อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หากมุฮัมมัดกล่าวเช่นนั้นจริง ท่านก็พูดจริง



มุฮัมมัดศิดดีก อัลมินซาวีย์ : เขียน

นาอีม วงศ์เสงี่ยม : แปล

(จากหนังสือ : 101 เรื่องเล่าจากชีวิต “อบูบักร อัศศิดดีก”)

Jiyah Abdulloh  โพสต์
………………………………………..

สายวันหนึ่ง ขณะที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั่งอยู่ในมัสญิดหะรอม ริมฝีปากของท่านกำลังปะพรมด้วยการรำลึกและกล่าวสดุดีต่ออัลลอฮ์ ตะอาลา เวลานั้นเองอบูญะฮัลผู้เป็นศัตรูของอัลลอฮ์ ได้ออกจากบ้านมาทำอะไรไร้สาระรอบบัยตุลลอฮ์ เมื่อเขาได้เห็นท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงเดินเข้ามาในลักษณะท่าทางที่อวดเบ่งและจองหองพร้อมกับกล่าวเชิงเหยียดหยามล้อเลียนท่านนบีว่า

: มีอะไรใหม่ไหม มุฮัมมัด ?

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงตอบไปว่า

: ฉันได้ถูกนำตัวเดินทางไปเมื่อคืนนี้

อบูญะฮัลจึงหัวเราะเยาะแล้วกล่าวดูถูกท่านว่า

: ไปไหนมาล่ะ ?

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

: ไป “บัยตุบมักดิส” มา !

อบูญะฮัลได้หยุดหัวเราะแล้วเข้าไปใกล้ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กระซิบข้างหูท่านแสดงความแปลกใจว่า

: เจ้าถูกนำตัวไปที่บัยตุลมักดิสเมื่อคืน แล้วเช้านี้กลับมาอยู่กับพวกเราเนี่ยะนะ !!

แล้วเขาก็ถามท่านนบีอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องว่า

: มุฮัมมัด หากข้าจะเรียกรวมผู้คนให้เจ้าพูกับพวกเขาเหมือนที่เจ้าได้พูดกับข้าเอาไหม ?

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

: เอาสิ ! ฉันจะพูดกับพวกเขา

อบูญะฮัลจึงเดินไปอย่างร่าเริงเรียกรวมผู้คนและบอกกับพวกเขาถึงสิ่งที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าว ผู้คนได้รวมตัวกันหนาแน่นด้วยความแปลกใจ เสียงอื้ออึงที่แสดงการเย้ยหยันและเสียงพึมพำที่แสดงความแปลงใจดังระงม

ขณะที่พวกเขาอยู่ในสภาพนั้น มีคนกลุ่มหนึ่งได้ออกไปหาอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ อย่างเงียบ ๆ และบอกท่านถึงสิ่งที่เพื่อนของท่าน ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวถึง พวกเขาปรารถนาให้ทั้งสองท่านแตกแยกกัน และต้องการที่จะกล่าวหาว่าเพื่อของอบูบักรนั้นเป็นคนโกหก

แต่อบูบักรกลับกล่าวตอบพวกเขาว่า

: “หากมุฮัมมัดกล่าวเช่นนั้นจริงท่านก็พูดจริง”

แล้วอบูบักรก็กล่าวต่อไปว่า

: ความจริงแล้วฉันเชื่อท่านนบีในสิ่งที่มากกว่านี้เสียอีก ฉันเชื่อท่านในเรื่องราวแห่งชั้นฟ้าโดยวะฮีย์ได้มายังท่านทั้งยามเช้าและยามเย็น แล้วจะไม่ให้ฉันเชื่อท่านกับเพียงแค่ท่านเดินทางในยามค่ำคืน (อิสรออ์) ไปยังบัยตุลมักดิสอย่างนั้นหรือ?

หลังจากนั้นพวกเขาจึงผละออกจากอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ท่านจึงรีบรุดไปบ้านท่านนบีอย่างรวดเร็วดั่งสายลม พบท่านนบีกำลังสาธยายถึงบัยตุลมักดิสให้พวกเขาฟัง ทุกครั้งที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวสิ่งใดอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ก็จะกล่าวยืนยันว่า

: ท่านพูดจริง.....ท่านพูดจริง

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงขนานนามอบูบักรในวันนั้นว่า

: อัศศิดดีก (แปลว่า ผู้สัจจริง)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น