อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ละหมาดตะรอเวียะห์ก็คือละหมาดยามค่ำคืนของเดือนรอมะฎอน


ละหมาดตะรอเวียะห์ ก็คือ ละหมาดในยามค่ำคืนของเดือนรอมะฎอน หรือกิยามุรอมะฎอน หรือกิยามุ้ลลัยล์ หรือศ่อลาตุ้ลลัยล์ คำว่าตะรอเวียะห์ เป็นคำศัพท์ที่นักวิชาการยุคหลังได้กำหนดหรือบัญญัติขึ้นมา เพราะในทุกๆ 4 ร็อกอะฮ์ของการละหมาดนี้จะมีการ “หยุดพัก” กัน 1 ครั้ง เพื่อไปฏอว้าฟบัยตุ้ลลอฮ์ การหยุดพักนี้ ชาวอาหรับจะเรียกว่า “ตัรฺวีหะฮ์” ซึ่งมีพหูหจน์เป็นคำว่า “ตะรอเวี๊ยะห์”

-คำว่า “กิยามุรอมะฎอน”
ท่านศาสดา ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
              مَنْ قَامَ رَمَضَانَ إِيْمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَلَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ
“ผู้ใดยืน(ละหมาดยามค่ำคืน)ในเดือนรอมะฎอน ด้วยความศรัทธาและแสวงหาผลบุญจากอัลลอฮ์ เขาก็จะถูกอภัยโทษให้ในบาป(เล็ก)ของเขาที่ผ่านมาแล้ว”
(บันทึกโดย ท่านบุคอรีย์,  ท่านมุสลิมและท่านอื่นๆ โดยรายงานมาจากท่านอบูฮุร็อยเราะฮ์ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ)

คำว่า قَامَ رَمَضَانَ กับคำว่า قِيَامُ رَمَضَانَ มีที่มาจากรากศัพท์เดียวกันและมีความหมายอย่างเดียวกัน คือ การยืนละหมาดยามค่ำคืนในเดือนรอมะฎอน

-คำว่า “กิยามุ้ลลัยล์”  (ยืนละหมาดยามค่ำคืน) มีบันทึกในหะดีษหลายบทด้วยกัน  ตัวอย่างเช่นหะดีษบทหนึ่งจากท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร.ฎ.ที่กล่าวว่า

           لاَ تَدَعْ قِيَامَ اللَّيْلِ! فَإِنَّ رَسُوْلَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لاَ يَدَعُهُ

“ท่านอย่าละทิ้งการยืน(ละหมาด)ในยามค่ำคืนเป็นอันขาด เพราะท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมไม่เคยละทิ้งมัน ...”
(บันทึกโดยท่านอิหม่ามอะห์มัด เล่มที่ 6 หน้า 249)

-คำว่า “ศ่อลาตุ้ลลัยล์”  (ละหมาดยามค่ำคืน)  ท่านศาสดา ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
                                صَلاَةُ اللَّيْلِ مَثْنىَ مَثْنىَ
“การละหมาดยามค่ำคืนนั้น ให้ทำทีละสองร็อกอะฮ์, ทีละสองร็อกอะฮ์”
(บันทึกโดยท่านบุคอรีย์,  ท่านมุสลิม,  ท่านอิหม่ามมาลิก,  ท่านอบูอะวานะฮ์ โดยรายงานจากท่านอิบนุอุมัรฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุมา)

 “ละหมาดตะรอเวี๊ยะห์” ดังที่รู้จักกันแพร่หลายในปัจจุบัน จึงไม่เป็นที่รู้จักหรือเรียกกันในยุคของท่านท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม,  ยุคของเศาะหาบะฮ์หรือยุคของตาบิอีนแต่อย่างใด

والله أعلم بالصواب
***********

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น