อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คำกล่าวที่ว่าละหมาดตะรอเวียะห์20ร็อกอะฮฺเป็นแบบฉบับท่านนบีแต่ไม่เปิดเผย


 
คำกล่าวที่ว่า .. จากเหตุการณ์ตรงนี้ บรรดาซอฮาบะฮ์จึงถือว่า การละหมาดต้ารอเวี๊ยะนั้นจึงเป็นแบบฉบับของท่านนบี แต่ไม่ได้มีการละหมาดจำนวน 20 ร่อกาอัตอย่างเปิดเผย
เสมือนสมัยของท่านอุมัร และบุคคลหลังจากท่านอุมัรจนถึงปัจจุบัน .....
ชี้แจง
คำพูดที่ว่า .. บรรดาเศาะหาบะฮ์ถือว่าการละหมาดตะรอเวี๊ยะห์นั้น เป็นแบบฉบับของท่านนบีย์ .. เป็นคำพูดที่ถูกต้อง ...
แต่คำกล่าวที่ว่า .. แต่ไม่ได้มีการละหมาดจำนวน 20 ร็อกอะฮ์อย่างเปิดเผยเหมือนสมัยของท่านอุมัรฺ ... เป็นคำพูดที่ขัดแย้งกับหลักฐานที่ถูกต้องซึ่งถูกรายงานมาจากคำสั่งของท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. เอง และการปฏิบัติของประชาชนในสมัยของท่าน ...  
ท่านอิหม่ามมาลิก ได้บันทึกในหนังสือ อัล-มุวัฎเฎาะอ์ เล่มที่ 1 หน้า 105 หรือหะดีษที่ 249,  โดยรายงานมาจากท่านมุหัมมัด บินยูซุฟ ซึ่งรายงานมาจากน้าชายของท่านคือท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีด ร.ฎ.ว่า ...
 أَمَرَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ أُبَّىَ بْنَ كَعْبٍ وَتَمِيمًا الدَّارِىَّ أَنْ يَقُوْمَا لِلنَّاسِ بِإِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً
ท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบได้ใช้ท่านอุบัยย์ บินกะอฺบ์ และท่านตะมีม อัด-ดารีย์ให้ทั้งสองนำละหมาด (ตะรอเวี๊ยะห์)แก่ประชาชน 11 ร็อกอะฮ์ ...
ท่านอัส-สะยูฏีย์ได้กล่าวในหนังสือ อัล-มะศอเบี๊ยะห์ ฟีศ่อลาติตตะรอเวี๊ยะห์ ซึ่งรวมชุดอยู่ในหนังสือ อัล-หาวีย์ ลิ้ลฟะตาวีย์ เล่มที่ 1 หน้า 542 ว่า ...
    وَلَكِنْ فِى الْمُوَطَّأِ وَفِىْ مُصَنَّفِ سَعِيْدِ بْنِ مَنْصُوْرٍ بِسَنَدٍ فِىْ غَايَةِ الصِّحَّةِ عَنْ السَّائِبِ بْنِ يَزِيْدَ إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً ...                        
แต่ .. มีปรากฏในหนังสืออัล-มุวัฎเฎาะอ์(ของท่านอิหม่ามมาลิก) และหนังสืออัล-มุศ็อนนัฟของท่านสะอีด บินมันศูรฺ ด้วยสายรายงานที่ถูกต้องสุดๆ (จากท่านมุหัมมัด บินยูซุฟ) จากท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีด(ที่กล่าว)ว่า (ท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบได้ใช้ให้ท่านอุบัยย์ บินกะอฺบ์และท่านตะมีม อัด-ดารีย์นำประชาชนละหมาด) 11 ร็อกอะฮ์ ...
รายงานเรื่อง 11 ร็อกอะฮ์ จึงถือเป็นรายงานที่ ถูกต้องที่สุด จากคำสั่งของท่านอุมัรฺในกรณีนี้ ...
อนึ่ง อีกรายงานหนึ่งของท่านอิหม่ามมาลิก, จากท่านยะซีด บินรูมานที่กล่าวว่า
   كَانَ النَّاسُ يَقُوْمُوْنَ فِىْ زَمَنِ عُمَرَ بْنِ الْخَطَّابِ فِىْ رَمَضَانَ بِثَلاَثٍ وَعِشْرِيْنَ رَكْعَةً
ประชาชนในสมัยของท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ได้ทำละหมาด(ตะรอเวี๊ยะห์) ในเดือนรอมะฎอน 23 ร็อกอะฮ์ ...
(บันทึกโดยท่านอิหม่ามมาลิกในหนังสือ อัล-มุวัฏเฏาะอ์  เล่มที่ 1 หน้า 105 และท่านอัล-บัยฮะกีย์ในหนังสือ อัส-สุนัน อัล-กุบรออ์ เล่มที่ 2 หน้า 496)) ...
