อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ศิลอดของเด็ก


    เด็กซึ่งยังไม่บรรลุศาสนภาวะ ถึงแม้ว่าการถือศิลอดจะไม่จำเป็นแก่เขาก็ตาม แต่ทว่าสมควรที่ผู้ปกครอง จะใช้ให้เขาถือศิลอด เพื่อฝึกความเคยชินให้กับเด็กตั้งแต่เยาว์วัย ตามความสามารถ และกำลังของเด็กที่จะทำได้

ซึ่งในยุคท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เหล่าศอหาบะฮฺก็ให้เด็กๆของพวกเขา ถือศิลอดไปพร้อมๆกับพวกเขาด้วย

รายงานจากท่านอัรรูยบัยเยี๊ยะฮฺ บุตรีของมุเอาวิษ เล่าว่า
"ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ส่งคนหนึ่งไปยังหมู่บ้านของชาวอันศอร ในตอนเช้าของวันอาชูรอ โดยไปป่าวประกาศว่า ผู้ใดที่ตื่นตอนเช้าโดยถืลอด เขาจงถือศิลอดต่อไปให้ครบวัน และผู้ใดที่ตื่นมาโดยไม่ได้ถือศิลอด ก็จงถือศิลอดเวลากลางวันที่เหลืออยู่(ศิลอดสุนนะฮฺวันอาชูรอ) พวกเราก้ได้ถือศิลอดหลังจากนั้น และเราได้ให้เด็กๆเล็กๆ ของเราถือศิลอดด้วย และพวกเราก็ไปที่มัสยิด และทำของเล่นจากขนสัตว์ให้พวกเขาเล่น แล้วเมื่อคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเขาร้องเพราะหิวอาหาร เราก็ให้อาหารแก่พวกเขา จนกระทั้งถึงเวลาละศิลอด"

والله أعلم بالصواب


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น