อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ผู้ที่ประเสริฐที่สุดหลังจากบรรดานบี


มุฮัมมัดศิดดีก อัลมินซาวีย์ : เขียน

นาอีม วงศ์เสงี่ยม : แปล

(จากหนังสือ : 101 เรื่องเล่าจากชีวิต “อบูบักร อัศศิดดีก”)

Jiyah Abdulloh โพสต์
…………………………………..

เช้าวันหนึ่ง อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ออกไปพร้อมกับอบุดดัรดาอ์ เพื่อทำธุระบางประการ

แล้วอบุดัรดาอ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ก็ก้าวรุดไปด้านหน้าแล้วเดินนำหน้าอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์....ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เห็นอบุดัรดาอ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ เดินนำหน้าอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงกล่าวตำหนิและตักเตือนอบุดัรดาอ์ ว

: อบุดดัรดาอ์!! ท่านกำลังเดินนำผู้ที่ไม่มีใครหลังจากบรรดานบีที่ดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นในวันหนึ่งจะประเสิรฐกว่าบุคคลผู้นี้

อบุดดัรดาอ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงส่ายหัวของท่านด้วยความรู้สึกผิดจากการกระทำของตนเอง น้ำตาได้หลั่งออกจากสองตาของท่านด้วยความเสียใจ

หลังจากวันนั้นไม่มีใครเห็นท่านเดิน (กับอบูบักร) นอกจากจะอยู่หลังอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ เสมอ
...............................................

***** 70. โอ้อัลลอฮ์ ได้โปรดให้มะดีนะฮ์ เป็นที่รักยิ่งแก่พวกเรา *****

เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เดินทางไปถึงมะดีนะฮ์ อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้ล้มป่วยลง อาการของท่านค่อนข้างหนักทีเดียว ท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา จึงเข้าไปเยี่ยมท่านแล้วกล่าวว่า

: คุณพ่อคะ คุณพ่อเป็นอย่างไรบ้าง ?

อบูบักร กล่าวว่า

: ทุกรุ่งเช้าใครตื่นขึ้นเห็นครอบครัว ตายใกล้ตัว เรียบเคียงยิ่งเชือกรองเท้า

แล้วเธอก็ไปหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วบอกท่านถึงสภาพของอบูบักระ ท่านนบีจึงกล่าวขอดุอาอ์ว่า

“โอ้อัลลอฮฺ โปรดให้มะดีนะฮ์เป็นที่รักยิ่งแก่พวกเราเหมือนกับที่พวกเราะรักมักกะฮ์หรือให้มากกว่านั้น โปรดให้ผู้คนในมะดีนะฮ์มีสุขภาพดี โปรดให้ความจำเริญแก่การชั่งตวงแห่งมะดีนะฮ์ (นั่นคือมุดและศออ์) และโปรดนำการเจ็บไข้ได้ป่วยออกไปอยู่ที่ญุห์ฟะฮ์เถิด”
..........................................................

***** 71. อัศศิดดีก และหลานของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม *****

หลายคืนผ่านไปหลังจากที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เสียชีวิต อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันอ์ เดินออกมาจากละหมาดอัศริโดยข้างกายท่านมีอาลี อิบนุอบีฏอลิบ อยู่ด้วย แล้วท่านก็เดินผ่านอัลหะซันลูกชายของอาลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ซึ่งกำลังเล่นอยู่กับเด็ก ๆ

อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงรีบเข้าไปหา แล้วอุ้มอัลหะซันขึ้นไหล่แล้วกล่าวซ้ำไปมาว่า :

ละม้ายคล้ายคลึงเหมือนนบี.....
....ส่วนอาลีคลึงคล้ายหามีไม่

แล้วอาลี เราะฎิยัลลอฮุอันอ์ ก็หัวเราะ
..............................................................

***** 72. หญิงสาวกับแม่หม้าย *****

ก่อนการฮิจเราะฮ์ (อพยพ) ไม่นาน หลังจากที่ท่านหญิงเคาะดีญะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เสียชีวิต เคาละฮ์ บินตุหะกีม เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ได้มาเยี่ยมเยียมดูความเป็นอยู่ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วพบว่าขณะนั้นท่านนบีอยู่ลำพังคนเดียวไม่มีภรรยา เธอจึงกล่าวแก่ท่านนบีว่า : ทำไมท่านไม่แต่งงานอีกครั้งล่ะ ?

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวว่า

: จะให้ฉันแต่งกับใคร ?

เธอจึงกล่าวว่า

: ท่านต้องการหญิงสาวหรือแม่หม้ายล่ะค่ะ ?

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวว่า

: หญิงสาวที่ว่านี่ใครล่ะ แล้วแม่หม้ายที่ว่านี่ใครกัน ?

เธอกล่าวว่า

: หญิงสาวก็คือลูกสาวของบุคคลท่านรักเขามากที่สุด....อาอิชะฮ์ บุตรสาวของอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา ส่วนแม่หม้าย ก็คือ เซาดะฮ์ บินตุซัมอะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ค่ะ

แล้วท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ได้แต่งงานกับหญิงทั้งสาวและแม่หม้าย
.............................................

