อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

คัมภีร์กุรอานต่างจากคัมภีร์ไบเบิลอย่างไร






ชาวคริสเตียนบางคนกล่าวว่าคัมภีร์กุรอานเป็นเพียงสิ่งที่คัดลอกมาจากคัมภีร์ไบเบิลหรือไม่ก็นบีมุฮัมมัดเป็นผู้คัดลอกมา
เป็นเรื่องจริงที่นบีมุฮัมมัดได้รับคัมภีร์กุรอานหลังจากที่คัมภีร์ไบเบิลได้มีอยู่ก่อนแล้ว และก็เป็นเรื่องจริงที่คัมภีร์กุรอานกับคัมภีร์ไบเบิลพูดถึงหลายสิ่งที่เหมือนกัน แต่การด่วนสรุปว่ามุฮัมมัดได้ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเพื่อที่จะคัดลอกมาทำเป็นคัมภีร์กุรอานนั้นดูเหมือนว่าเป็นเรื่องไร้สติและรับไม่ได้เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้
1) ไบเบิลภาษาอาหรับไม่มีในสมัยนบีมุฮัมมัด
ในสมัยของนบีมุฮัมมัดไม่มีคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลภาษาอาหรับซึ่งเรื่องนี้นักวิชาการตะวันตกเองก็ยอมรับ
ในหนังสือเรื่องข้อความในพระคัมภีร์เดิมโดยเอิร์นส์ Wurthwein กล่าวว่า:
"ด้วยชัยชนะของอิสลาม ดังนั้น
ดังนั้น ความจริงแล้ว 9 นี่เอง
ส่วนในเรื่องของพันธสัญญาใหม่นั้นซิดนีย์กริฟฟิ ธ (ซิดนีย์เอชริฟฟิ ธ ) :
?บันทึกคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาใหม่ในภาษาอาหรับที่เก่าแก่ที่สุดก็คือฉบับซีนายซึ่งถูกเขียนโดยสตีเฟ่นแห่งร็อมละฮฺในปี ค.ศ. 897?
นบีมุฮัมมัดเสียชีวิตในครึ่งแรกของศตวรรษที่ 7 หรือใน ค.ศ. 632
2) นบีมุฮัมมัดไม่รู้หนังสือ
ดังนั้น ชาวยิวชาวโซโรแอส เพราะแม้แต่ศัตรูของอิสลามเมื่อ 1,400
"และก่อนหน้านั้น มิฉะนั้นแล้ว มิใช่เช่นนั้นหรอก (กุรอาน 29: 48-49)
3) ไม่มีการแปล
ภาษาที่นบีมุฮัมมัดพูดคือภาษาอาหรับและคัมภีร์กุรอานก็ถูกประทานแก่ท่านเป็นภาษาอาหรับ คัมภีร์กุรอานภาษาอาหรับดั้งเดิมถูกเรียกว่าอัลกุรอานเสมอ ไม่เคยมีการแปล แต่ภาษาของคัมภีร์ไบเบิลพันธสัญญาเก่าเป็นภาษาฮิบรูโบราณและพระเยซูก็เป็นชาวยิวที่พูดภาษาอาราเมอิคที่เป็นภาษาพูดของชาวฮิบรู ภาษานี้ถูกจัดอยู่ในภาษาเซมิติกตะวันออก แต่คัมภีร์ไบเบิลพันธสัญญาใหม่ถูกเขียนขึ้นเป็นภาษากรีกซึ่งเป็นภาษาตะวันตกหลังสมัยของพระเยซูคริสต์
คัมภีร์ไบเบิลเป็นการรวบรวมการเขียนที่ทำขึ้นในช่วงเวลาต่างๆของประวัติศาสตร์และได้รับการตรวจแก้ไขโดยนักเขียนหลายคน บางฉบับก็ไม่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
Codex Vaticanus Codex Sinaticus (ถูกเก็บรักษไว้ในห้องสมุดอังกฤษ) เพียงเล็กน้อย 4
50 ฉบับถูกเขียนขึ้นในศตวรรษที่ 1 หรือ 2 ในจำนวนมีสี่ฉบับคือมัทธิวมาระโก 4
รูดอล์ฟบุลท์มานน์ (รูดอล์ฟ Bultmann) 20 : ยิ่งไปกว่านั้น
ค.ศ. 57-70 ค.ศ. 85-100
4) การอ้างอิงตัวเอง
นั่นคือ ความจริงแล้ว
เมื่อเปรียบเทียบกับคัมภีร์กุรอานแล้ว ข้ออ้างของคัมภีร์กุรอานที่ว่าตัวมันเองเป็นบันทึกวจนะของพระเจ้าที่ถูกประทานลงมาแก่นบีมุฮัมมัดสามารถยืนยันได้จากความจริงที่ว่าผู้พูดในคัมภีร์กุรอานคือพระเจ้าที่พูดโดยตรงกับมนุษย์ในขณะที่คำพูดของท่านนบีมุฮัมมัดที่ถูกเรียกว่าฮะดีษนั้นถูกรวบรวมแยกไว้ต่างหาก คัมภีร์กุรอานบอกแล้วบอกอีกว่ามันเป็นวจนะของพระเจ้า มันมีการอ้างอิงตัวเองนั่นคือมันเรียกตัวเองว่ากุรอานถึง 70 ครั้งด้วยกัน
5) การจดจำ
ถ้อยคำของคัมภีร์กุรอานถูกประทานแก่นบีมุฮัมมัดตลอดช่วงชีวิตแห่งการเป็นนบีของท่านเป็นเวลาถึง 23 ปีซึ่งในช่วงนี้มีเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมายและคัมภีร์กุรอานได้ถูกประทานลงมาแก่ท่านเพื่อเป็นทางนำและตอบปัญหาต่างๆ เมื่อนบีมุฮัมมัดได้รับข้อความเหล่านี้ ท่านก็ได้สั่งให้บรรดาสาวกของท่านบันทึกหรือไม่ก็ท่องจำไว้ ในเวลานั้นมีสาวกของท่านมากมายหลายคนที่สามารถท่องจำกุรอานได้จนเราสามารถพูดว่านับตั้งแต่วันแรกที่ได้มีการประทานกุรอานลงมา คัมภีร์กุรอานได้อยู่ในมือและอยู่หัวใจของผู้คนมากมายแล้ว
ก่อนที่นบีมุฮัมมัดจะเสียชีวิตคัมภีร์กุรอานทั้งหมดได้ถูกเขียน และนับตั้งแต่นั้นมา ดังนั้น หากใครคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขใด ๆ คนเหล่านี้ก็สามารถรู้ได้ทันทียิ่งไปกว่านั้น "แท้จริง (กุรอาน 15: 9)
ในตอนที่นบีมุฮัมมัดเสียชีวิต บรรดาสาวกของท่านนบีก็ได้รวบรวมส่วนต่างๆของคัมภีร์กุรอานที่ตัวเองมีอยู่เข้าเป็นรูปเล่มแล้ว ในสมัยของเคาะลีฟะฮฺอบูบักรฺผู้สืบอำนาจการปกครองต่อจากท่านนบีมุฮัมมัดได้มีการแต่งตั้งให้เซด บินษาบิตเป็นผู้รวบรวมคัมภีร์กุรอานฉบับทางการขึ้น หลังจากที่ได้ตรวจสอบความถูกต้องอย่างพิถีพิถันแล้ว กุรอานที่ถูกรวบรวมโดยเซดก็ได้ถูกใช้เป็นฉบับทางการ
6) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข
ดังนั้น ดังนั้น
1400 บางภาษาเปลี่ยนไปในเวลาเพียงแค่ 100-200 ปีดังนั้น 1,400 ปี แต่กระนั้นจนปัจจุบันนี้ทุกวันทุกชั่วโมงทุกนาที ยิ่งมีหนทางในการสื่อสารมากเท่าใด

อัลลอฮฺทรงกล่าวว่า (กุรอาน 2: 2) ในอีกอายะฮฺหนึ่งอัลลอฮฺทรงกล่าวว่า "จงกล่าวเถิดว่าเมื่อความจริงมาความเท็จก็มลายไปแท้จริงความเท็จนั้นจะมลายไปเสมอ" (กุรอาน 17 : 81)

......................................................
บทความโดยอาจารย์บรรจงบินกาซันประธานโครงการอบรมผู้สนใจอิสลามมูลนิธิสันติชน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น