แกะรอย “...ชาบีฮา...หรือ Shabbeehah..( الشبيحة ).” กองกำลังปีศาจหน่วยล่าสังหารฆาตรกรรมบ้าเลือดที่ทำการเชือดคอฝังทั้งเป็นและข่มขืนชำเราหญิงสาวชาวซีเรียอย่างสุดเหี้ยมโหดร้ายทารุณและป่าเถื่อน...ที่คอยค้ำจุนระบอบทรราชย์บาชาร์ อัลอัซซาดแห่งซีเรีย
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
โดยปกติแล้วคลินิกของดร.มูซาบ อัซซาวีที่ตั้งอยู่ทางเมืองชายฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนี่ยนของซีเร
ียเปิดรับให้การบริการรักษาโรคให้กับผู้เจ็บไข้ได้ป่วยเสมอแต่ว่าการที่จะผ่าตัดรักษาหัวใจของคนป่วยที่ส่วนลึกของหัวใจของเขาที่หวาดกลัวต่อกองกำลัง “ ชาบีฮา” ของบาชาร์ อัลอัซซาดนั้นย่อมไม่มีหมอคนไหนสามารถผ่าตัดเยียวยารักษาได้
“ พวกมันเหมือนปีศาจ” กล่าว ดร.อัซซาวี พวกมันส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มีกล้ามเนื้อที่ใหญ่โตเป็นมัดๆ ท้องพุงที่ใหญ่โต หนวดเครารุงรัง และมีร่างกายสูงใหญ่และน่าหวาดกลัว นอกจากนั้นพวกมันจะมีฮอร์โมนพิเศษสำหรับกระตุ้นทำให้ร่างกายดูพองใหญ่บึกบึงอยู่เสมอ...
ผมต้องพูดคุยกับเขาเหมือนพูดคุยกับเด็กเล็กๆเพราะว่า “ชาบีฮา” เหมือนกับคนที่ปัญญาอ่อนไม่มีมันสมอง แต่ว่าเป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้พวกมันกระทำการชั่วช้าป่าเถื่อนได้เสมอ เป็นที่หวาดกลัวของผู้คนในซีเรียเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากเป็นการผสมผสานระหว่างความไม่่มีสติปัญญา การมีใจคอที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์รวมเข้ากับการถูกปลูกฝังให้จงรักภักดีแบบถวายชีวิตต่อเจ้านายเข้าด้วยกัน และเพราะเหตุนี้พวกมันพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อบาชาร์เสมอ..
บาชาร์ อัลอัซซาดได้ใช้ความโหดร้ายป่าเถื่อนของพวกมันอย่างสมบูรณ์แบบนี้ในการห้ำหั่นบดขยี้ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลของมันทุกครั้ง จนมีผู้คนที่เป็นเหยื่อถูกสังหารและทารุณกรรมอย่างโหดเหี้ยมไม่เว้นแต่ละวันเป็นจำนวนมาก แม้นกระทั่งเด็กๆและสตรีก็ไม่ละเว้น จนกระทั่งในที่สุดความเร้นลับของ “ชาบีฮา” ก็ถูกกระชากหน้ากากออกมาสู่สายตาชาวโลกในที่สุดเมื่อมีเหตุการณ์ฆาตรกรรมสังหารหมู่ทั้งยิงและเชือดคอพลเรือนแม้กระทั่งสตรีและเด็กๆชาวซีเรียที่เมืองฮอมส์และฮูลาเมื่อครั้งที่ผ่านมาอันลือลั่นดังกระฉ่อนทั่วโลก...เหยื่อที่ถูกฆาตกรรมตายอย่างโหดร้ายทารุณที่ผ่านมานั้นเป็นผลงานของมันเองนั่นคือฝีมือของกองกำลังหน่วยล่าสังหาร “ชาบีฮา” นี้เอง
