มุฮัมมัดศิดดีก อัลมินซาวีย์ : เขียน
นาอีม วงศ์เสงี่ยม : แปล
(จากหนังสือ : 101 เรื่องเล่าจากชีวิต “อบูบักร อัศศิดดีก”)
Jiyah Abdulloh โพสต์
………………………………………..
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั่งล้อมวงอยู่กับเศาะฮาบะฮ์กลุ่มหนึ่ง กำลังพูดคุยและสนนากับพวกเรา
แล้วท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็กล่าวขึ้นว่า
: ใครที่บริจาคทรัพย์สิน 2 ส่วนในหนทางของอัลลอฮ์ เขาจะถูกเรียกจากประตูต่าง ๆ ของสวรรค์ว่า
“โอ้บ่าวของอัลลอฮ์ ! ความดีงามอยู่ตรงนี้ ใครที่เป็นผู้ละหมาดมากก็จะถูกเรียกจากประตูละหมาด ใครที่เป็นมุญาฮิดีนก็จะถูกเรียกจากประตูการทำญิฮาด ใครที่ถือศีลอดบ่อยก็จะถูกเรียกจากประตูอัรร็อยยาน ใครที่ทำทานเป็นประจำก็จะถูกเรียกจากประตูเศาะดะเกาะฮ์”
อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงกล่าวขึ้นว่า
: ขอเอาพ่อแม่ฉันเป็นประกันโอ้ท่านรอซูลครับ ไม่มีความจำเป็นใดที่ใครจะถูกเรียกจากประตูเหล่านั้น (ทั้งหมด) แต่จะมีบ้างไหมที่ใครคนหนึ่งจะถูฏเรียกจากประตูเหล่านั้นทุกบาน
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวว่า
“มีสิ หวังว่าท่านจะเป็นหนึ่งในเขาเหล่านั้น”
.......................................................
**** 15. ไม่มีอะไรนำพวกเราออกมา นอกจากความหิว ***
ขณะดวงอาทิตย์ตระหง่านกลางท้องฟ้า ความร้อนทวีความรุนแรงสาดส่องแผดเผาผืนทราย ช่วงเวลานั้นเองอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้ออกไปยังมัสญิด
เมื่ออุมัร อิบนุค็อฏฏ็อบ เห็นท่านจึงกล่าวว่า
: อบูบักร อะไรนำท่านออกมาในช่วงเวลาแบบนี้ ?
อบูบัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ตอบว่า : ไม่มีอะไรนำฉันออกมานอกจากฉันรู้สึกหิวมา
อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า : ส่วนฉัน ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่าไม่มีอะไรนำฉันออกมานอกจากความหิวเช่นกัน
เมื่อทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้นท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ออกมาแล้วถามทั้งสองว่า : ท่านทั้งสองออกมาทำไมกันในช่วงเวลาเช่นนี้ ?
ทั้งสองกล่าวว่า : ไม่มีอะไรนำเราออกมานอกจากพวกเรารู้สึกหิวเป็นอย่างมากครับ !
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวว่า : ขอสาบานต่อผู้ที่ชีวิตของฉันอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ของพระองค์ ฉันก็ออกมาเพราะความหิวนี้แหละ ลุกขึ้นมาสิไปพร้อมกับฉัน
แล้วทั้งสามท่านก็เดินไปยังบ้านของอบูอัยยูบ อัลอันศอรีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ซึ่งอบูอัยยูบได้เก็บอาหาร หรือนมไว้ให้กับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม วันนั้นท่านนบีได้ไปถึงช้า อบูอัยยูบจึงนำอาหารที่เก็บไว้ไปให้กับครอบครัวของท่าน และเดินทางไปสวนอินทผลัมเพิ้อทำงานที่นั่น
เมื่อทั้งสามท่านได้มาหยุดที่ประตูบ้านอบูอัยยูบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ภรรยาของท่านได้ออกมาแล้วกล่าวว่า : ขอต้อนรับผู้เป็นนบีของอัลลอฮฺและบุคคลที่มาพร้อมกับท่าน
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า : อบูอัยยูบอยู่ไหนล่ะ ?
อบูอัยยูบได้ยินจึงรีบมาอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า : ขอต้อนรับผู้เป็นนบีของอัลลอฮฺและบุคคลที่มาพร้อมกับท่าน! โอ้นบีของอัลลอฮ์ท่านได้มาช้าไปหน่อย
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ส่ายหัวและยิ้มพลางกล่าวว่า : ท่านพูดถูก แล้วอบูอัยยูบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ก็ออกไปเพื่อตัดเอาพวงอินทผลัมที่มีทั้งอินทผลัมแห้ง อินทผลัมสด และอินทผลัมที่ยังไม่สุด
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวด้วยความเอ็นดูว่า
: ท่านจะไม่ตัดเฉพาะอินทผลัมแห้งให้พวกเราอย่างนั้นหรือ ?
อบูอัยยูบ จึงกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า
: โอ้ท่านเราะซูล ฉันอยากให้ท่านได้ทานอินทผลัมทั้งแบบแห้ง แบบสด และที่ยังไม่สุก แล้วฉันจะเชือดแพะให้ท่านทานพร้อมกันด้วย
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
: หากท่านจะเชือดก็อย่าเชือดตัวที่มีน้ำนมมากนะ
แล้วอบูอัยยูบก็นำมีดมาแล้วเชือดมันและกล่าวแก่ภรรยาของท่านว่า
: ทำขนมปังให้พวกเราที
อบูอัยยูบได้แบ่งแพะครึ่งตัวนำไปแกง ส่วนอีกครึ่งตัวนำไปย่าง เมื่ออาหารถูกนำมา และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม รวมถึงสหายทั้งสองของท่านได้รับประทานกันแล้ว ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถึงกับน้ำตาไหลพลางกล่าวว่า : ขนมปัง เนื้อ อินทผลัมทั้งแห้ง สด และยังไม่สุก.....ขอสาบานต่อผู้ที่ชีวิตของฉันอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ของพระองค์ว่าแท้จริงเหล่านี้คือความสุขที่พวกท่านจะต้องถูกถามถึงมันในวันกิยามะฮ์”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น