มุฮัมมัดศิดดีก อัลมินซาวีย์ : เขียน
นาอีม วงศ์เสงี่ยม : แปล
(จากหนังสือ : 101 เรื่องเล่าจากชีวิต “อบูบักร อัศศิดดีก”)
Jiyah Abdulloh โพสต์
………………………………………..
ณ ที่นั่น มะดีนะฮ์มุเนาวะเราะฮ์ อบูบักร และอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ มานั่งอยู่อย่างสงบนอบน้อมต่อหน้า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ทั้งสองท่านนั่งฟังท่านนบีอย่างสงบเสงี่ยม
แล้วท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ถามอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ว่า
: ปกติท่านละหมาดวิตร์เมื่อไหร่ ?
อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวตอบอย่างนอบน้อมที่สุดวา
: ฉันมักจะละหมาดวิตร์ตอนช่วยแรกของกลางคือ (หมายถึงก่อนนอน)
จากนั้นท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซํลลัม จึงหันไปยังอัลฟารูก อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันอ์ แล้วถามว่า
: ท่านล่ะ ละหมดาวิตร์เมื่อไหร่ ?
อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ตอบว่า
: ฉันละหมาดวิตร์ตอนช่วงสุดท้ายของกลางคืน (หมายถึงหลังจากตื่นนอน)
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวแก่อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ว่า
ท่านทำละหมาดด้วยความรอบคอบ ส่วนเขา (หมายถึงอุมัร) ทำละหมาดอย่างเข้มแข็ง
.......................................................
**** 52. ขโมยกับกฎหมายตาต่อตาฟันต่อฟัน ***
ขโมยคนหนึ่งได้ถูกนำตัวมายังท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่ามกลางวงล้อมและเสียงอื้ออึงของผู้คน
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวว่า : เอาเขาไปประหารเสีย
บรรดาเศาะฮาบะฮ์กล่าวด้วยความแปลกใจว่า : ท่านเราะซูลครับ เขาแค่ขโมยของเท่านนั้นเอง
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวย้ำอีกว่า : นำเขาไปประหารชีวิต
พวกเขากล่าวว่า : ท่านเราะซูลครับ เขาแค่ขโมยเท่านั้น
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวว่า : อย่างนั้นก็นำเขาไปตัดมือเสีย
เวลาผ่านไปหลายวันชายคนนั้นก็ขโมยอีกเป็นครั้งที่สอง เขาจึงถูกตัดขา (ข้างซ้ายสลับคนละข้างกับมือ) หลังจากนั้นเขาก็ขโมยอีกเป็นครั้งที่สามในสมัยอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ มืออีกข้างจึงถูกตัด จากนั้นเขาก็ขโมยอักเป็นครั้งที่สี่ ขาที่เหลือจึงถูกตัดโดยเขาถูกตัดทั้งขาทั้งแขนทั้งหมดนั้นก็เนื่องจากการขโมย.... หลังจากนั้นเขาก็ขโมยอีกเป็นครั้งที่ห้า ! อบูบักร อัศศิดดีก เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงกล่าวว่า ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั่นคือผู้รู้ถึงสภาพของชายคนนี้ดีที่สุดเมื่อท่านกล่าวว่า : เอาเขาไปประหารเสีย
จากนั้นอบูบักรจึงส่งตัวให้กลุ่มชายหนุ่มชาวกุเรชเพื่อประหารชีวิตเขา แล้วพวกเขาก็สังหารชายคนนั้น
.....................................................
**** 53. ใครประเสริฐกว่า ****
คณะหนึ่งจากชาวเมืองกูฟะฮ์และชาวเมืองบัศเราะฮ์ได้เดินทางมาถึง อุมัร อิบนุค็อฏฏอบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ โดยพวกเขาได้พำนักที่มะดีนะฮ์ เขาเหล่านั้นพูดคุยกันจนกระทั่งพูดคุยถึงอบูบักร และอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ บางคนกล่าวว่าอุมัรประเสริฐกว่าอบูบักร เราะฎิยัลลลอฮุอันอ์ แต่อัลญารูด อบินุลมุอัลลา เป็นคนหนึ่งที่บอกว่าอบูบักรประเสริฐกว่าอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันอ์
แล้วอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ก็มาถึงพร้อมกับแส้ในมือ แล้วท่านก็มุ่งไปยังกลุ่มคนที่บอกว่าท่านประเสริฐกว่าอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ แล้วเริ่มตีพวกเขาด้วยแส้จนกระทั่งไม่มีใครรอดพ้นจากการลงโทษของอุมัรในวันนั้น
แล้วอัลญารูดได้กล่าวว่า
: ใจเย็น ๆ ท่านอมีรุลมุมินีน ใจเย็นก่อนท่าน อัลลอฮ์ ตะอาลา ยังไม่เห็นพวกเรากล่าวว่าท่านประเสริฐกว่าอบูบักรแต่อย่างใด อบูบักรนั้นประเสริฐกว่าท่านอย่างนั้นอย่างนี้ !!!