พวกมันเข้าไปในหมู่บ้านในยามวิกาลและบุกเข้าไปหาเหยื่อบ้านต่อบ้านแล้วพวกมันก็จ้วงแทงและเชือดคอเหยื่อเคราะห์ร้ายที่มันพบเห็นทุกคนโดยไม่มีการละเว้นและเมตตาปราณีใดๆทั้งสิ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นสตรีและเด็กๆเป็นว่าเล่น ในจำนวนนี้มีเด็กๆอยู่ถึง 49 ศพจากจำนวนทั้งหมด 108 ศพ
“ นั่นคือลูกชายของฉัน...ลูกชายของฉัน” เสียงสะอึ้งของชายคนหนึ่งหลังจากเขาได้เห็นสภาพศพเด็กๆและลูกของเขาที่ถูกฆาตรกรรมถูกเผยแพร่ออกมาทางยูทูบ
สำหรับสายตาชาวโลกเพิ่งจะสามารถเห็นและรับรู้เกี่ยวกับความผลงานบ้าระห่ำกระหายเลือดสุดป่าเถื่อนของ “ ชาบีฮา ” แต่สำหรับในซีเรียแล้ว ความป่าเถื่อนโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ของพวกมันเป็นที่รู้จักมานนานแสนนานแล้ว
ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ไม่สงบโดยเฉพาะการเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลแล้ว พวกมันจะถูกปล่อยออกไปตามท้องถนนเพื่อทำการราบปรามและสยบผู้ประท้วงอย่างโหดเหี้ยม พวกมันส่วนใหญ่จะมาจากชาวชีอะห์อาลาวียะห์และหลายคนก็เป็นเครือญาติของบาชาร์ อัลอัซซาดเสียด้วย พวกมันสามารถหักแข้งหักขาของผู้คนได้อย่างป่าเถื่อนและอุจอาจ และสามารถกระทำการได้ทุกอย่างเพื่อบาชาร์ อัลอัซซาดแม้นจะต้องพลีชีพของมันก็ตามแต่ มันเป็นสัญชาติญาณของพวกมันที่ได้รับการปลูกฝังมาเยี่ยงนั้น...และด้วยเหตุนี้พวกมันก็ได้รับการประกาศเชิดชูเกียรติว่าเป็นประชาชนผู้จงรักภักดีต่อบาชาร์ อัลอัซซาดมาตลอด
โดยแท้จริงแล้วผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์สังหารหมู่ที่เมืองฮูลานั้นรู้ดีว่าผู้ที่ลงมือกระทำการฆาตรกรรมอันเหี้ยมโหดครั้งนั้นไม่ใช่มาจากกำลังทหารประจำการของรัฐบาล เพราะเป็นที่สังเกตุว่าพวกมันจะสวมใส่รองเท้าผ้าใบสีขาวที่แตกต่างจากรองเท้าบู๊ทของทหาร ซึ่งในซีเรียเป็นที่รับรู้กันว่าแค่เห็นรองเท้าผ้าใบสีขาวนั้นย่อมเป็นสัญญลักษณ์แห่งความหวาดกลัวและสยองขวัญของหน้าชาวซีเรียโดยทั่วกันแล้ว ต่างหวาดกลัวความโหดร้ายป่าเถื่อนผิดมนุษย์และความอยู่เหนือกฎหมายของพวกมันมากกว่ากองกำลังทหารเสียอีก กฏหมายซีเรียจะทำอะไรพวกมันไม่ได้เลย
“ ชาบีฮา” ( الشبيحة ) ในภาษาอาหรับหมายถึงภูตผีหรือสิ่งที่น่ากลัวสยองขวัญ หรือหมายถึงกลุ่มอันธพาลที่ป่าเถื่อน แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้น “ ชาบีฮา” ชื่อเสียงพวกมันเป็นที่กล่าวขวัญกันว่าน่ากลัวสยองขวัญมากกว่าภูตผีอีก...
