ผู้ที่ละทิ้งการถือศิลอดในเดือนรอมาฎอน ซึ่งเป็นฟัรฎูสำหรับเขาแล้ว โดยที่เขาไม่มีอุปสรรค หรือได้รับอนุโลมข้อผ่อนผันแต่อย่างใด ถือว่าเป็นบาปใหญ่ ถึงขันการบวชชดทั้งปีก็ไม่สามารถชดใช้ให้แก่เขาผู้นั้นได้
รายงานจากท่านอิบนุอับบ๊าส ร่อฎียัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า ท่านรสุลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"ที่ยึดขิงศาสนาอิสลาม และหลักการศาสนา มี 3 ประการ ซึ่งบนสามประการนี้ ศาสนาได้ก่อตั้งขึ้น ผู้ใดละทิ้งอันหนึ่งอันใดจากสามประการ ถือว่าเขาเป็นกาฟิรฺ(ผู้ปฏิเสธ)เลือดเป็นที่อนุมติก็คือ (1) การปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ (2) การละหมาด 5 เวลา (3)การถือศิลอดในเดือนรอมฎอน" (บันทึกหะดิษโดยอบูยะอฺยา อัดดัยลามี โดยอัษษะหะบี ได้ถือว่าเป็นหะดิษเศาะเฮียะฮฺ)
รายงานจากท่านอบีฮุร็อยเราะฮฺ ร่อฎียัลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านรสุลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"ผุ้ดละศิลอดวันหนึ่ในเดือนรอมฎอน โดยไม่มีมีข้อผ่อนผันที่อัลอฮฺได้ผ่อนผันให้แก่เขา การถือศิลอดตลอดทั้งปีก็ไม่สามารถจะชดใช้ให้แก่เขาได้ หากเขาถือศิลอด" (บันทึกหะดิษโดยอบูดาวูดอิบนุมาญะฮฺ และอัตติรมีซย์)
อัษษะหะบี กล่าวว่า
"บรรดามุมินก็ยอมรัที่วาผู้ใดทิ้งการถือศิลอดในเดือนรอมฎอน ดดยไม่ป่วย ที่จริงแล้วเขาเลวยิ่งกว่าคนทำซินา คนติดเหล้า และทำให้เกิดความสงสัยในการเป็นอิสลามของเขา พวกเขาอาจจะคิดว่าเขาเป็นคนปฏิเสธ และออกนอกลู่นอกทาง"
والله أعلم بالصواب
.....................
ญาซากัลลอฮุคอยร็อนค่ะ...
ตอบลบ