
ถึงแม้ว่าท่านจะต้องกัดกินรากไม้จนความตายมาถึง
عَنْ أَبُو إِدْرِيسَ الْخَوْلَانِيُّ أَنَّهُ سَمِعَ حُذَيْفَةَ بْنَ الْيَمَانِ -رَضِيَ اللهُ عَنْهُ- يَقُولُ :
كَانَ النَّاسُ يَسْأَلُونَ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ عَنْ الْخَيْرِ وَكُنْتُ أَسْأَلُهُ عَنْ الشَّرِّ مَخَافَةَ أَنْ يُدْرِكَنِي؛ فَقُلْتُ: " يَا رَسُولَ اللَّهِ! إِنَّا كُنَّا فِي جَاهِلِيَّةٍ وَشَرٍّ فَجَاءَنَا اللَّهُ بِهَذَا الْخَيْرِ فَهَلْ بَعْدَ هَذَا الْخَيْرِ مِنْ شَرٍّ؟ " قَالَ: "نَعَمْ"، قُلْتُ: وَهَلْ بَعْدَ ذَلِكَ الشَّرِّ مِنْ خَيْرٍ؟ قَالَ: "نَعَمْ، وَفِيهِ دَخَنٌ"، قُلْتُ:" وَمَا دَخَنُهُ؟" قَالَ: "قَوْمٌ يَهْدُونَ بِغَيْرِ هَدْيِي، تَعْرِفُ مِنْهُمْ وَتُنْكِرُ"؛ قُلْتُ:" فَهَلْ بَعْدَ ذَلِكَ الْخَيْرِ مِنْ شَرٍّ؟." قَالَ: "نَعَمْ، دُعَاةٌ إِلَى أَبْوَابِ جَهَنَّمَ مَنْ أَجَابَهُمْ إِلَيْهَا قَذَفُوهُ فِيهَا"، قُلْتُ: "يَا رَسُولَ اللَّهِ! صِفْهُمْ لَنَا؟ " فَقَالَ: "هُمْ مِنْ جِلْدَتِنَا وَيَتَكَلَّمُونَ بِأَلْسِنَتِنَا"، قُلْتُ: " فَمَا تَأْمُرُنِي إِنْ أَدْرَكَنِي ذَلِكَ؟ " قَالَ: "تَلْزَمُ جَمَاعَةَ الْمُسْلِمِينَ وَإِمَامَهُمْ"، قُلْتُ:" فَإِنْ لَمْ يَكُنْ لَهُمْ جَمَاعَةٌ وَلَا إِمَامٌ؟!"قَالَ: "فَاعْتَزِلْ تِلْكَ الْفِرَقَ كُلَّهَا وَلَوْ أَنْ تَعَضَّ بِأَصْلِ شَجَرَةٍ حَتَّى يُدْرِكَكَ الْمَوْتُ وَأَنْتَ عَلَى ذَلِكَ
صحيح البخاري: 7084,3606 , صحيح مسلم: 1847 : واللَّفظ للبُخاري
จากอบู อิดฺรีส อัลเคาลานียฺ ซึ่งท่านได้ยิน ท่านหุซัยฟะหฺ บิน อัลยะมาล เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ ได้กล่าวว่า :
“ผู้คนต่างถามท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ถึงสิ่งดีงาม(ที่จะเกิด) แต่ฉันถามท่านถึงสิ่งเลวร้ายเพราะกลัวจะเกิดทันฉัน แล้วฉันก็ได้กล่าวถามว่า “โอ้ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ แท้จริงพวกเราเคยอยู่ในความเขลาและความเลวร้าย แล้วอัลลอฮฺก็ทรงนำสิ่งที่ดีงามนี้มาให้เรา แล้วหลังจากสิ่งดีงามนี้ยังจะมีสิ่งเลวร้ายอีกไหม?” ท่านกล่าวตอบว่า “มีสิ” ฉันกล่าวถามว่า “และหลังสิ่งเลวร้ายนั้นยังจะมีสิ่งดีงามไหม” ท่านกล่าวตอบว่า “มีสิ และในนั้นก็มีความมึดมนอยู่ด้วย” ฉันกล่าวถามว่า “แล้วความมึดมนของมันคืออันใดหรือ?” ท่านกล่าวตอบว่า “คือชนกลุ่มหนึ่งสอนทางนำที่ไม่ใช่ทางนำของฉัน ท่านรู้จักบางคนในพวกเขา ท่านจะรังเกียจ” ฉันกล่าวถามว่า “และหลังจากสิ่งดีงามนั้นยังมีสิ่งเลวร้ายอีกไหม?” ท่านกล่าวตอบว่า “มีสิ คือนักเผยแผ่ที่อยู่บนประตูนรก ใครเชื่อฟังพวกเขาพวกเขาก็จะจับโยนลงไปในนั้น” ฉันกล่าวถามว่า “โอ้ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ โปรดบอกเราเถิด ถึงลักษณะของพวกเขา” ท่านกล่าวตอบว่า “พวกเขามีผิวพรรณเดียวกับพวกเรา และพูดภาษาเดียวกับพวกเรา” ฉันกล่าวถามว่า “แล้วท่านจะใช้ให้เราทำประการใดหากสิ่งนั้นมาเกิดทันเรา” ท่านกล่าวตอบว่า “ให้ท่านอยู่กับกลุ่มใหญ่ของมุสลิม และอยู่กับผู้นำของพวกเขา” ฉันกล่าวถามว่า “แล้วหากพวกเขาไม่มีกลุ่มใหญ่ และไม่มีผู้นำเล่า?” เขากล่าวตอบว่า “ท่านก็จงปลีกตัวจากกลุ่มก๊กต่างๆทั้งหมด และถึงแม้ว่าท่านจะต้องกัดกินรากไม้จนความตายมาถึง ในสภาพที่ท่านก็ยังอยู่บนสิ่งนั้น(ความถูกต้อง)ได้”
