อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

โทษผู้ละทิ่งศิลอดโดยไม่มีข้อผ่อนผัน



ผู้ที่ละทิ้งการถือศิลอดในเดือนรอมาฎอน ซึ่งเป็นฟัรฎูสำหรับเขาแล้ว โดยที่เขาไม่มีอุปสรรค หรือได้รับอนุโลมข้อผ่อนผันแต่อย่างใด ถือว่าเป็นบาปใหญ่ ถึงขันการบวชชดทั้งปีก็ไม่สามารถชดใช้ให้แก่เขาผู้นั้นได้

รายงานจากท่านอิบนุอับบ๊าส ร่อฎียัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า ท่านรสุลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"ที่ยึดขิงศาสนาอิสลาม และหลักการศาสนา มี 3 ประการ ซึ่งบนสามประการนี้ ศาสนาได้ก่อตั้งขึ้น ผู้ใดละทิ้งอันหนึ่งอันใดจากสามประการ ถือว่าเขาเป็นกาฟิรฺ(ผู้ปฏิเสธ)เลือดเป็นที่อนุมติก็คือ (1) การปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ (2) การละหมาด 5 เวลา (3)การถือศิลอดในเดือนรอมฎอน" (บันทึกหะดิษโดยอบูยะอฺยา อัดดัยลามี โดยอัษษะหะบี ได้ถือว่าเป็นหะดิษเศาะเฮียะฮฺ)

รายงานจากท่านอบีฮุร็อยเราะฮฺ ร่อฎียัลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านรสุลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"ผุ้ดละศิลอดวันหนึ่ในเดือนรอมฎอน โดยไม่มีมีข้อผ่อนผันที่อัลอฮฺได้ผ่อนผันให้แก่เขา การถือศิลอดตลอดทั้งปีก็ไม่สามารถจะชดใช้ให้แก่เขาได้ หากเขาถือศิลอด" (บันทึกหะดิษโดยอบูดาวูดอิบนุมาญะฮฺ และอัตติรมีซย์)

อัษษะหะบี กล่าวว่า
"บรรดามุมินก็ยอมรัที่วาผู้ใดทิ้งการถือศิลอดในเดือนรอมฎอน ดดยไม่ป่วย ที่จริงแล้วเขาเลวยิ่งกว่าคนทำซินา คนติดเหล้า และทำให้เกิดความสงสัยในการเป็นอิสลามของเขา พวกเขาอาจจะคิดว่าเขาเป็นคนปฏิเสธ และออกนอกลู่นอกทาง"

والله أعلم بالصواب
.....................

1 ความคิดเห็น: