อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

หลักการต่างๆ และเงื่อนไขของสัตว์ที่จะนำมารับประทาน




หลักการต่างๆ เกี่ยวกับอาหารฮาลาล 

ฮาลาลด้วยตัวของมันเอง ลักษณะฮาลาล ณ ที่นี้ หมายถึง

- ต้องไม่เป็นนะญิส(สิ่งสกปรก) ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท

1) นะญิส มุค็อฟฟะฟะฮฺ (เบา) ได้แก่ ปัสสาวะเด็กชายอายุไม่เกินสองปีที่กินแต่นมแม่
2) นะญิส มุตะวัสสิเฏาะฮฺ (ปานกลาง) ได้แก่ อุจจาระ ปัสสาวะ เลือด มูลสัตว์ ซากสัตว์ และอื่นๆ
3) นะญิส มุฆ็อลละเซาะฮฺ (หนัก) ได้แก่ สุกรและสุนัข

- ต้องไม่เป็นสัตว์ที่มีเขี้ยว งา และกรงเล็บที่แข็งแรง และใช้อวัยวะดังกล่าวนั้นในการหาอาหาร เช่น สิงโต เสือ หมี ช้าง และสัตว์อื่น ๆที่มีลักษณะคล้ายกันนี้รวมถึงนกทุกชนิดที่มีกรงเล็บ เช่น แร้ง เหยี่ยว เป็นต้น
- ต้องไม่เป็นสัตว์ที่ไม่อนุญาตให้ฆ่าตามหลักการศาสนาอิสลาม เช่น มด และนกหัวขวาน
- ต้องไม่เป็นสัตว์ที่พิจารณาโดยทั่วไปแล้วว่าเป็นสัตว์ที่น่ารังเกียจ เช่น เหา แมลงวัน หนอน ค้างคาว และสัตว์อื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน
- ต้องไม่เป็นสัตว์เลื้อยคลานหรือมีพิษร้าย เช่น กิ้งก่า งู และและสัตว์อื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน
- ต้องไม่เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ

อัลลอฮฺได้ตรัสในบทที่ 2 อัลบะเกาะเราะฮฺ โองการที่ 173 ว่า
﴿إِنَّمَا حَرَّمَ عَلَيْكُمُ الْمَيْتَةَ وَالدَّمَ وَلَحْمَ الْخِنزِيرِ وَمَا أُهِلَّ بِهِ لِغَيْرِ اللهِ﴾ (البقرة : 173)
ความว่า แท้ริงพระองค์ทรงห้ามรับประทานซากสัตว์ เลือด เนื้อสุกร และสัตว์ที่เชือดเพื่อสิ่งอื่นนอกเหนือจากอัลลอฮฺ

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวความว่า ท่านรอซูลศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้ห้ามรับประทานสัตว์ที่มีเขี้ยวและนกที่มีกรงเล็บ (บันทึกโดยมุสลิม 3574)

สัตว์ที่อยู่ในทะเลกินได้ทั้งหมดจริงหรือ เช่นปลาฉลาม จระเข้น้ำเค็มในทะเล

هو طهور ماؤه الحل ميتتة
ทะเลนั้นน้ำของมันสะอาดสัตว์ทะเลที่ตาย(ซากสัตว์) ก็เป็นที่อนุมัติ
เพราะฉนั้นสัตส์ที่ตายในทะเลถือว่าอนุญาติให้รับประทานได้
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวความว่า ท่านรอซูลศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้ห้ามรับประทานสัตว์ที่มีเขี้ยวและนกที่มีกรงเล็บ (บันทึกโดยมุสลิม 3574)

ดังนั้นปลาฉลามและจรเข้ใช้เขี้ยวหาอาหาร จึงไม่อนุญาติให้รับประทานแม้จะอยู่ในทะเลก็ตาม


เงื่อนไขของสัตว์ที่จะนำมารับประทาน

อาหารชนิดต่างๆ ที่เป็นสิ่งที่ต้องห้ามตามบทบัญญัติอิสลาม มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ดังต่อไปนี้

ก. อาหารต้องห้ามที่มีบทบัญญัติในอัลกุรอาน กล่าวไว้คือ 

1. อาหารของบุคคลอื่น ซึ่งไม่ใช่อาหารของตนเอง โดยเขาไม่มีสิทธิ์ใดๆเลยในอาหารนั้น ดังที่อัลลอฮ์ได้ตรัสไว้ ความว่า "สูเจ้าทั้งหลายอย่าได้รับประทาน ทรัพย์สินของสูเจ้าทั้งหลาย โดยมิชอบธรรม" และท่านนบียังได้กล่าวอีกว่า "บุคคลหนึ่งบุคคลใดอย่าได้รีดนมสัตว์ของอีกบุคคลหนึ่ง นอกจากจะได้รับอนุญาติจากเขาเสียก่อน"

