มุฮัมมัดศิดดีก อัลมินซาวีย์ : เขียน
นาอีม วงศ์เสงี่ยม : แปล
(จากหนังสือ : 101 เรื่องเล่าจากชีวิต “อบูบักร อัศศิดดีก”)
Jiyah Abdulloh โพสต์
………………………………………..
ด้วยความละอายและความถ่อมตัว อบูบักร อัศศิดดีก เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้ก้าวขึ้นบนมิมบัรของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก้าวเท้าไปข้างหนึ่งส่วนอีกข้างหนึ่งยังคงค้างอยู่ แล้วท่านก็ก้าวขึ้นขั้นที่สอง จากนั้นก็ขั้นที่สามแล้วก็หยุดด้วยความหวาดเกรงไม่มีแรงที่จะขยับต่อไป เหมือนท่านจะไม่สามารถอนุญาตให้ตัวเองก้าวไปถึงที่ที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เคยยืน
ท่านปาดน้ำตาที่หลั่งไหลด้วยสองมือของท่าน จากนั้นก็หันหน้าไปยังฝูงชนที่มารวมตัวกัน ท่านต้องรับผิดชอบภารกิจแห่งการเป็นเคาะลีฟะฮ์ (ผู้ปกครองมวลมหามุสลิม)
แล้วท่านก็กล่าวคุฏบะฮ์ (คำปราศรัย) ว่า : โอ้มวลชนทั้งหลาย ฉันมาเป็นผู้ปกครองของพวกท่านมิได้หมายความว่า ฉันนั้นเป็นคนดีที่สุดในหมู่พวกท่าน...ดังนั้น หากฉันทำดีแล้วพวกท่านโปรดให้การช่วยเหลือฉันเถิด.... และหากฉันทำไม่ดีพวกท่านก็จงทำให้ฉันกลับสู่แนวทางอันเที่ยงตรงด้วย.... พึงทราบว่าคนที่อ่อนแอในหมู่พวกท่านนั้นคือคนที่แข็งแรง ณ ที่ฉัน จนกว่าฉันจะได้นำสิทธิ์ (ของผู้แข็งแรง) มาคืนผู้อ่อนแอคนนั้น และคนที่แข็งแรงในหมู่พวกท่านคือคนที่อ่อนแอ ณ ที่ฉัน จนกว่าฉันจะนำเอาสิทธิ์ (ที่เขาต้องปฏิบัติต่อคนที่อ่อนแอ) คืนมา
พวกท่านจงปฏิบัติตามฉันตราบใดที่ฉันปฏิบัติตามอัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์ แต่หากฉันฝ่าฝืนพระองค์ก็ไม่จำเป็นที่พวกท่านต้องเชื่อฟังฉัน
..............................................................
**** 46. แม้เชือกล่ามอูฐเพียงเส้นเดียว ****
ข่าวการเสียชีวิตของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้แพร่กระจายไปเหมือนไฟลามทุ่ง กระทั่งไปถึงหูของชาวอาหรับเผ่าต่าง ๆ ทำให้การกลับกลอกได้มีโอกาสปรากฏตัวขึ้นในนครมะดีนะฮ์ ความเลวร้ายได้เกิดขึ้นจากใบหน้าของผู้ทำชั่ว เขี้ยวเล็บของเหล่าสุนัขจิ้งจอกเริ่มเผยออกมา เป็นสัญญาณเตือนภัยร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น
ไฟแห่งกบฏได้ถูกจุดประกายขึ้น แผ่นดินได้แยกเอาทุกคนที่แข็งกร้าวและอิจฉาต่ออิสลามให้โผล่ขึ้นมา
อบูบักร อัศศิดดีก เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้เรียกรวมชาวมุฮาญีรีนและชาวอันศอรเพื่อปรึกษาหารือกับพวกเขาโดยท่านกล่าวว่า
: พวกอาหรับ (เผ่าต่าง ๆ) ได้งดเว้นที่จะนำแพะ แกะและอูฐของพวกเขามาจ่ายซะกาต พวกเขาอ้างวาคนที่พวกท่านไดรับการจ่ายเนื่องจากเขา (หมายถึงท่านนบี) ได้เสียชีวิตลงแล้ว พวกท่านโปรดแนะนำฉันหน่อยเพราะฉันมิใช่ใครอื่นนอกจากคนหนึ่งในหมู่พวกท่านเท่านั้น
อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า
: ฉันเห็นว่าให้ท่านรับการละหมาดของพวกเขา และอนุโลมให้พวกเขาไม่ต้องจ่ายซะกาต เพราพวกเขาเพิ่งเข้ารับอิสลามใหม่
อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ มองไปยังกลุ่มคนและรู้สึกว่าพวกเขาพึงพอใจต่อสิ่งที่อุมัร เราะฎิยัลลออุอันฮ์ กล่าว
ขณะนั้นเอง อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้ลุกจากที่นั่งแล้วขึ้นบนมิมบัร ท่านได้กล่าวสรรเสริญและสดุดีอัลลอฮ์ หลังจากนั้นก็พูดด้วยเสียดังเปิดเผยถึงความร้อนระอุแห่งศรัทธาที่มีอยู่ในตัวท่านคล้ายกับท่านได้เปลี่ยนตัวเองจากคนที่มีร่างกายเล็ก ๆ คนหนึ่งกลายเป็นสิงโตที่พร้อมจะกำราบทุกผู้อธรรมแล้วก็ตะโกนว่า
: ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ ว่า ฉันจะไม่ถูกทอดทิ้งให้ต่อสู้เนื่องจากคำบัญชาของอัลลอฮ์ นอกจากอัลลอฮ์จะทำตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ และได้มอบพันธสัญญาของพระองค์แก่พวกเราอย่างสมบูรณ์ ใครก็ตามที่เสียชีวิตในหมู่พวกเราในสภาพชะฮีด เขาย่อมเป็นชาวสวรรค์ ส่วนคนที่เหลืออยู่ก็จะเป็นผู้ปกครองแผ่นดินในหมู่พวกเรา และเป็นผู้รับมรดกแห่งแผ่นดินนี้สืบไป
ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า แม้พวกเขาไม่ยอมจ่ายซะกาตแก่ฉันเพียงเชือกที่ใช้ล่ามอูฐซึ่งพวกเขาเคยมอบมันแก่ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วแน่นอนฉันก็จะทำสงครามกับพวกเขา แม้ว่าจะมีต้นไม้ แผ่นดิน มนุษย์ และญินร่วมต่อสู้กับพวกเขาก็ตาม!
แล้วอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ก็ได้ตะโกนขึ้นว่า
: อัลลอฮุอักบัร อัลลอฮุอักบัร
จากนั้นก็กล่าวว่า
: ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า ฉันทราบแล้วว่ามัน (สิ่งที่อบูบักรพูด) คือสัจธรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น