มุฮัมมัดศิดดีก อัลมินซาวีย์ : เขียน
นาอีม วงศ์เสงี่ยม : แปล
(จากหนังสือ : 101 เรื่องเล่าจากชีวิต “อบูบักร อัศศิดดีก”)
………………………………………..
เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เข้ามักกะฮ์ในปีที่พิชิตมักกะฮ์ ท่านได้เห็นพวกผู้หญิงที่ปฏิเสธศรัทธาสาดเหล้าไปที่หน้าของม้า
เห็นเช่นนั้นท่านนบียิ้มพลางมองไปยังอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ แล้วกล่าวว่า
: อบูบักร ฮัซซาน อิบนุษาบิตกล่าวไว้ว่าอย่างไรนะ ?
อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงร่ายกลอนของฮัซซาน ที่กล่าวตำหนิพวกเขา
แล้วท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ยิ้มออกมา
.........................................................
**** 65. การวินิจฉัยปัญหาของผู้ปกครอง *****
หลังจากที่ได้รับสัตยาบันให้เป็นเคาะลีฟะฮ์ (ผู้ปกครองของมวลหมู่มุสลิม) อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กลับมานั่งในบ้านของท่านด้วยความเศร้าเสียใจ อุมัร อิบนุลค็อฏฏอบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้เข้ามาหา อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงลุกขึ้นแล้วตำหนิอุมัรว่า
: ท่านคือคนที่บังคับให้ฉันต้องรับเรื่องนี้
แล้วอบูบักรก็ได้ปรารภกับอุมัรเรื่องที่จะปกครองและใช้การตัดสินกับผู้คน อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงกล่าวแก่ท่านว่า
: ท่านไม่ทราบดอกหรือว่าท่านเราซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เคยกล่าวว่า
“ผู้ปกครองนั้นหากวินิจฉันปัญหาแล้วตรงกับสัจธรรมเขาย่อมได้รับ 2 ความดี และหากเขาได้วินิจฉันแล้วเกิดไม่ตรงกับสัจธรรมเขาย่อมได้รับ 1 ความดี”
.........................................................
***** 66. อบูบัก อบรมลิ้นของตัวเอง *****
วันหนึ่งอุมัร อิบนุลค็อฏฏอบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้ไปหาอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์
...ขณะที่เข้าบ้านไปนั้น ท่านเห็นอบูบักรกำลังนั่งพิงกำแพงอยู่โดยจับปลายลิ้นของตัวเองเหมือนกำลังสั่งสอนเจ้าลิ้นที่ไร้กระดูกนั้น
อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ แปลกใจกับการกระทำของอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงเข้าไปถามว่า
: ท่านทำอะไรหรือโอ้ผู้เป็นเคาะลีฟะฮ์ของท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ? ทำไมท่านต้องอบรมลิ้นของท่านขนาดนี้ด้วย ?
อบูบักรจึงกล่าวหลังจากที่หยุดอิสติฆฟาร ว่า
“ความดีงามและความหายนะต่าง ๆ ที่มายังฉันมิใช่เพราะเจ้าลิ้นนี่อย่างนั้นหรือ !!!”
...............................................
***** 67. อบูบักรเหมาะสมที่จะเป็นเคาะลีฟะฮ์ *****
หลังจากอบูบักร ได้รับตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ อบูซุฟยานได้อกมาหา อาลี อิบนุอบีฏอลิบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ แล้วกล่าวด้วยความโกรธเคืองว่า
: นี่มันอะไรกันทำไมชาวกุเรซจึงต่ำต้อยและด้อยค่าอย่างนี้ (หมายถึง การที่เลือกอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ มาเป็นเคาะลีฟะฮ์)
จากนั้นอบูซุฟยานก็ตะโกนเสียงดังออกมาว่า
: ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ หากท่าต้องการ ฉันจะให้ทั้งม้าและคนกับชาวกุเรซในเรื่องนี้
อาลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงกล่าวว่า
: ท่านยังเป็นศัตรูอิสลามและบรรดามุสลิมอยู่อีกหรือ หากเป็นเช่นนั้นย่อมไม่ให้อันตรายใดแก่อบูบักรได้ ความจริงแล้วพวกเราเห็นว่าอบูบักรคือผู้ที่เหมาะสมที่สุด
.............................................................
***** 68. เจ้าเกือบทำให้ฉันหายนะแล้ว *****
อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ มีเด็กรับใช้อยู่คนหนึ่ง ทุกวันเขจะออกไปทำงานแล้วนำอาหารและพืชผลกลับมาให้ท่าน
วันหนึ่งเด็กคนนี้ได้แบกอาหารกลับมาให้อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ๋ ท่านจึงรับประทานมัน
แล้วเด็กคนนั้นก็กล่าวว่า
: ท่านเคยถามฉันทุกครั้งที่ฉันนำอาหารมาให้ว่า “เจ้านำอาหารนี้มาจากไหน ?”
อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงหันไปกล่าวว่า
: ไม่ทันถามกำลังหิวพอดี แล้วเจ้านำอาหารนี้มาจากไหนล่ะ ?
เด็กรับใช้จึงตอบว่า
: ฉันเคยทำนายให้ชายคนหนึ่งสมัยญาฮีลียะฮ์ ฉัน
ไมได้ทำนายแม่นอะไรหรอก ฉันแค่หลอกเขาเท่านั้น แล้วเขาก็พบฉันและให้อาหารนี้มาเขาบอกว่าสิ่งที่ฉันทำนายไปนั้นถูกต้อง
อบูบักรจึงกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า
: เจ้าเกือบทำให้ฉันหายนะแล้วไง!!!
แล้วอบูบักรก็ล้วงมือเข้าไปในคอแล้วอาเจียนอาหารที่รับประทานไปออกมา
มีคนกล่าวแก่ท่านว่า
: ที่ท่านทำทั้งหมดนี้เพียงเพราะอาหารคำเดียวเนี่ยะนะ !?
อบูบักรจึงกล่าวว่า
: หากมันไม่ออกจากตัวฉันเว้นแต่ต้องออกมาพร้อมกับวิญญาณของฉันแล้ว ฉันก็จะต้องเอามันออกมาให้ได้อยู่ดีเพราะฉันได้ยินเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ทุกส่วนของร่างกายที่เจริญเติบโตขึ้นมาจากสิ่งที่หะรอม นรกย่อมคู่ควรสำหรับมัน” ฉันเกรงว่าจะมีส่วนใดจากอาหารนี้เจริญเติบโนขึ้นมาเป็นร่างกายของฉัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น