ท่านอิหม่ามนะวะวีย์ได้กล่าวในหนังสือ อัล-มัจญมั๊วะอฺ  เล่มที่ 4 หน้า 33 ว่า
                                     يَزِيْدُ بْنُ رُوْمَانَ لَمْ يُدْرِكْ عُمَرَ
ยะซีด บินรูมาน (เกิด)ไม่ทันท่านอุมัรฺ ...
ความหมายคำกล่าวข้างต้นนี้ก็คือรายงานข้างต้นนี้เป็นรายงานที่เฎาะอีฟเพราะสายรายงานขาดตอน! เนื่องจากท่านยะซีด บินรูมานผู้อ้างรายงานดังกล่าวเกิดไม่ทันยุคของท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. ...
(ท่านอุมัรฺสิ้นชีวิตปีฮ.ศ. 23,  ส่วนท่านยะซีด บินรูมานสิ้นชีวิตปีฮ.ศ. 130) ...
และสำหรับคำกล่าวของท่านอิหม่ามนะวะวีย์ในหนังสือ อัล-มัจญมั๊วะอฺ  ที่ว่า
        وَاحْتَجَّ أَصْحَابُنَا بِمَا رَوَاهُ الْبَيْهَقِىُّ وَغَيْرُهُ بِاْلإِسْنَادِ الصَّحِيْحِ عَنِ السَّائِبِ بْنِ يَزِيْدَ الصَّحَابِى رَضِىَ اللهُ عَنْهُ قَالَ : كَانُوْا يَقُوْمُوْنَ عَلَى عَهْدِ عُمَرَ بْنِ الْخَطَّابِ رَضِىَ اللهُ عَنْهُ فِىْ شَهْرِرَمَضَانَ بِعِشْرِيْنَ رَكْعَةً ........
บรรดาอัศหาบของเรา (คือนักวิชาการมัษฮับท่านอิหม่ามชาฟิอีย์) ได้อ้างหลักฐานจากการรายงานของท่านอัล-บัยฮะกีย์และผู้อื่น ด้วยสายรายงานที่ถูกต้อง .. จากท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีด ร.ฎ. เศาะหาบะฮ์ท่านหนึ่งซึ่งกล่าวว่า .. ประชาชนในสมัยของท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. ได้ทำละหมาดในเดือนรอมะฎอน 20 ร็อกอะฮ์ .......
(จากหนังสือ อัล-มัจญมั๊วะอฺเล่มที่ 4 หน้า 32-33) ...
รายงานข้างต้นนี้ ถูกบันทึกโดยท่านอัล-บัยฮะกีย์ในหนังสือ อัส-สุนัน อัล-กุบรออ์ เล่มที่ 2 หน้า 496 โดยรายงานมาจากท่านยะซีด บินคุศ็อยฟะฮ์, จากท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีด ร.ฎ. ...
สายรายงานนี้เป็นสายรายงานที่ถูกต้อง ดังคำกล่าวของท่านอิหม่ามนะวะวีย์ ...
และรายงานนี้ ถือเป็น หลัก สำคัญที่สุดของผู้ที่มีทัศนะว่า จำนวนร็อกอะฮ์ของละหมาดตะรอเวี๊ยะห์คือ 20 ร็อกอะฮ์ ...
แต่ผมขอเรียนชี้แจงว่า แม้สายรายงาน ของหะดีษนี้จะถูกต้อง แต่ ข้อความ ของมันที่กล่าวว่า 20 ร็อกอะฮ์ ถือว่าผิดเพี้ยน (เรียกตามศัพท์วิชาการหะดีษว่า شَاذٌّ) เพราะไปขัดแย้งกับรายงานที่ถูกต้องกว่าซึ่งระบุว่า 11 ร็อกอะฮ์ ...
เพราะ .. ท่านสะอีด บินมันศูรฺ ได้บันทึกในหนังสือ อัล-มุศ็อนนัฟ จากท่านมุหัมมัด บินยูซุฟ,  จากท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีด ร.ฎ. เช่นเดียวกัน แต่มีข้อความว่า ...
       كُنَّا نَقُوْمُ فِىْ زَمَنِ عُمَرَ بْنِ الْخَطَّابِ رَضِىَ اللهُ عَنْهُ بِإِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً
พวกเราทำละหมาด(ตะรอเวี๊ยะห์) กันในสมัยของท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. 11 ร็อกอะฮ์ ...
(จากหนังสือ ตุ๊ห์ฟะตุ้ล อะห์วะซีย์ เล่มที่ 3 หน้า 530) ...
โปรดสังเกตว่า ท่านยะซีด บินคุศ็อยฟะฮ์รายงานมาจากท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีด ร.ฎ.ว่า ประชาชนในสมัยท่านอุมัรฺทำละหมาดตะรอเวี๊ยะห์ 20 ร็อกอะฮ์ ...
แต่ท่านมุหัมมัด บินยูซุฟ รายงานมาจากท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีด ร.ฎ.เช่นเดียวกันว่า ประชาชนในสมัยท่านอุมัรฺ ทำละหมาดตะรอเวี๊ยะห์ 11 ร็อกอะฮ์ ...
รายงานของท่านยะซีดบินคุศ็อยฟะฮ์และท่านมุหัมมัดบินยูซุฟจึงขัดแย้งกัน ...
