อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

อิสลามอันสูงส่ง




พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ผู้ทรงให้แสงสว่างแห่งอิสลามนั้นสมบูรณ์ โดยพระองค์ได้ส่งรสูลของพระองค์ พรอ้มอับแนวทางอันเที่ยงธรรม และศาสนาแห่งความจริง ซึ่งไม่มีศาสนาใดๆ หรือแนวทางใดๆ ที่จะทำลายศาสนานี้ได้

พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

هُوَ الَّذِي أَرْسَلَ رَسُولَهُ بِالْهُدَىٰ وَدِينِ الْحَقِّ

“พระองค์นั้นคือผู้ที่ได้ส่งร่อซูลของพระองค์มาพร้อมด้วยคำแนะนำ และศาสนาแห่งสัจจะ...” (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัตเตาบะฮฺ 9:33)

เป้าหมายที่อัลลอฮฺได้ส่งรสูลของพระองค์ คือท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ซึ่งเป็นนบีคนสุดท้ายให้ประกาศศาสนาแห่งความจริง ก็เพื่อให้ศาสนาอิสลามสูงส่งดีเลิศยิ่งกว่าศาสนาอื่นๆ ด้วยหลักฐาน ด้วยการแนะแนวทางที่ถูกต้อง ด้วยการเป็นผู้มีอำนาจ และศาสนาอื่นๆนั้นไม่ผลทางด้านจิตใจ สติปัญญา วัตถุ สังคม และการเมืองการปกครองเหมือนกับอิสลามมี

พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

لِيُظْهِرَهُ عَلَى الدِّينِ كُلِّهِ وَلَوْ

“เพื่อที่จะทรงให้ศาสนาแห่งสัจจะนั้นประจักษ์ เหนือศาสนาทุกศาสนา” (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัตเตาบะฮฺ 9:33)

ท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
“ขอสาบานต่ออัลลอฮฺผู้ที่ชีวิตของฉันอยู่ในเงื่อมพระหัตถ์ของพระองค์ แน่นอนเหลือเกินว่าต่อไปอัลลอฮฺจะให้ศาสนาอิสลามนี้สมบูร์ จนกระทั้งจะปรากฏว่าสตรีสามารถขี่อูฐมาจากเมืองฮียฺเราะฮฺไปฏอวาฟบัยตุลลฮฮฺได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องกลัวใครจะทำอันตราย และคลังสมบัติของกิสรออิบนิฮุรมุซ (จักพรรดิเปอร์เซีย) จะถูกพิชิต”..(รายงานหะดิษดดยท่านอะดียฺ อิบนิ ฮาติม ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ บันทึกหะดิษโดยอิมามอะหฺมัด)

ท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
“แน่แท้กิจการนี้(หมายถึงสาสนาอิสลาม) จะไปถึงสิงที่กลางคืนและกลางวันไปถึงอย่างแน่นอน และอัลลอฮฺจะไม่ปล่อยบ้านหลังใดไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือชนบท นอกจากพระองค์ให้บุคคลในบ้านนั้นๆเข้ารับศาสนานี้ ไม่ว่าด้วยความสมัครใจ ซึ่งเป็นเกียรติที่อัลลอฮฺทรงประทานให้อิสลาม หรือไม่ด้วยความจำใจ ซึ่งเป็นความอัปยศที่อัลลอฮฺทรงให้แก่การปฏิเสธศรัทธา” (บันทึกหะดิษโดยอิมามอะหฺมัด อิมามอัฏฏ็อบรอนีย์ และอิมามอิบนิฮิบบาน)

พระองค์อัลลอฺจะทำให้ศาสนาของพระองค์สมบูณณ์ และเหนือศาสนาอื่นๆของผู้ปฏิสธศรัทธา ถึงแม้ว่าว่าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและบรรดาผู้ตั้งภาคีเกลียดชังก็ตาม

พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

كَرِهَ الْمُشْرِكُونَ

“แม้บรรดาผู้ตั้งภาคีเกลียดชังก็ตาม”
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัตเตาบะฮฺ 9:33)


هُوَ الَّذِي أَرْسَلَ رَسُولَهُ بِالْهُدَىٰ وَدِينِ الْحَقِّ لِيُظْهِرَهُ عَلَى الدِّينِ كُلِّهِ وَكَفَىٰ بِاللَّهِ شَهِيدًا ( 28 )
พระองค์คือผู้ทรงส่งร่อซูลของพระองค์พร้อมด้วยแนวทางที่ถูกต้องและศาสนาแห่งสัจธรรมเพื่อพระองค์จะทรงให้ศาสนา (ของพระองค์) นั้นประจักษ์แจ้งเหนือศาสนาอื่นทั้งมวล และพอเพียงแล้วที่อัลลอฮฺทรงเป็นพยาน
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-ฟัตห์ 48:28)

هُوَ الَّذِي أَرْسَلَ رَسُولَهُ بِالْهُدَىٰ وَدِينِ الْحَقِّ لِيُظْهِرَهُ عَلَى الدِّينِ كُلِّهِ وَلَوْ كَرِهَ الْمُشْرِكُونَ ( 9 )
พระองค์คือผู้ทรงส่งร่อซูลของพระองค์ด้วยการชี้นำทางและศาสนาแห่งสัจธรรมเพื่อพระองค์จะทรงให้ศาสนาอิสลามอยู่เหนือศาสนาทั้งมวล ถึงแม้พวกตั้งภาคีจะเกลียดชังก็ตาม”
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัศ-ศ็อฟ 61:9)



والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น