อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ต่างขอดุอาอ์




การตามอิมามในขณะละหมาดนั้น ศาสนากำหนดให้เริ่มตามตั้งแต่อิมามตักบีรฺเราะตุลอิหฺรอม และสิ้นสุดการตามเมื่ออิมามให้สลามเสร็จแล้ว

ภายหลังละหมาดฟัรฺฎูเสร็จแล้ว อิมามจะขอดุอาอ์ ก็เป็นเรื่องของอิมาม เราในฐานะมะมูมจะขอดุอาอ์ก็ขอส่วนตัวของเราไม่เกี่ยวกับอิมาม, จะลุกไปละหมาดสุนนะฮฺ หากว่ามีละหมาดสุนนะฮฺหลังฟัรฺฎู หรือจะรีบออกไปทำธุระส่วนตัว ล้วนเป็นสิทธิอันชอบธรรมทั้งสิ้นไม่เกี่ยวกับอิมามแต่อย่างใดทั้งสิ้น

การขอดุอาอ์นั้นเป็นอิบาดะฮฺ ต้องเกิดจากความบริสุทธิ์ใจ ขอจากใจจริง แต่ถ้าเราไม่รู้ ไม่ทราบความหมายของมัน แล้วเราจะรู้ไหมว่า เราขอสิ่งใด เราขอเพื่ออะไร เหมือนคนที่ไม่เข้าใจภาษาที่คนอีกคนหนึ่งพูดกับเรา แล้วเราก็พยักหน้ารับ แต่ไม่ทราบเลยว่าเขาพูดอะไรกับเรา ทั้งแต่ละคนอาจมีความต้องการในการขอดุอาอ์ไม่เหมือนกัน อีกคนหนึ่งต้องการอย่างหนึ่ง แต่อีกคนก็มีความต้องอีกอย่าง ในแต่ละครั้งที่เรากล่าวอามีน ตามที่อีกคนหนึ่งได้กล่าวออกมาให้ได้ยิน หรือไม่ได้ยิน เราจะทราบไหมว่าเขากล่าวอะไรรออกไปบ้าง...???

ฉะนั้นการขอดุอาอฺหลังละหมาดฟัรฺฎูเป็นสิทธิของแต่ละบุคคลต่างคนต่างทำต่างคนต่างขอไม่เกี่ยวข้องกัน

والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น