ความจริงที่พิสูจน์ได้ และถูกต้องตรงกับที่อัลกุรอานได้ระบุไว้ชัดเจน
ภาพของเรือนบีนั๊วะห์ที่ภูเขาอัลญูดีย์ ในระยะเวลาที่นาน ทำให้สภาพของเรือกลายเป็นหิน เรือบนีนั๊วะห์นั้น ยาว 1200 ศอก กว้าง 600 ศอก มี 3 ชั้น ซึ่งชั้นแรกสำหรับสาราสัตว์ทั้งหลาย
ชั้นที่ 2 สำหรับมนุษย์ และทั้งที่ 3 สำหรับสัตว์ปีก
นักสำรวจชาวคริสต์ เมื่อทราบว่าเรือนบีนั๊วะห์ไม่ได้เกยค้างอยู่บนเทือกเขาอารารัต แต่เกยค้างอยู่บนภูเขาอัลญูดีย์ตามที่อัลกุรอานได้ระบุยืนยันเอาไว้ ซึ่งสร้างความโกรธเคืองให้แก่พวกเขาที่อัลกุรอานนั้น เป็นคำภีร์ที่ยืนยันในเรื่องสัจจะธรรม พวกเขาเคยพยายาม
เจาะทำลายเรือ ดังกล่าวเท่าที่จะสามารถกระทำได้
อัลเลาะฮ์ตาอาลา ประสงค์ที่จะให้เราทราบถึงประการต่าง ๆ ต่อไปนี้
1. ในขณะที่กลุ่มชนระดับสูงสร้างความเสื่อมเสียและก่อกรรมทำบาปโดยไม่มีการลงโทษเกิดขึ้นแก่พวกเขา อันเนื่องจากมีความใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจนั้น ความเท่าเทียมจากการนำกฏหมายมาปฏิบัติในสังคม ไม่สมควรทำการสอบสวนและลงโทษประชาชนทั่วไปโดยรวม แท้จริงท่านนบีนั๊วะห์ได้ปล่อยให้บุตรชายของท่านได้รับการลงโทษพร้อมกับมนุษย์คนอื่น เขาไม่ได้รับการช่วยเหลืออันใดเลยทั่งที่เป็นบุตรของศาสนทูต ยิ่งกว่านั้น ในขณะที่ท่านนบีนั๊วะห์วอนขอต่อองค์อภิบาล
เกี่ยวกับบุตรชายของนั้น อัลเลาะฮ์ก็ทรงห้ามจากสิ่งดังกล่าว เพื่ออธิบายให้รู้ว่าเขานั้นได้ก่อกรรมบาป สมควรได้รับการลงโทษไม่ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์กับนบีนั๊วะห์ อะลัยฮิสลาม ก็ตาม
2. สังคมใหม่ หากมีองค์ประกอบขึ้นจากบรรดาผู้ศรัทธาต่ออัลเลาะฮ์แล้วก็ตาม แต่ทว่ามันจะเปลี่ยนไปในกลุ่มชนยุคต่อ ๆ ไปตามยุคสมัยของบรรดาศาสนทูตอื่น ๆ ดังนั้นกลุ่มชนหนึ่งจากพวกเขาก็จะหลงออกจากแนวทางของอัลเลาะฮ์ ซึ่งดังกล่าวคือวิถีของอัลเลาะฮ์ที่พระองค์ทรงให้มันดำเนินอยู่ในมนุษย์ เนื่องจากสังคมจะไม่อยู่บนสิ่งที่เคยเป็นอยู่ แต่ทว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงและการบิดเบือนในหลักการศรัทธา อัลเลาะฮ์ตาอาลาทรงตรัสความว่า
"มีกระแสดำรัสว่า "โอ้นูห์! เจ้าจงลง (จากเรือ) เถิด โดยสันติสุขจากเรา และด้วยความสิริมงคลแก่เจ้า และแก่บรรดาประชาชาติจากผู้อยู่ร่วมกับเจ้าทั้งมวล และมีบรรดาปวงชนที่เราจะให้ความภิรมย์แก่พวกเขา
(เพียงชั่วคราวในโลกนี้) หลังจากนั้น จะมีการลงโทษอันทรมานยิ่งจากเรา สัมผัสพวกเขา" 11:48
ดังนั้นประชาชาติที่อัลเลาะฮ์จะให้พวกเขาเสวยสุข ต่อมา การลงโทษอันเจ็บปวดได้มาประสบกับพวกเขานั้น คือ กลุ่มชนบางส่วนที่จะมาเปลี่ยนแปลงเผ่าพันธุ์ในสงคมใหม่นี้ ให้ไปสู่วัตถุนิยมและเจว็ดภาคี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้คือปรากฏการณ์ของสังคมที่หลีกเลี่ยงไม่พ้น เพราะอัลเลาะฮ์ทรงกำหนดให้มนุษย์มีความแตกต่างกันในเรื่องของการปฏิเสธและการศรัทธาตราบจนถึงวันสิ้นโลก
3. ปรากฏว่าอัลเลาะฮ์ทรงเล่าเรื่องของนบีนูห์ให้แก่ท่านนบีมุฮัมมัด ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เพื่อชี้แจงให้มนุษย์ทราบถึงความสัจจริงในการเผยแพร่เรียกร้องของนบีนูห์ อะลัยฮิสลาม และเพื่อแจ้งให้มนุษย์ทราบว่าจุดจบที่ดีงามนั้น ย่อมเป็นของบรรดาผู้ยำเกรงทั้งมวล
ที่มา Muttaqeen Al Islam
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น