บาชาร์ อัลอัซซาดและพ่อของมันได้ใช้ความโหดร้ายของกองกำลังปีศาจนี้ในการค้ำบัลลังค์ของมันเพื่อให้ชาวซีเรียต่างก้มหัวสิโรราบให้กับมัน พวกมันได้ถูกทำการล้างสมองและถูกปลูกฝังจิตสำนึกให้กับพวกมันว่าชาวมุสลิมซนหนี่เป็นศัตรูตัวฉกาจของพวกมัน
อาลาวียะห์มีอยู่แค่ร้อยละ 12 ของประชากรซีเรียทั้งประเทศและจากประวัติศาสตร์นั้นซีเรียถูกปกครองโดยชาวมุสลิมซุนหนี่มาเนิ่นนานจากอดีตกาลแล้วซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาศัยอยู่ในเมืองฮอมศ์ ลาตาเกียและตามชนบทในขณะนี้
สำหรับชาวอาลาวียะห์เป็นที่รับรู้ว่าความเชื่่อในเรื่องการละหมาดนั้นไม่ใช่หลักการของศาสนา และไม่มีการถือศีลอดและไม่มีการประกอบพีธีฮัจญ์ อีกทั้งความเชื่อและหลักการของพวกนี้มันนั้นเร้นลับอีกทากมายที่ไม่อาจล่วงรู้ได้ และตามที่นักปราชญ์หลายคนต่างให้ความเห็นว่าพวกนี้มีความเชื่อพื้นฐานที่คล้ายศาสนาคริสต์แต่มุสลิมซุนหนี่ถือว่าพวกนี้เป็นพวกนอกรีตที่หลุดออกจากอิสลามแล้ว
หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิอุษมาณียะห์ ผู้ปกครองซีเรียที่ได้รับการหนุนหลังจากฝรั่งเศสต้องการป้องกันไม่ให้กลุ่มมุสลิมซุนหนี่กลับมามีอำนาจในซีเรียอีก จึงได้สร้างกองกำลังอาลาวียะห์นี้และฝังตัวอยู่ในกองทัพของซีเรียเพื่อมากระทำการห้ำหั่นมุสลิมซุนหนี่ในซีเรียกลับมาเรือนอำนาจอีก
ในที่สุดพวกอาลาวียะห์ก็สามารถฝังตัววางรากฐานและมีอิทธิพลทางการเมืองของซีเรียอย่างใหญ่โตและกว้างขวางมาก สามารถควบคุมหน่วยงานความมั่นคงสูงสุดและทางการทหารของประเทศ ซึ่งเป็นที่มาของฮัฟฟิซ อัลอัซซาดผู้เป็นพ่อของบาชาร์ในการปฏิวัติยึดอำนาจของซีเรียจวบจนกระทั่งทุกวันนี้
แรกเริ่มนั้นพวก “ชาบีฮา” เป็นกลุ่มมาเฟีย ซึ่งมีรายหลักได้จากการกิจกรรมที่ผิดกฎหมายทั้งหลายในซีเรีย การขู่เข็ญและการช่อโกงลักลอบค้าขายสินค้าเถื่อนกับต่างประเทศ และตระกูลอัลอัซซาด ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับอาชญากรกลุ่มนี้ ไม่สนใจว่าพวกนี้จะโหดร้ายอย่างไร มิหนำซ้ำกลับเอาพวกอันธพาลที่โหดเหี้ยมและดุร้ายเหล่านี้มาเป็นพรรคพวกและตั้งเป็นกองกำลังป้องกันพวกเขา พวกเขาถูกปลุกฝังว่าพวกเขากำลังต่อสู้ทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด พวกเขาจะต้องปกป้องและพร้อมที่จะยอมตายเพื่อรัฐบาล พวกเขามักจะกล่าวเสมอๆว่า บาชาร์ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้นเพราะท่านมีกองกำลังที่กระหายเลือดคอยให้การคุ้มกันอยู่เคียงข้างเสมอ
อารีน อัลอัซซาดซึ่งมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติที่ใกล้ชิดกับบาชาร์ อัลอัซซาดและเป็นหนึ่งในสมาชิกแกนนำของ"ชาบีฮา" พวกมันส่วนใหญ่ได้รับการคัดสันเลือกมาจากสโมสรนักกีฬาเพาะกล้ามต่างๆ ที่ถูกอัดเสริมกระตุ้นด้วยฮอร์โมนเสตอรอยด์ และพวกเขาก็ได้รับการเลี้ยงดูและฝึกฝนอย่างเยี่ยงสัตว์และผู้เป็นนายสามารถสั่งการให้พวกมันทำอะไรก็ได้แม้นจะโหดเหี้ยมป่าเถื่อนเพียงใด พวกมันก็พร้อมจะทำตามคำสั่งเสมอ
