอย่างมนุษย์เรียกร้องและต้องการซึ่งความรัก

หากเราลองพิจารณาและทบทวนถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ตั้งแต่เรามีโอกาสลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้ จนกระทั้งนาทีนี้ขณะที่เรากำลังอ่านบทสรุปของหัวใจ หากจะเอ่ยถึงความรัก เราจะพบว่า ไม่มีความรักใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่า “ความรักที่พระองค์มีต่อเรา” เราลองถามตัวเองดูซิว่า

กี่ครั้งแล้วที่เราได้ละเมิดฝ่าฝืนต่อพระองค์ ด้วยการมองดูในสิ่งที่ต้องห้ามและไร้สาระ กระนั้นก็ตามเมื่อเราตื่นขึ้นมาตอนเช้า เราสามารถลืมตามองดูความสวยงามของโลกใบนี้เฉกเช่นทุกวัน

ดวงตาเรามิได้มืดบอด แก้วตาของเราไม่ได้อักเสบ ทว่าดวงตาของเรายังคงใช้มองสิ่งรอบกายได้ตามปกติ แม้เราจะใช้มันไปในทางที่พระองค์ทรงสั่งห้ามก็ตาม

กี่คราแล้วที่สองมือของเราเอื้อมไปหยิบจับ ยื่นไปสัมผัสในสิ่งที่พระองค์ทรงหวงห้าม แม้เราจะใช้มือของเราทำในสิ่งที่ไร้สาระ แม้เราจะใช้มือของเราเปิดเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยความมืดบอดทางสายตา แม้เราจะใช้มือของเรากดในสิ่งที่เต็มไปด้วยอบายมุขแห่งการติดต่อ กระนั้นก็ตามเมื่อเราตื่นนอนขึ้นมาในรุ่งเช้า สองมือของเรายังคงขยับเขยื้อน หยิบจังสิ่งของ และใช้การได้ตามปกติ

ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ที่เราใช้เท้าทั้งสองของเรา ก้าวเดินไปในเส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตรายแห่งการฝ่าฝืนพระองค์ เราใช้สองเท้าเดินเข้าไปในสถานที่ต้องห้าม เราใช้เท้าทั้งสองเป็นเครื่องมือพาตัวของเราให้ไปถึงที่หมายซึ่งมีบุคคลที่ไม่ใช่มะฮฺรอม (บุคคลที่เราไม่สามารถแต่งงานกับเขาได้ เช่น บิดา มารดา) ของเรารออยู่ กระนั้นก็ตามเมื่อเราลืมตาขึ้นมาในยามเช้าของทุกวัน เรายังสามารถลุกจากที่นอน เดินเหินไปไหนมาไหนได้ตามปกติ โดยที่เท้าทั้งสองของเราไม่ได้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตแน่นิ่งอยู่บนเตียง

หากสิ่งนี้มิใช่เพราะความโปรดปรานและความเมตตาของพระองค์ จะให้นิยามสิ่งนี้ว่าอย่างไรดี ?

ความว่า : ดังนั้น ด้วยบุญคุณอันใดเล่าของพระเจ้าของเจ้าทั้งสอง (มนุษย์และญิน) ที่เจ้าทั้งสองปฏิเสธ (สูเราะฮฺ อัลเราะหฺมาน 55 : 13)

ครั้งหนึ่งกลุ่มเชลยศึกที่เป็นกาเฟรฺถูกนำมาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ในกลุ่มของเชลยมีหญิงคนหนึ่งมีความกระวนกระวาย และวิตกกังวล อันเนื่องมาจากลูกของนางถูกแย่งไปจากมือของนาง แล้วนางก็เดินตามหาลูกของนางอย่างทุกข์ร้อนใจ เด็กทุกคนที่นางเจอนางจะอุ้มขึ้นมาให้ดื่มนมพร้อมทั้งร้องไห้ สุดท้ายนางก็หาลูกของนางจนเจอแล้วอุ้มขึ้นมาให้ดื่มนม วิญญาณแทบจะออกจากร่างของนางไป อันเนื่องมาจากความดีใจที่ได้เจอลูกของนาง ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ก็ได้กล่าวว่า

