อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

มัสยิดบ้านของอัลลอฮฺ




มัสยิดบ้านของอัลลอฮฺ เป็นสถานที่ทำอิบาดะฮฺต่อพระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา เพียงพระองค์เดียว ทั้งในการปฏิบัติละหมาดฟัรฎู 5 เวลา การซิกรุลลอฮฺ สรรเสริญพระองค์อัลลอฮฺ การอ่านอัลกุรอาน และศึกษาทำความเข้าใจจากคัมภีร์หรือเรื่องอื่นๆที่เป็นสิ่งดีๆ หรือเพื่อสอนอัลกุรอานหรือเรื่องอื่นๆที่เป็นสิ่งดีๆให้แก่ผู้อื่นนั้น เป็นต้น

รายงานจากท่านอนัส อิบนิ มาลิก ร่อฎียัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่าท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
“แท้จริงบรรดาบรรดามัสยิดนั้น สำหรับการกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺผู้ทรงเกียรติและทรงยิ่งใหญ่ และสำหรับการละหมาด และการอ่านอัลกุรอาน” (บันทึกหะดิษโดยอิมามบุคอรีย์ และมุสลิม)

รายงานจากท่านอบีฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮ์ เล่าว่า แท้จริง ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
“กลุ่มชนที่ชุมนุมกันในบ้านหลังหนึ่งจากบรรดาบ้านของอัลลอฮฺ โดยอ่านคัมภีร์ของอัลลอฮฺ และต่างศึกษาหาความเข้าใจซึ่งกันและกันจากคัมภีร์ จิตใจของพวกเขาจะมีความสงบ และอัลลออฺจะปรารถนาความเมตตาแก่พวกเขา และบรรดามะลาอีกะฮฺห้อมล้อมพวกเขา และทั้งอัลลอฮฺก็จะทรงกล่าวถึงพวกเขาในหมู่ที่อยู่ ณ ที่พระองค์ (คือในหมู่มะลาอิกะฮฺ)” (บันทึกหะดิษโดยอิมามมุสลิม และอิมามอบูดาวูด และนักรายงานหะดิษอื่นๆ)

รายงานจากท่านอบีฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮ์ เล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
“ผู้ใดเข้ามัสยิดของเรานี้ เพื่อศึกษาสิ่งดีๆ และเพื่อจะสอนสิ่งดีๆนั้น (แก่ผู้อื่น) เขาผู้นั้นก็เป็นเสมือนผู้ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ (คือนักรบในสใรภูมิ) และผู้ใดเข้าไปเพื่อื่นจากนั้นแล้ว เขาผู้นั้นก็เสมือนผู้ที่ส่องดูแลสิ่งที่ไม่ใช่สิทธฺของเขา” (บันทึกหะดิษโดยอิมามอะหฺมัด และอิมามอิบนุมาญะฮฺ)

والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น