1. คุณทราบหรือไม่ว่า.. บิดอะฮฺในกิยามูรอมฎอนคือ การอ่านสูเราะฮฺอัล อันอามในรอกะอะฮฺเดียว โดยเจาะจง อ่านในสูเราะฮฺสุดท้ายของตะรอวิฮฺ ในคืนที่ 7 หรือก่อนหน้านั้น โดยอิหม่ามบางมัสยิดที่ไม่รู้ได้กระทำขึ้น โดยอ้างหลักฐานที่อ่อนและไม่ได้เป็นหลักฐานในเรื่องดังกล่าว สูเราะฮฺอัลอันอามถูกประทานลงมาทั้งหมด ในครั้งเดียว ซึ่งมีมลาอิกะฮฺ70,000 ท่าน เป็นผู้มาส่ง จึงทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดในเรื่องดังกล่าว
2. คุรทราบหรือไม่ว่า.. การนมาซตะรอวิฮฺหลังมัฆริบเป็นบิดอะฮฺที่พวกรอฟีเฎาะฮฺได้กระทำขึ้น เพราะพวกเขา ไม่ชอบนมาซตะรอวิฮฺ และอ้างว่าเป็นบิดอะฮฺที่ท่านอุมัรฺได้ทำขึ้น ดังนั้นเมื่อพวกเขานมาซก่อนอีชาอฺจึงไม่ถือว่า เป็นนมาซตะรอวิฮฺ
ท่ายชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮฺ ได้ถูกถามเกี่ยวกับผู้ที่นมาซตะรอวิฮฺหลังมัฆริบว่าเป็นสุนนะฮฺหรือบิดอะฮฺ? โดยพวก เขากล่าวว่า ท่านอิหม่ามอัชชะฟิอีย์ได้ละหมาดตะรอวิฮฺหลังมัฆริบ และนมาซให้ครบสมบูรณ์หลังอิชาอฺ ? ทานได้ตอบ ว่า (สรุปจากคำตอบของท่าน) สุนนะฮฺในการนมาซตะรอวิฮฺนั้นจะนมาซหลังอิชาอฺ ดังที่ชาวสลัฟ และบรรดาอะอิมมะฮ ฺเห็นตรงกันและการที่ถูกถ่ายทอดมาจากท่านอิหม่ามอัชชาฟิอีย์นั้นบาฏิล(ไม่ถูกต้อง) ดังนั้นผู้ใดที่นมาซตะรอวิฮฺก่อนอิชาอฺแนนอนเขาได้ดำเนินตามแนวทางของพวกบิดอะฮิ ผู้ที่ทำค้านกับสุนนะฮ ฺวัลลอฮุอะอฺลัม (มัจญมูอุลฟะตาวา)
ท่านได้ตอบว่า (สรุปจากตำตอบของท่าน) ที่ถูกต้องนั้นไม่ให้ปฏิบัติการนมาซนี้ ไม่มีอะอิมมะฮฺคนใดจากบรรดา มุสลิมส่งเสริมให้กระทำ ยิ่งไปกว่านั้น เป็นบิดอะฮิที่น่ารังเกียจซึ่งเป็นมติของอะอิมมะฮฺ ไม่ได้เป็นการกระทำของ ท่านรสูล(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) บรรดาเศาะฮาบะฮฺ ตาบิอีน (มัจญมูอุลฟะตาวา)
4. คุณทราบหรือไม่ว่า… บิดอะฮฺในรอมฎอนขณะที่มีการคอตมุลกุรอ่าน (อ่านกุรอ่านจบ) จะมีการรวมอายะฮฺ ที่มีการสุญูด (อายะฮฺอัสสัจญดาต) ทุกๆอายะฮฺในร็อกอะฮฺเดียว
ท่าน อบูชามะฮิได้กล่าวว่า ได้มีคนทำบิดอะฮฺขึ้นโดยการรวมอายะฮฺอัสสัจญดะฮฺ และจะอ่านอายะฮฺต่าง ๆ ในคืนที่มีการอ่านกุรอ่านจบและในนมาซตะรอวิฮฺ และบางคนได้เอามาแทนอายะฮฺอัสสัจญดะฮฺโดยการอ่าน อัตตะฮฺลีลทุก ๆ อายะฮฺที่มีการกล่าว
(لا إله إلا الله) أو ( لا إله إلا هو )
โดยจะอ่านไปจนจบ ดังกล่าวก็เป็นบิดอะฮฺเช่นกัน
6. คุณทราบหรือไม่ว่า… มีบิดอะฮิ “ชิกรฺ” (การรำลึก) หลังให้สลามหมายถึง จะมีการซิกรฺทุก ๆ ครั้ง หลังการให้ สลามของการนมาซตะรอวิฮฺและบรรดาผู้นมาซจะกล่าวด้วยเสียงดัง โดยทำพร้อมๆกัน ทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นบิดอะฮฺ