***** 73. อบูบักรกับอุกบะฮ์ อิบนุอบีมุอีฏ *****

ขณะที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กำลังนั่งทำอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ ตะอาลา อยู่ในมัสญิดหะรอม ศัตรูของอัลลอฮ์ อุกบะฮ์ อิบนุอบี มุอีฏ ได้เดินมา พลางม้วนผ้าของตัวเองอย่างแน่นหนาแล้วนำมาวางที่ต้นคอของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วรัดคอท่านอย่างแรง จนกระทั่งท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เกือบจะเสียชีวิต ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามปรามการรังแกข่มเหงของเขา

จนกระทั่งอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ วิ่งเข้ามากระชาดไหล่ทั้งสองของอุกบะฮ์แล้วผลักเขาออกจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พร้อมกับกล่าวว่า

: พวกเจ้าจะฆ่าคนที่เขากล่าวเพียงว่าพระเจ้าของฉันคืออัลลอฮ์อย่างนั้นหรือ?
.......................................................

***** 74. อบูบักรคือบุคคลที่อัลลอฮ์ให้สมญานามว่า “ศิดดีก” (ผู้สัจจริง) *****

อาลี อิบนุอบีฏอลิบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กำลังคุยกับเหล่าสหายของท่านในยามกลางคืนด้วยจิตใจที่เบิกบาน แจ่มใส

แล้วชายคนหนึ่งก็กล่าวว่า

: อาลีเล่าถึงเหล่าสหายของท่านให้พวกเราฟังหน่อยสิ

อาลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า

: เศาะฮาบะฮ์ทุกคนของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ล้วนเป็นสหายของฉัน

พวกเขาจึงกล่าวว่า

: อย่างนั้นเล่าถึงอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ให้พวกเราฟังหน่อย

แล้วอาลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ก็สูดหายใจเข้าเต็มปอดรำลึกถึงความหลังด้วยใบหน้าที่เบิกบานแล้วกล่าวว่า

: ท่านคือบุคคลที่อัลลอฮ์ให้สมญานามว่า “ศิดดีก” (ผู้สัจจริง)
...........................................................

***** 75. ดวงจันทร์ 3 ดวง ****

วันหนึ่งท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ได้หลับไปแล้วฝันเห็นเหมือนกับในบ้านของเธอนั้นมีดวงจันทร์อยู่ 3 ดวงด้วยกัน เธอจึงเล่าเรื่องนี้ให้อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ฟัง

อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ผู้เป็นพ่อจึงกล่าวว่า

: หากฝันของลูกเป็นจริงจะมีบุคคลที่ประเสริฐสุดบนหน้าแผ่นดินนี้ 3 คน เสียชีวิตในบ้านของลูก

เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เสียชีวิต อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงกล่าวแก่ลูกสาวว่า

: อาอิชะฮ์....นี่คือดวงจันทร์ที่ประเสริฐที่สุดในชีวิตของลูก
...........................................................

***** 76. อบูบักรนำหน้าฉันอยู่ 4 ประการ *****

ชายคนหนึ่งได้มาหาอาลี อิบนุอบีฏอลิบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ แล้วกล่าวว่า

: ท่านอมีรุลมุมินีน ทำไมชาวมุฮาญีรีน และชาวอันศอรจึงเสนอให้อบูบักรเป็นเคาะลีฟะฮ์ ทั้งที่ท่านมีสถานะที่สูงส่งกว่า เข้ารับอิสลามก่อน และเป็นผู้มาก่อน ?

ท่านอาลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้กล่าวออกมามอย่างชาญฉลาดและมีไหวพริบว่า

: หากเจ้าเป็นชาวกุเรซ ข้าจะถือว่าเจ้าอยู่ในผู้ที่ได้รับการคุ้มครอง

ชายคนนั้นกล่าวว่า

: ผมเป็นชาวกุเรซครับ ท่านอมีรุลมุมีนีน

อาลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า

: หากผู้ศรัทธาไม่ได้เป็นผู้ได้รับการคุ้มครองจากอัลลอฮฺแล้ว (หมายถึงไม่เป็นที่อนุญาตให้ผู้ศรัทธาถูกผู้ศรัทธาด้วยกันสังหาร – ผู้แปล) แน่นอนว่าข้าต้องสังหารเจ้าไปแล้ว และหากเจ้ายังมีชีวิตอยู้ข้าต้องจัดการเจ้าเป็นแน่

แล้วท่านอาลัก็พูดด้วยเสียงดังแก่เขาว่า

: หายนะจะประสบแก่เจ้า....อบูบักรนั้นนำหน้าฉันอยู่ 4 ประการ ได้แก่ (1) การที่ท่านนบีให้อบูบักรเป็นอิมามนำละหมาด (2) การที่ท่านได้เป็นเคาะลีฟะฮ์ต่อจากท่านเราะซูล (3) การที่อบูบักรได้อยู่ในถ้ำ (กับท่านนบี) ขณะอพยพ และ (4) การเผยแพร่อิสลามของอบูบักร

หายนะประสบกับท่านแล้วสิ เพราะอัลลอฮ์ ตะอาลา ได้ตำหนิผู้คนทั้งหมดยกเว้นอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ พระองค์กล่าวว่า

ความว่า “ ถ้าหากพวกเจ้าไม่ช่วยเหลือเขาแท้จริงอัลลอฮ์นั้นได้ทรงช่วยเหลือเขาแล้ว” (ซูเราะฮ์อัตเตาบะฮ์ อายะฮ์ที่ 40)





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น