2. ซากสัตว์ที่ตาย โดยมิได้เชือดอย่างถูกต้องตามศาสนบัญญัติ เช่น ถูกรัดคอตาย ถูกตีตาย ตกจากที่สูง ถูกสัตว์ที่มีเขาแทงตาย หรือถูกสัตว์ดุร้ายกัดกิน เป็นต้น

 3. เลือดของสัตว์ที่พุ่งออกมาขณะทำการเชือด หรือการเจาะคอ ไม่ว่าเลือดนั้นมากหรือน้อยก็ตาม

4. เนื้อสุกร ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดๆของตัวสุกรทั้งหมดนั้นเป็นที่ต้องห้าม 5. สัตว์ที่เชือดโดยกล่าวสิ่งอื่นนอกจากพระนามของอัลลอฮ์

6. สิ่งที่ถูกเชือดเพื่อการบูชายันต์ เป็นสิ่งต้องห้ามทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเชือดที่กุโบร์ หรือการเชือดเพื่อเป็นสื่อ (ตะวัซซุ้ล) ติดต่อกับอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ก็ตาม หลักฐานสิ่งต้องห้ามที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น อัลลอฮ์ได้ทรงตรัสไว้ในอายะห์ที่ 3 ซูเราะห์อัลมาอิดะห์ ความว่า "เป็นสิ่งที่ต้องห้ามสำหรับสูเจ้าทั้งหลาย คือซากสัตว์ที่ตายแล้ว เลือดสุกร สัตว์ที่ถูกเชือดโดยมิได้กล่าวนามของอัลลอฮ์ สัตว์ที่ถูกเขาของสัตว์อื่นแทงตาย สัตว์ที่ถูกสัตว์ดุร้ายกันกัดกิน นอกจากเจ้าจะเชือดมัน (หรือกล่าวพระนามของอัลลอฮ์ขณะปล่อยไปล่าเหยื่อ) และสัตว์ที่ถูกเชือดเพื่อการบูชายันต์"

ข. อาหารต้องห้ามที่มีตัวบทจากท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าซัลลัม กล่าวไว้คือ 

1. "ลาบ้าน" (ลาที่อาศัยอยู่กับคนเลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน) โดยมีรายงานท่านญาบิร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุว่า "ท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าซัลลัม ได้ห้ามมิให้รับประทานเนื้อของลาบ้าน ในวันคอยบัร (สงครามคอยบัร) และอนุญาตให้รับประทานเนื้อของม้าได้"

2. "ล่อ" ซึ่งกิยาสมาจากลาบ้านที่มีหลักฐานห้ามรับประทานจากฮะดิษในข้อ1 และในอัลกุรอานได้กล่าวไว้ในอายะห์ที่ 8 ซูเราะห์อันนะฮล์ ความว่า "และม้า ล่อ และลานั้น เผื่อสูเจ้าจะใช้โดยสารมัน และเป็นเครื่องประดับ (สำหรับสูเจ้า)"

3. สัตว์ที่ใช้เขี้ยวจับสัตว์อื่นเป็นอาหาร เช่น สิงโต หมี เสือ ช้าง หมาป่า หมาจิ้งจอก เป็นต้น

4. สัตว์ที่ใช้กรงเล็บจับสัตว์อื่นเป็นอาหาร เช่น เหยี่ยว อินทรี นกเค้าแมว เป็นต้น ดังที่ท่านอิบนิอับบาสรายงานว่า "ท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าซัลลัม ห้ามมิให้รับประทานสัตว์ที่มีเขี้ยวเล็บดุร้าย และนกที่ใช้กรงเล็บในการหาเหยื่อ"

5. สัตว์ที่กินสิ่งสกปรกเป็นอาหาร โดยไม่อนุญาตให้รับประทานมันได้นอกจากขังมันไว้สักระยะหนึ่งแ และเช่นกัน น้ำนมของสัตว์นั้นๆ ดังมีฮะดิษจากอิบนุอุมัรได้กล่าวไว้ว่า ว่าท่านนบีทรงห้ามกินเนื้อของมันและนมของมัน จนกว่าจะขังมันไว้ให้ปลอดภัยจากนะยิสเสียก่อน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น