เมื่ออุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ หายวิตก ท่านจึงลาจากไป
จากนั้นพอถึงเวลารับประทานอาหารเย็นอุมัรได้ขึ้นมิมบัร ท่านได้กล่าวสรรเสริญและสดุดุอัลลอฮ์ แล้วกล่าวว่า
: พึงทราบเถิดว่าบุคคลที่ประเสริฐที่สุดของประชาชาตินี้ภายหลังจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็คือ อบูบักร ใครที่กล่าวเป็นอื่นหลังจากที่ฉันพูดเช่นนี้แล้วเขาย่อมเป็นผู้กล่าวเท็จ และจะต้องได้รับโทษเยี่งโทษของคนที่กล่าวเท็จ
................................................................
**** 54. เมื่ออุมัรร้องไห้ ****
ในสมัยปกครองของอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ อบูมูซษ อัลอัชอะรีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ถูกส่งไปปกครองเมืองบัศเราะฮ์ เมื่อท่านขึ้นกล่าวคุฏบะฮ์ ท่านจะสรรเสริญและสดุดีอัลลอฮ์ ตะอาลา กล่าวเศาะละวาตแก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จากนั้นก็จะดุอาอ์ให้อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ซึ่งท่านจะปฏิบัติเช่นนี้ทุกศุกร์
ชายคนหนึ่งชื่อ ฏ็อบบะฮ์ อิบนุมะห์ศ็อน รู้สึกอึดอัดกับการกระทำของอบูมูซา อัลอัชอะรีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงกล่าวแก่ท่านอย่างชาญฉลาดว่า
: ท่านกับสหายของอุมัร (หมายถึงอบูบักร) เป็นอย่างไรทำไมท่านจึงให้เกียรติอุมัรมากกว่าเขา?
อบูมูซา เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงโกรธและเขียนจดหมายไปหาอมีรุลมุมินีน อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ความว่า
: ฏ็อบบะฮ์ อิบนุมะห์ศ็อน ได้ตำหนิฉันในการคุฏบะฮ์
อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงเขียนจดหมายไปถึงอบูมูซา เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ความว่า
: ส่งตัวเขามาหาฉันหน่อยซิ
ฏ็อบบะฮ์ อิบนุมะห์ศ็อน จึงเดินทางไปมะดีนะฮ์ เมื่ออยู่ต่อหน้าอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ อุมัรได้กล่าวว่า
: ไม่มีการต้อนรับใด ๆ ทั้งสิ้น
ฏ็อบบะฮ์กล่าวว่า
: การจะมีผู้ต้อนรับนั้นล้วนมาจากอัลลอฮ์ .... เหตุใดท่านจึงนำตัวฉันมาจากบ้านเกิดเมืองนอนของฉันทั้งที่ฉันไม่ได้ทำความผิดอะไร ? ไม่มีเหตุใดที่ท่านต้องนำตัวฉันมา
อุมัรจึงกล่าวว่า
: ท่านไปขัดแย้งอะไรกับอบูมูซาหรือ ?
ฏ็อบบะฮ์ กล่าวว่า
: ฉันจะบอกท่านเดี๋ยวนี้แหละโอ้อมีรุลมุมินีน : อบูมูซานั้นเวลาคุฏบะฮ์ ท่านจะกล่าวสรรเสริฐและสดุดีอัลลอฮ์ กล่าวเศาะละวาตต่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จากนั้นก็จะขอดุอาอ์ให้ท่าน การทำแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีเลย ฉันจึงกล่าวกับเขาว่า
“ท่านกับสหายของอุมัร (หมายถึงอบูบักร) เป็นอย่างไรทำไมท่านจึงให้เกียรติอุมัรมากกว่าเขา ? แล้วอบูมูซาก็เขียนจดหมายมาหาท่านเพื่อร้องเรียนฉันนี่อย่างไร”
อมีรุลมุมินีน อุมัร อิบนุลค็อฏฏอบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ถึงกับร้องไห้น้ำตาของท่านไหลอาบแก้มทั้งสองขณะที่กล่าวว่า
: ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่าท่านนั้นถูกต้องและได้รับทางนำมากกว่าเขา (อบูมูซา) เสียอีก...ท่านจะอภัยโทษให้กับความผิดของฉันได้ไหม ขออัลลอฮ์อภัยโทษแก่ท่าน
ฏ็อบบะฮ์ จึงกล่าวว่า
: ขออัลลอฮ์อภัยโทษแก่ท่าน โอ้อมีรุลมุมินีน
อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวขณะเช็ดน้ำตาที่ยังไหลอยู่
: ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่าคืนและวันเดียวของอบูบักรประเสริฐกว่าชีวิตของอุมัรและวงศ์วานของอุมัรทั้งหมด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น