ฮัมซา อัลบูไวดา, หนึ่งในสมาชิกของผู้ต่อต้านรัฐบาลกล่าวว่าเมื่อครั้งที่เขาเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยนั้นเขาต้องมองบาชาร์เหมือนพระเจ้า ไม่มีใครกล้าลบหลู่ดูหมิ่นหรือกล่าวอะไรในทางที่ไม่ดีเกี่ยวกับเขาเลย มันมีความเชื่อบางอย่างในศาสนาของเขาที่คอยกำกับให้พวกเขาเป็นเยึ่ยงนั้น พวกเขาถูกปลูกฝังล้างสมองจากทางการซีเรียเสมอว่าชาวมุสลิมซุนหนี่เป็นศัตรูตัวฉกาจของพวกมัน และถ้าหากว่าบาชาร์ล่มสลายจากอำนาจไปแล้วพวกมันก็จะต้องถูกกำจัดไปจนสิ้นซากอย่างแน่นอน
พวกมันได้รับการสนับสนุนทางด้านอาวุธจากกองทัพอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในยามที่มีการปราบปรามสลายผู้ชุมนุมพวกมันจะถูกปล่อยออกมากำหราบผู้ชุมนุมเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับกำลังทหารแต่ที่ต่างกันคือพวกมันโหดเหี้ยมยิ่งกว่าทหารยิ่งนัก พวกมันจะสวามิภักดิ์ต่อเจ้านายอย่างยิ่งยวดและลงมือกระทำการอย่างบ้าคลั่งตามคำสั่งของเจ้านาย ที่สำคัญยิ่งคือลูกพี่ลูกน้องของบาชาร์เองที่มีชื่อว่า “นูมีร์” มีตำแหน่งสำคัญในองค์กรลับ “ซาบีฮา” นี้ และองค์กรลับนี้ก็ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากนักธุรกิจอาลาวีย์ซึ่งมีสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่นกันมากกับรัฐบาลของบาชาร์
เป็นที่รู้กันว่า “ซาบีฮา” มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการค้ำบัลลังค์ของรัฐบาลกดังนั้นค่าตอบแทนของ "ซาบีฮา"นั้นย่อมมากกว่าเงินเดือนของทหารทั่วไปมาก และ “ชาบีฮา” ยังมีเหตุผลอื่นๆอีกที่จำเป็นต้องเก็บบาชาร์ไว้ให้อยู่ในอำนาจต่อไป เพราะสถานะของพวกมันจะต้องตกที่นั่งลำบากอย่างแสนสาหัสแน่นอนถ้าหากว่ารับบาลบาชาร์ล่มสลายไป...
พวกมันถูกปลุกฝังและตอกย้ำไว้เสมอว่าบาชาร์เป็นผู้ค้ำจุนพวกมันและหากว่าบาชาร์ล่มสลายจากอำนาจแล้วย่อมจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน พวกมันย่อมรู้ดีและเพื่อความอยุ่รอดของพวกมัน พวกมันจึงพร้อมเสมอที่จะเข่งฆ่าฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทุกคน แม้นกระทั่งจะต้องเหี้ยมโหดป่าเถื่อนถึงขั้นเชือดคอเด็กๆทิ้งก็ตามพวกมันก็พร้อมที่จะทำ... นี่คือความเป็นมาเคร่าๆของกองกำลังปีศาจบ้าเลือดหน่วยล่าสังหารอันเหี้ยมโหดและป่าเถื่อนที่คอยค้ำบัลลังค์บาชาร์ อัลอัซซาดแห่งซีเรีย...
เรียบเรียงโดย Ana Ghurabaa' Belkarsma ( Najmulfaton )
แหล่งอ้างอิง :
http://en.wikipedia.org/wiki/Shabihahttp://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/middleeast/syria/9307411/The-Shabiha-Inside-Assads-death-squads.html
http://www.npr.org/2012/06/08/154600984/assads-shabiha-terrorize-syrians-after-shelling
.................................
Najmulfaton Belkarsma
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น