เศาะฮีหฺ อัลบุคอรียฺ : 3606,7084 , เศาะฮีหฺ มุสลิม : 1847 : และเป็นสำนวนของอัลบุคอรียฺ
ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุมัสอู๊ด ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ สาวกของท่านนบี ได้กล่าวว่า
"อัลญะมาอะฮฺ คือ สิ่งที่อยู่บนสัจธรรมแม้ว่าจะเป็นตัวท่านคนเดียวก็ตาม" (มัจมูอะฟะตาวาย์วะมะกอลาตมุตะเนาวิอะฮฺ เล่ม 8 หน้า 179)
ประดุจดั่งผู้ที่กำลังกำถ่านไฟอันร้อนระอุ
عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ رضي الله عنه ، قَالَ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم :
" يَأْتِي عَلَى النَّاسِ زَمَانٌ الصَّابِرُ فِيهِمْ عَلَى دِينِهِ كَالْقَابِضِ عَلَى الْجَمْرِ "
صحيح-الألباني"صحيح الترمذي": 2260 ,صحيح-الألباني"صحيح الجامع": 8002
จากท่านอนัส บิน มาลิก เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า :
“จะมีมาซึ่งยุคหนึ่งในมวลมนุษย์ ที่เวลาแห่งความอดทนของผู้ที่ยึดมั่นในศาสนาของเขา ประดุจดั่งผู้ที่กำลังกำถ่านไฟอันร้อนระอุ”
เศาะฮีหฺ–อัลบานียฺ "เศาะฮีหฺ อัตติรฺมีซียฺ" : 2260 , เศาะฮีหฺ–อัลบานียฺ "เศาะฮีหฺ อัลญามิอฺ" : 8002
ทว่าพวกท่านเหมือนดั่งฟองน้ำในทะเล
عَنْ ثَوْبَانَ رضي الله عنه ، قَالَ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم
" يُوشِكُ الأُمَمُ أَنْ تَدَاعَى عَلَيْكُمْ كَمَا تَدَاعَى الأَكَلَةُ إِلَى قَصْعَتِهَا " . فَقَالَ قَائِلٌ وَمِنْ قِلَّةٍ نَحْنُ يَوْمَئِذٍ قَالَ " بَلْ أَنْتُمْ يَوْمَئِذٍ كَثِيرٌ وَلَكِنَّكُمْ غُثَاءٌ كَغُثَاءِ السَّيْلِ وَلَيَنْزِعَنَّ اللَّهُ مِنْ صُدُورِ عَدُوِّكُمُ الْمَهَابَةَ مِنْكُمْ وَلَيَقْذِفَنَّ اللَّهُ فِي قُلُوبِكُمُ الْوَهَنَ " . فَقَالَ قَائِلٌ يَا رَسُولَ اللَّهِ وَمَا الْوَهَنُ قَالَ " حُبُّ الدُّنْيَا وَكَرَاهِيَةُ الْمَوْتِ "
سنن أبي داود : 4297 ,صحيح الألباني : صحيح أبي داود : 4297 , الألباني : السلسلة الصحيحة : 958 , ابن باز : مجموع فتاوى ابن باز : 106/5 : إسناده حسن
จากท่านเษาบาน เราะฎิยัลลอฮุ อันฮู เล่าว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า :
“ใกล้เข้ามาแล้ว ประชาชาติทั้งหลายจะรุมกินโต๊ะพวกท่าน “ เศาะหาบะฮฺท่านหนึ่งถามว่า ” ในวันนั้นพวกเรามีจำนวนน้อยกระนั้นหรือ? ” ท่านเราะซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า “หามิได้ พวกท่านในวันนั้นมีจำนวนมากมาย แต่ทว่าพวกท่านเหมือนดั่งฟองน้ำในทะเล และอัลลอฮฺจะถอดถอนความน่าเกรงขามของพวกท่านออกจากทรวงอกของศัตรู และพระองค์จะทรงบรรจุความอ่อนแอในหัวใจของพวกท่าน “ มีเศาะหาบะฮฺถามว่า “ โอ้ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ความอ่อนแอนั้นคืออะไร? ” ท่านเราะซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า “ คือการรักโลกดุนยา และกลัวความตาย ”
สุนัน อบู ดาวุด : 4297 , เศาะฮีหฺ อัลบานียฺ : เศาะฮีหฺ อบี ดาวุด : 4297 , อัลบานียฺ : เศาะฮีหฺ อัลญามิอฺ : 958 , อิบนุ บาซฺ : มัจฺมัวอฺ ฟะตาวา อิบนุ บาซฺ : 106/5 : ด้วยสายรายงาน หะซัน
by MyHeart Will Go On
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น