อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เมื่ออิหม่ามนะวาวีย์ ยืนยันว่า ผู้ที่กล่าวว่า อัลลอฮ อยู่บนฟ้า เขาผู้นั้นเป็นผู้ศรัทธา



อิหม่ามนะวาวีย์ (ร.ฮ)กล่าวว่า

وَأَنَّهُ لَوْ قَالَ : لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ الْمَلِكُ الَّذِي فِي السَّمَاءِ ، أَوْ إِلَّا مَلِكُ السَّمَاءِ ، كَانَ مُؤْمِنًا ، قَالَ اللَّهُ تَعَالَى : أَأَمِنْتُمْ مَنْ فِي السَّمَاءِ
.
และแท้จริง ถ้าเขา (ทมายถึงกาเฟร) กล่าวว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากอัลลอฮ ราชา ผู้ซึ่งอยู่บนฟ้า หรือ(เขากล่าวว่า)นอกจากราชาแห่งฟากฟ้า เขาก็เป็นผู้ศรัทธา ,อัลลอฮตาอาลาตรัสว่า
“เจ้าจะปลอดภัยละหรือ จากผู้ทรงอยู่บนฟากฟ้า..

وَلَوْ قَالَ : لَا إِلَهَ إِلَّا سَاكِنُ السَّمَاءِ ، لَمْ يَكُنْ مُؤْمِنًا ، وَكَذَا لَوْ قَالَ : لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ سَاكِنُ السَّمَاءِ ; لِأَنَّ السُّكُونَ مُحَالٌ عَلَى اللَّهِ تَعَالَى
และถ้าเขากล่าวว่า “ไม่มีพระเจ้า นอกจากผู้อาศัยแห่งฟากฟ้า เขาก็ไม่เป็นผู้ศรัทธา และ เช่นเดียวกัน ถ้าเขากล่าวว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ ผู้อาศัยแห่งฟากฟ้า เพราะแท้จริง การอาศัยอยู่นั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แก่อัลลอฮตาอาลา- ดูเราเฎาะตุตตอลิบีน เล่ม 10 หน้า 85 มักตับอัลอิสลามีย์

คำว่าอัลลอฮ อยู่บนฟ้า ไม่ได้หมายถึง การอาศัยอยู่ในฟ้า ที่เป็นมัคลูค อาชาอิเราะฮ บางกลุ่ม เอาคำว่า “สถานที่ของอัลลอฮ”มาโจมตี วะฮบีย์
เพราะเข้าใจว่า อัลลอฮ อาศัยมัคลูค เป็นสถานที่ นี่คือ ความไม่เข้าใจ แล้วพาลเข้าใจว่าคนอื่นเชื่อตามความเข้าใจของตน

มาดู ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮ(ร.ฮ)อธิบาย

وَالسَّلَفُ وَالْأَئِمَّةُ وَسَائِرُ عُلَمَاءِ السُّنَّةِ إذَا قَالُوا " إنَّهُ فَوْقَ الْعَرْشِ وَإِنَّهُ فِي السَّمَاءِ فَوْقَ كُلِّ شَيْءٍ " لَا يَقُولُونَ إنَّ هُنَاكَ شَيْئًا يَحْوِيهِ أَوْ يَحْصُرُهُ أَوْ يَكُونُ مَحَلًّا لَهُ أَوْ ظَرْفًا وَوِعَاءً سُبْحَانَهُ وَتَعَالَى عَنْ ذَلِكَ بَلْ هُوَ فَوْقَ كُلِّ شَيْءٍ وَهُوَ مُسْتَغْنٍ عَنْ كُلِّ شَيْءٍ وَكُلُّ شَيْءٍ مُفْتَقِرٌ إلَيْهِ . وَهُوَ عَالٍ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ .
และชาวสะลัฟ ,บรรดาอิหม่าม และ บรรดาปราชญสุนนะฮอื่นๆ เมื่อพวกเขากล่าวว่า แท้จริง พระองค์ อยู่เหนืออะรัช และแท้จริง พระองค์ อยู่บนฟ้า เหนือทุกสิ่ง พวกเขาจะไม่กล่าวว่า แท้จริงสิ่งใดๆ ณ ที่นี้ บรรจุ พระองค์ เอาไว้หรือ จำกัดขอบเขตพระองค์ หรือเป็นสถานที่ของพระองค์ หรือ เป็นสถานที หรือเป็นภาชนะบรรจุ (พระองค์) พระองค์ทรงบริสุทธิ์ และสูงส่งจาก ดังกล่าว แต่ทว่า ทรงอยู่เหนือทุกสิ่ง โดยที่พระองค์ ไม่พึ่งพา อาศัยทุกๆสิ่ง และทุกสิ่งพึงพาอาศัยต่อพระองค์ และพระองค์ทรงสูง เหนือทุกสิ่ง.... มัจญมัวะฟะตาวา เล่ม 11 หน้า 101

والله أعلم بالصواب


........................
อะสัน  หมัดอะดั้ม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น