ในกรณีนี้ ตามหลักวิชาการหะดีษ -- จึงต้องพิจารณาถึงความ น่าเชื่อถือ ของทั้งสองท่านที่รายงานให้ขัดแย้งกันว่า ผู้ใดได้รับความเชื่อถือมากกว่า ...
ปรากฏว่า ท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้สรุปประวัติของท่านยะซีด บินคุซัยฟะฮ์ในหนังสือ ตักรีบุตตะฮ์ซีบ เล่มที่ 2 หน้า 367 (หมายเลข 278) เพียงว่า ثِقَةٌ (เชื่อถือได้) ..ซึ่งเป็นการให้ความเชื่อถือในระดับธรรมดา ...
ทั้งนี้ก็เพราะแม้ตามปกติท่านยะซีด บินคุศ็อยฟะฮ์ จะเป็นผู้รายงานที่ได้รับความเชื่อถือ แต่ท่านอิหม่ามอะห์มัดได้วิจารณ์ท่านว่าเป็น مُنْكَرُ الْحَدِيْثِ  ...
(จากหนังสือ มีซาน อัล-เอี๊ยะอฺติดาล ของท่านอัษ-ษะฮะบีย์ เล่มที่ 4 หน้า 430)
ความหมายคำพูดของท่านอิหม่ามอะห์มัดข้างต้นก็คือ ท่านยะซีด บินคุศ็อยฟะฮ์มักจะ รายงานเดี่ยว ในหะดีษซึ่งไม่มีผู้ที่เชื่อถือได้ท่านอื่นๆรายงานด้วย ..ซึ่งตามหลักการแล้วหะดีษจากการรายงานของท่าน หากมันไปขัดแย้งกับการรายงานของผู้ที่เชื่อถือได้มากกว่า ก็จะถูกปฏิเสธในฐานะเป็นหะดีษที่ผิดเพี้ยน อย่างในกรณีนี้ ...  
ส่วนท่านมุหัมมัด บินยูซุฟนั้น ท่านอิบนุหะญัรฺได้สรุปประวัติของท่านไว้ในหนังสือเล่มเดียวกัน หน้า 221 (หมายเลข 843) ว่า .. ثِقَةٌ، ثَبْتٌ (เชื่อถือได้, แน่นอนมาก) ซึ่งเป็นการให้ความเชื่อถือในระดับสูงกว่าท่านยะซีด บินคุศ็อยฟะฮ์ ..จนท่านอัส-สะยูฎีย์ถึงกับยอมรับว่า การรายงานของท่านมุหัมมัด บินยูซุฟ, จากท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีด ร.ฎ. เป็น سَنَدٍ فِىْ غَايِةِ الصِّحَّةِ .. คือ สายรายงานที่ถูกต้องสุดๆดังกล่าวมาแล้ว ...
โดยนัยนี้ ท่านมุหัมมัด บินยูซุฟ จึงได้รับความเชื่อถือจากนักวิชาการหะดีษ มากกว่าท่านยะซีด บินคุศ็อยฟะฮ์ ...
หะดีษใดที่ผู้รายงานซึ่ง ได้รับความเชื่อถือ รายงานให้ขัดแย้งกับผู้รายงานอื่นที่ ได้รับความเชื่อถือมากกว่า .. นักวิชาการจะเรียกหะดีษนั้นว่า حَدِيْثٌ شَاذٌّ .. คือ หะดีษที่ผิดเพี้ยน ซึ่งถือเป็นหะดีษเฎาะอีฟประเภทหนึ่ง ...
ดังนั้น รายงานของท่านยะซีด บินคุศ็อยฟะฮ์ที่ว่าประชากรในสมัยท่านอุมัรฺทำละหมาดตะรอเวี๊ยะห์กัน 20 ร็อกอะฮ์จึงเป็นรายงานที่เฎาะอีฟ ...
สรุปแล้ว จึงไม่มีรายงานที่ถูกต้อง .. ไม่ว่าจากการกระทำของประชากรในยุคของท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. หรือจากคำสั่งของท่านอุมัรฺเองว่า จะมีการสั่งหรือการทำละหมาดตะรอเวี๊ยะห์ 20 ร็อกอะฮ์กันอย่างเปิดเผย .. ดังการอ้างของกลุ่มกองทุนติญารียะฮ์หรือกลุ่มครูฟัรฺฎูอีน ...

ตรงกันข้าม รายงานที่ถูกต้องในเรื่องนี้ก็คือ ท่านอุมัรฺได้สั่งให้ท่านอุบัยย์และท่านตะมีมนำประชาชนละหมาดตะรอเวี๊ยะห์เพียง 11 ร็อกอะฮ์, และประชาชนในสมัยของท่านก็ทำละหมาดตะรอเวี๊ยะห์กันเพียง 11 ร็อกอะฮ์ .. ตามรายงานที่ถูกต้องของท่านมุหัมมัด บินยูซุฟ, จากท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีด ร.ฎ. ดังกล่าวมาแล้ว


والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น