มุฮัมมัดศิดดีก อัลมินซาวีย์ : เขียน
นาอีม วงศ์เสงี่ยม : แปล
(จากหนังสือ : 101 เรื่องเล่าจากชีวิต “อบูบักร อัศศิดดีก”)
Jiyah Abdulloh โพสต์
………………………………………..
แม่ทัพน้อยนามอุซามะฮ์ อิบนุซัยด์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้ขึ้นขี่บนหลังม้าศึก เขานำทัพออกไปเยี่ยงราชสีห์ เป็นผู้มีจิตใจเปี่ยมด้วยความรักต่ออัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และเป็นผู้มีศรัทธาสดใหม่
อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้ออกตรวจทัพ ท่านเริ่มจัดกองทหารทีละคน ๆ แล้วเดินไปหาอุซามะฮ์ในลักษณะของผู้ยิ่งใหญ่ที่มีเกียรติ ท่านเข้าไปใกล้แม่ทัพน้อยโดยวิ่งเหยาะ ๆ ข้างม้าศึกของอุซามะฮ์ เท้าสองข้าของอบูบักรจมลงในทราย กีบเท้าของม้าตวัดดินและทรายขึ้นใส่ท่าน
แม่ทัพน้อยรู้สึกสงสารท่านเคาะลีฟะฮ์ จึงกล่าวแก่ท่านอย่างมีมารยาทและให้เกียรติว่า
: โอ้ผู้เป็นเคาะลีฟะฮ์ของท่านเราะซูลครับ !!! ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ ว่าท่านจะขึ้นมานั่ง (เหมือนกับฉัน) หรือจะให้ฉันลงไป (ยืนเหมือนกับท่าน)
อบูบักร อัศศิดดีก เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงกล่าวว่า
: ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่าท่านไม่ต้องลงมา และขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่าฉันก็จะไม่ขึ้นไป จะไม่ให้เท่านของฉันเปื้อนฝุ่นในหนทางของอัลลอฮ์สักช่วงเวลาหนึ่งบ้างหรือ?
.......................................................
**** 48. ผู้ขายเสื้อผ้า ***
ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นจากการหลับใหล อบูบักร อัศศิดดีก เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ มุ่งหน้าอกจากบ้านโดยแบกกองผ้าและม้วนผ้าทูนไว้บนหัว ในเวลาไม่นาน ท่านก็มาถึงตลาดด้วยความกระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวา
อุมัร อิบนุค็อฏฏอบ และอบูอุบัยดะอ์ อิบนุลญัรรอห์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ เห็นอบูบักรในสภาพเช่นนั้น ทั้งสองจึงรีบไปดักท่านที่กลางทาง แล้วอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ก็ตะโกนเรียกอบูบักรด้วยเสียงอันดังว่า
: จะไปไหนหรือท่านเคาะลีฟะฮ์ของท่านเราะซูลุลลอฮ์ ?
อัศศิดดีก เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ใช้สายตามองทอดยาวไปที่ตลาดแล้วบอกว่า
: ไปตลาด
อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันอ์ ถามว่า
: ไปทำอะไรที่ตลาด ?
อัศศิดดีก เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ตอบด้วยความแปลกใจว่า
: ก็ไปขายเสื้อผ้าสิอุมัร !
อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงกล่าวว่า
: ท่านมภารกิจที่ต้องทำอยู่นี่
อัศศิดดีก เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ เงียบไปแล้วกล่าวว่า
: ท่านหมายถึงหน้าที่การเป็นเคาะลีฟะฮ์หรือ ?
อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า
: ใช่แล้ว
อัศศิดดีก เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ แบะมือสองข้างออกแล้วกล่าวว่า
: แล้วฉันจะเลี้ยงครอบครัวฉันอย่างไรล่ะอิบนุค็อฏฏอบ (หมายถึงอุมัร) ?
อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงกล่าวว่า
: เราจะมอบทรัพย์สินส่วนหนึ่งในบัยตุลมาล (กองคลัง) ให้แก่ท่านเอง ..... ซึ่งอบูบักรก็รับข้อเสนอนี้เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์โดยรวมของบรรดาผู้ศรัทธา แล้วท่านก็ไม่ได้ไปขายเสื้อผ้าที่ตลาดอีก
.....................................................
**** 49. การร่ำไห้ของอุมมุอัยมัน !!! ****
เสียงสะอื้นแห่งความโศกเศร้าดังขึ้น หลายใบหน้าบ่งบอกถึงความหดหู่และเศร้าใจภายหลังการเสียชีวิตของท่านนบี ศ็อลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยความโศกเศร้านี้เอง อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้ถอนตัวเองออกจากความเศร้าหมองหันไปกระซิบอุมัร อิบนุค็อฏฏอบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์
: ไปเราไปหาอุมมุอัยมันกันเถอะ ไปเยี่ยมเธอเหมือนกับที่ท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เคยไปเยี่ยมเธอตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่
เมื่อทั้งสองไปถึงพบว่าเธอกำลังร้องไห้อย่างรุนแรง ทั้งสองท่านจึงกล่าวว่า
: เธอร้องไห้ทำไมหรือ ? เธอไม่ทราบหรือว่าสิ่งที่อยู่ ณ ที่อัลลอฮ์นั้นดีที่สุดสำหรับท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
อุมมุอัยมัน จึงกล่าวว่า
: ฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะการที่ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ ณ ที่อัลลอฮ์นั้นดียิ่งสำหรับท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แต่ที่ฉันร้องไห้ก็เพราะ “วะฮีย์” (สารจากอัลลอฮ์) ได้ถูกตัดขาดจากฟากฟ้าแล้ว
เมื่อได้ฟังคำพูดจากใจเช่นนั้น
ทั้งอบูบักรและอุมัรจึงเริ่มหลั่งน้ำตาออกมาพร้อมกับเธอ
................................................................
**** 50. การโจมตีของผึ้งและต่อแตน ****
มีคนกลุ่มหนึ่งได้ออกเดินทางไประหว่างทาง ชายคนหนึ่งในกลุ่มได้ลุกขึ้นแล้วเริ่มด่าทอและประณามอบูบักรกับอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์
ผู้คนรู้สึกโกรธชายคนนั้นจึงตะโกนใส่เขาว่า
: หุบปากเจ้าเสีย เจ้ากำลังพูดอะไรน่ะ เจ้าด่าคนอย่างอบูบักร และ อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ผู้สะอาดบริสุทธิ์และเป็นที่ปรึกษาของท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อย่างนั้นหรือ ?
แต่ชายคนนั้นไม่ยอมหยุด ยังคงด่าทอท่านทั้งสองต่อไป ถ้อยคำผรุสวาทอกมาจากปากของเขามากมาย
หลังจากนั้นไม่นาน ชายคนนั้นก็ออกไปยังทุ่งโล่งเพื่อถ่ายทุกข์ จู่ ๆ ก็มีฝูงต่อแตน และผึ้งเข้ามาต่อยปล่อยเหล็กในทำร้ายเขา เขาจึงร้องขอความช่วยเหลือ ผู้คนต่างรีบไปหาเขา ทว่าทุกครั้งที่พวกเขาพยายามเข้าใกล้ชายคนนั้นฝูงต่อแตนก็ยิ่งเข้าไปทำร้าย พวกเขาจึงปล่อยชายคนนั้นไว้และมองดูเขาอยู่ไกล ๆ
ในที่สุด ทั้งผึ้งและต่อแตนก็ได้ฉีกขยี้ร่างกายของชายคนนั้นจนเละ นี่แหละคือการที่อัลลอฮ์ได้ปกป้องบุคคลผู้เป็นที่รักของพระองค์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น