และเชานเดียวกันคำพูดของมุอัซซินหลังจากการซิกรฺ ก็เป็นบิดอะฮฺซึ่งเขาจะกล่าวว่า (อัศศ่อลาตู้ ยัรฺมุกุมุลลอฮา) นี่ก็เป็นอุตรกรรมอีกอย่างหนึ่ง ไม่ได้มีรายงายว่าท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)ทำหรือยอมรับ และเช่น เดียวกัน จากบรรดาเศาะฮาบะฮฺ ตาบีอีนชาวสลัฟ การอุตริในศาสนาเป็นสิ่งต้องห้าม แนวทางที่ดีคือแนวทางของ ท่านนบีมุฮัมหมัด(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) และคูละฟาอฺหลังจากท่านและบรรดาเศาะฮะบะฮฺ พวกเขาไม่ได้ ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดจากสิ่งนี้เลย..(อัลมัดค้อล ลิบนิลหาจญฺ)
7. คุณทราบหรือไม่ว่า.. มีบิดอะฮิในคืนค็อตมุ้ลกุอาน (อ่านกุรอานจบ) โดยมุอัซซินจะรวมตัวในคืนดังกล่าว โดยทำการตักบีรเป็นกลุ่มขณะทีอยู่ในนมาซ ทั้งๆที่ไม่มีความต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นบางคนจากมุอัซซิน กล่าวโดยให้มะอฺมูมได้ยินแต่ตัวเองไม่ได้นมาซ
- เมื่อผู้อ่านอัลกุรอานได้ออกมาจากสถานที่เขานมาซ จะมีฬ่อหรือม้ามาให้เขาขี่ หลังจากนั้นก็จะมีการไปส่งเขา ที่บ้าน บางคนอ่านอัลกุรอานข้างหน้าเขา มุอัซซินจะนำการตักบีรข้างหน้าเขาเหมือนกับตักบีรอีด
- บรรดาคนยากจนที่ทำการซิกรฺจะเดินนำหน้าผู้ที่อ่านอัลกุรอานจนกว่าเขาจะไปถึงบ้าน บางคนก็นำเสียงเพลง มาแทนในเรื่องดังกล่าว อันนี้ยิ่งร้ายแรงกว่า ทั้งๆที่ทั้งหมดนั้นก็เป้นที่ต้องห้าม
- และยังมีการตีกลองนำหน้าผู้อ่านในขณะที่เดินทางไปยังบ้านของเขา
- มีการทำอาหารและของหวานบางอย่างในโอกาสนี้ด้วย และยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย
8. คุณทราบหรือไม่ว่า… บิดอะฮฺอีกประการหนึ่งคือ การที่ผู้คนได้เขียนในกระดาษที่เรียกว่า “หะฟาอิซ” (حفا ئظ ) โดยจะเขียนในญุมูอะฮิสุดท้ายของรอมฎอน โดยเรียกญูมุอะฮฺนี้ว่า “ญุมุอะฮฺยะตีมะฮฺ” เขียนในช่วงที่มีการคุตบะฮฺ โดยเขียนคำว่า
(لا آلاء إلا آلاؤك سميع محيط علمك كعسهلون وبالحق أنزلناه وبالحق نزل )
ซึ่งคนที่โง่เขลาที่ทำบิดอะฮฺนี้มีความเชื่อว่ามันจะช่วยปกป้องไฟไหม้จมน้ำ ขโมยและโรคร้าย
9. คุณทราบหรือไม่ว่า มีบิดอะฮิที่เกิดขึ้นคือ การจัดงานเพื่อรำลึกถึงสงครามบัดรฺ โดยจะจัดขึ้นในคืนที่สิบเจ็ด รอมฎอน โดยผู้คนจะมารวมตัวที่มัสญิด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นคนทั่วไป (เอาวาม) บางคนก็อ้างว่าเป็นผู้รู้ โดยจะเริ่มในงานของพวกเขาด้วยอายะฮิอัลกุรอาน หลังจากนั้นก็กล่าวถึงเรื่องราวในสงครามบัดรฺ และวีรกรรม ของบรรดาเศาะฮะบะฮฺ บ้างก็เกินเลยในเรื่องของความจริง และบางประเทศมุสลิมก็จัดอย่างเป็นทางการ
นี่คือบางส่วนจากบิดอะฮฺที่ถูกจัดให้มีขึ้น และเป็นสาเหตุให้บรรดาผู้คนออกห่างจากสิ่งที่อัลลอฮฺและรสูลของ พระองค์ได้กำหนดขึ้น และที่เป็นบะลาอฺที่ยิ่งใหญ่ก็คือ บรรดามุสลิมทิ้งสิ่งที่เป็นบทบัญญัติและนำสิ่งที่เป็น อุตริกรรมขึ้นมา
والله أعلم بالصواب
**************
ดย อ.ยูซุฟ ศรีมาลา
วารสารใต้ร่มเงาอิสลาม ฉบับที่ 61 สิงหาคม 2552
http://www.warasatussunnah.net/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น