หลังจากที่ อิหม่ามนะวาวีย์ ยืนยันว่า คนที่จะเป็นผู้ศรัทธานั้น เมื่อเขายึดมั่นต่อศาสนาอิสลาม อย่างมั่นคง
เขาก็คือผู้ศรัทธา ไม่จำเป็นจะต้องเรียนหลักฐานของบรรดานักกะลาม ซึ่งเป็นหลักฐานทางปัญญา ใช้เหตุผลอธิบายเตาฮีด
อิหม่ามนะวาวีย์กล่าวว่า
، خِلَافًا لِمَنْ أَوْجَبَ ذَلِكَ وَجَعَلَهُ شَرْطًا فِي كَوْنِهِ مِنْ أَهْلِ الْقِبْلَةِ ، وَزَعَمَ أَنَّهُ لَا يَكُونُ لَهُ حُكْمُ الْمُسْلِمِينَ إِلَّا بِهِ . وَهَذَا الْمَذْهَبُ هُوَ قَوْلُ كَثِيرٍ مِنَ الْمُعْتَزِلَةِ وَبَعْضِ أَصْحَابِنَا الْمُتَكَلِّمِينَ . وَهُوَ خَطَأٌ
แตกต่าง กับผู้ที่บอกว่า ดังกล่าวนั้น (หมายถึงเรียนหลักฐานของนักกะลาม) เป็นวาญิบ และเขาได้กำหนดให้เป็น เงื่อนไข ในการเป็นมุสลิม (อะฮลุลกิบลัต) และเขาเข้าใจว่า จะไม่ได้รับหุกุมว่าเป็นมุสลิม นอกจากจะต้องรู้หลักฐานของนักกะลาม และนี้คือ มัซฮับ มันคือ ทัศนะของพวกมุอตะซิละฮส่วนมากและส่วนหนึ่งของบรรดาสหายของเรา(หมายถึงอุลามาอฺมัซฮับชาฟิอีบางส่วน) ที่เป็นบรรดานักวิชาการกะลาม(นักวิภาษวิทยา) และมัน คือ ทัศนะที่ผิดอย่างชัดเจน
..................................................
อิหม่ามนะวาวีย อะธิบายว่า พวกที่บอกว่า คนจะเป็นมุสลิมนั้นต้องเรียนรู้หลักฐานของบรรดานักวิภาษวิทยา พวกที่เข้าใจแบบนี้คือ พวกมุอฺตะซิละฮ และพวกนักวิชาการกะลาม และทัศนะดังกล่าวเป็นทัศนะที่ผิดอย่างชัดเจน…
อิหม่ามเฆาะซาลีย(รฺ.ฮ) กล่าวว่า
وليس الطريق في تقويته وإثباته إن يعلم صنعة الجدل والكلام بل يشتغل بتلاوة القرآن وتفسيره وقراءة الحديث ومعانيه. ويشتغل بوظائف العبادات
ไม่ใช่หนทางที่จะให้การศรัทธาแก่กล้าและมั่นคง โดยที่จะต้องเรียนรู้การโต้แย้งและตรรกวิทยา(วิภาษวิทยา) แต่ทว่า(การที่จะให้ศรัทธาแก่กล้ามั่นคงนั้น)ด้วยการอ่านอัลกุรอ่าน ,ตัฟสีรของมัน ,อ่านหะดิษและบรรดาความหมายของมัน และการสาละวนกับการประกอบอิบาดะฮต่างๆ -เอียะยาอุลูมีดดีน 1/94
สรุป ว่า การที่จะให้เป็นมุสลิมที่มีศรัทธาแก่กล้า ก็ให้เรียนอัลกุรอ่าน อัลหะดิษ พร้อมกับทำความเข้าใจความหมาย และพร้อมกับการปฏิบัติอิบาดะฮต่างๆ
والله أعلم بالصواب
..........................
อะสัน หมัดอะดั้ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น