อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การละศีลอดสำหรับผู้ที่กำลังเดินทางโดยเครื่องบิน



คำถาม

เวลาใดที่เป็นเวลาในการละศีลอด  สำหรับผู้ที่กำลังเดินทางโดยเครื่องบิน ?


บรรดาการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของพระองค์อัลลอฮ์

คำตอบ

กรณีที่ 1

          ถ้าหากว่าผู้เดินทางยังคงอยู่บนพื้นดิน  แล้วดวงอาทิตย์ได้ตกดินแล้ว  ณ เวลานี้เขาก็สามารถที่จะทำการละศีลอดได้  แต่ถ้าภายหลังจากนั้น  เมื่อเครื่องบินได้ทำการบินขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วส่งผลทำให้เขาสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ได้  ในเหตุการณ์เช่นนี้  เขาไม่ต้องทำการหยุดการกินและการดื่ม  เพราะว่าการถือศีลอดของเขานั้น  ได้เสร็จสิ้นไปอย่างสมบูรณ์แล้ว  กล่าวคือเขาไม่จำเป็นจะต้องทำการถือศีลอดใหม่อีกครั้ง  ภายหลังจากที่เขาได้ทำการถือศีลอดเสร็จสิ้นไปแล้ว

          แต่ในกรณีที่เครื่องบินได้ทำการบินขึ้นสู่ท้องฟ้า  ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะตกดิน  ในกรณีนี้ถ้าเขาต้องการที่จะทำการถือศีลอดต่อไปจนครบวันในขณะที่เขากำลังเดินทางอยู่  เขาก็ไม่ควรจะทำการละศีลอดจนกว่าดวงอาทิตย์จะตกดิน  ซึ่งจะพิจารณาเวลาที่ดวงอาทิตย์ตกดิน  ตามดินแดนหรือพื้นที่  ที่เครื่องบินโดยสารของเขา  บินอยู่เหนือดินแดนนั้น

         และไม่เป็นการอนุญาตสำหรับนักบินในการที่เขาจะทำการลดระดับการบินลง  เพื่อทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ได้  อันจะส่งผลให้ผู้ถือศีลอดสามารถทำการละศีลอดได้เร็วขึ้น  เพราะว่าการกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็น วิธีที่พลิกแพลง  แต่ถ้านักบินทำการลดระดับการบินเนื่องด้วยเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคทางการบิน  ซึ่งที่ระดับดังกล่าวนี้ส่งผลให้ไม่สามารถมองห็นดวงอาทิตย์ได้  ในกรณีเช่นนี้เขาสามารถที่จะทำการละศีลอดได้เลย

(จากการฟัตวาของท่าน Shaykh Ibn Baaz ในหนังสือ Sab’oon Mas’alah fi’l-Siyaam หัวข้อ 70 ข้อที่เกี่ยวข้องกับการถือศีลอด)


กรณีที่ 2

          การถือศีลอดของผู้ที่กำลังเดินทางอยู่บนเครื่องบินนั้น  เขาสามารถที่จะทำการละศีลอดได้ด้วยกับการดูเวลาที่ระบุอยู่บนนาฬิกาหรือบนโทรศัพท์ได้  ซึ่งจะใช้เวลาละศีลอดเป็นเวลาเดียวกันกับเวลาละศีลอดของเมืองที่อยู่ใกล้ ๆ กับการบินของเครื่องบินนั้น  แต่ถ้าหากว่าเขายังคงมองเห็นดวงอาทิตย์อยู่เนื่องมาจากว่า  เครื่องบินนั้นบินอยู่บนที่สูง  เขาก็ยังไม่สามารถที่จะทำการละศีลอดได้  แม้ว่าเวลาบนนาฬิกาจะระบุว่าถึงเวลาที่ละศีลอดได้แล้วก็ตาม  ดังพระดำรัสของพระองค์อัลลอฮ์  ว่า

“แล้วพวกเจ้าจงให้การถือศีลอดครบเต็ม  จนถึงพลบค่ำ”  (ซูเราะฮ al-Baqarah 2:187)

          จากเงื่อนไขข้างต้นนี้  จะไม่ถูกนำมาใช้กับผู้ที่เดินทางในกรณีที่ 1 เนื่องผู้เดินทางในกรณีที่ 2 นั้นเขายังคงมองเห็นดวงอาทิตย์อยู่ระหว่างการเดินทางของเขา

          ซึ่งแตกต่างจากผู้เดินทางในกรณีที่ 1 ที่เขาสามารถทำการละศีลอดได้ตามเวลาของเมืองที่เขากำลังอยู่ที่นั่นก่อนที่เครื่องบินจะบินขึ้น  ซึ่งดวงอาทิตย์ได้ตกไปแล้ว  อันถือว่าเป็นการสิ้นสุดของวันไปแล้ว และเมื่อเครื่องบินของเขาได้ทำการบินขึ้นสู่ท้องฟ้า  แล้วทำให้เขาได้มองเห็นดวงอาทิตย์อีกครั้ง  เขาก็สามารถทำการละศีลอดต่อไปได้เลย  แม้ว่าเขาจะมองเห็นดวงอาทิตย์อีกครั้งก็ตาม  เพราะเขายึดเวลาในการละศีลอดตามเมืองที่เขาอยู่ก่อนที่เครื่องบินจะขึ้น

ส่วนฟัตวาอื่นนั้น  คณะกรรมการได้กล่าวว่า

            บุคคลที่อยู่บนเครื่องบินขณะที่วันเดินทางของเขานั้นอยู่ในเดือนรอมาฎอนแล้วเขาได้ทำการถือศีลอด  และเขาต้องการที่จะทำการถือศีลอดต่อเนื่องให้ครบจนถึงเวลาพลบค่ำ  ไม่เป็นการอนุญาตสำหรับเขาที่จะทำการละศีลอดก่อนที่ดวงอาทิตย์จะตกดิน


والله أعلم بالصواب

(จาก Majmoo’ Fataawa al-Lajnah al-Daa’imah, 10/136-137)


ที่มา http://www.islamqa.com/en/ref/37670

แปลโดย นูรุ้ลนิซาอ์



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น