ความว่า : อัลลอฮฺนั้นทรงเมตตาต่อบ่าวของพระองค์มากกว่าผู้หญิงคนนี้ที่มีต่อลูกของนางเสียอีก (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย์ หมายเลข 2754)

มาชาอัลลอฮฺ !!! ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะหาคำพูดใดมาเอื้อนเอ่ยถึงความรักที่พระองค์มีต่อปวงบ่าว

...เพราะพระองค์คือ ผู้สร้างเรามา

...เพราะพระองค์คือ ผู้ให้ชีวิตแก่เรา

...เพราะพระองค์คือ เจ้าของชีวิตเรา

พระองค์จึงรักเรา ยิ่งกว่าตัวเราที่รักตัวเองเสียอีก

แล้วเราล่ะ รู้จักและรักพระองค์แค่ไหน ?

เพียงพอแล้วนะครับ วันนี้ที่เราตจะต้องหันกลับมาถามใจของเราเอง หากวันนี้เราต้องการซึ่งความรัก ต้องการการเอาอกเอาใจจากคนรอบข้าง ต้องการเป็นที่รักของเพื่อฝูง ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากเพื่อนสนิท ต้องการให้ทุกคนยอมรับเรา สิ่งเดียวที่เราต้องทำเพื่อให้ได้มาซึ่งความรักเหล่านี้ ซึ่งเราไม่สามารถทำให้ตัวของเราเป็นที่รักของคนทุก ๆ คนได้ เพราะเราอยู่ในสังคมมีผู้คนมากหน้าหลายตา ต่างคนก็ต่างความคิด เราตัวคนเดียว เราจึงไม่สามารถเอาอกเอาใจ ทำตัวของเราให้เป็นที่ยอมรับของคนทุกคนได้ แต่พึงรู้ไว้เถิดว่า เราเพียงคนเดียวสามารถทำตัวของเราให้เป็นบ่าวที่อัลลอฮฺทรงรักได้ เมื่ออัลกุรอานรักเราแล้วเราก็จะเป็นที่รักของทุก ๆ คน มาฟังคำพูดของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ผู้ซึ่งได้มอบความรักของท่านหมดหัวใจแด่อัลลอฮฺ และอัลลอฮฺก็ทรงรักท่านมากที่สุด

ความว่า : เมื่ออัลลอฮฺทรงรักบ่าวคนหนึ่ง อัลลอฮฺได้เรียกญิบรีลแล้วบอกว่า อัลลอฮฺทรงมีความรักต่อคนผู้นี้ ดังนั้นเจ้าจงมีความรักต่อเขาเช่นกัน ญิบรีลจะมีความรักต่อเขา และญิบรีลไดเรียกชาวฟากฟ้า (เหล่าบรรดานบี และมวลมลาอิกะฮฺ) แท้จริงอัลลอฮฺทรงมีความรักต่อคนผู้นั้น ดังนั้นท่านทั้งหลานจงมีความรักต่อเขา ชาวฟากฟ้าจะมีความรักต่อเขา ห ลังจากนั้นเขาก็ถูกวางตัวให้เป็นที่ยอมรับแด่ชาวโลก (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย์ และมุสลิม 6873)

ที่สุดแห่งหัวใจผู้ศรัทธา “รักอัลลอฮฺ”

ความว่า : และบรรดาผู้ศรัทธานั้น พวกเขาจะมอบความรักมากยิ่ง (เหนือสิ่งใด) แด่อัลลอฮฺเท่านั้น (สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ 2 : 165)

### ฝากไว้ว่า : วันนี้เรารู้จักและรักพระองค์แค่ไหน ###


…………………………..

กุญแจไขหัวใจ 
ถ่ายทอดโดย : อายะฮฺ บิน อุมัร

(จากหนังสือ : กุญแจไขหัวใจ เล่ม 1)
อดทน เพื่อชัยชนะ โพสต์







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น