อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ให้รีบละศิลอดและรับประทานอาหารสะหูรฺช่วงท้ายของเวลา



ศาสนาให้เร่งรีบละศิอด เมื่อถึงเวลาละศิลอด และให้รับประทานอาหารสะหูรฺล่าๆ ช่วงท้ายของเวลา ก่อนถึงเวลาถือศิลอด


รายงานจากอัมรฺ บินมัยมูน ว่า
ปรากฏว่าบรรดาศอหาบะฮฺของท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น เป็นผู้ที่รีบละศิลอด และจะรับประทานอาหารสะหูรฺในช่วงท้ายๆของเวลา” (บันทึกโดยอัลบัยฮากี ด้วสายรายงานที่ถูกต้อง)

รายงานจากท่านซัยดฺ บินษาบิต ริอฎียัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า
“พวกเราเคยร่วมรับประทานอาหารสะหูรฺ พร้อมกับท่านท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม หลังจากนั้นเราได้ลุกขึ้นไปละหมาด (ศุบฮฺ) ฉันได้ถามท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า : ระยะระหว่างของเวลาอาหารสะหูรฺกับเวลาละหมาดนั้นห่างประมาณเท่าไหร่?  ท่านตอบว่า : ระยะประมาณ 50 อายะ”(บันทึกหะดิษโดยอิมามบุคอรีย์ และมุสลิม)

รายงานจากซะฮฺลิบนี สะอฺดิน ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า  แท้จริงท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ถือว่ามนุษย์ยังคงอยู่ในความดี ตราบที่พวกเขารีบละศิลอด” บันทึกหะดิษโดยอิมามบุคอรีย์ และมุสลิม)



والله أعلم بالصواب


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น