ความสำคัญในการเรียนรู้หลักการศาสนบัญญัติของศาสนาอิสลาม เป็นพื้นฐานการปฏิบัติศาสนกิจของมุสลิมทุกคน
และการศรัทธาของมุสลิมนั้น จะไม่สมบูรณ์ ตราบใดที่ไม่มีการปฏิบัติออกมา ซึ่งการศรัทธา ต้องประกอบไปด้วยความเชื่อบริสุทธิ์ออกมาจากใจจริง , คำพูด และการปฏิบัติท่าทางด้วยส่วนของร่างกาย
ท่านอิมามบุคอรีย์ ร่อหิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวไว้ว่า
“การศรัทธานั้น คือการแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำ หมายถึง คำว่าศรัทธาในอิสลามต้องประกอบด้วย 3 ประการ คือ
1) เชื่อด้วยใจ
2) พูดด้วยปาก และ
3) ปฏิบัติด้วยกาย
ดังกล่าวเป็นหลักยึดมั่นของอะฮฺลุสสุนนะฮฺ
ซึ่งต่างกับพวกมุนาฟิก พวกผู้ไหว้หลังหลอก ที่ขาดข้อแรก ซึ่งมีแต่คำพูดและการปฏิบัติแต่ใจหาศรัทธามั่นไม่
และต่างกับกลุ่มมุรญิอะฮฺ ที่ไม่นับข้อสาม มีความเชื่อ พูดด้วยปาก แต่ไม่มีการปฏิบัติ
และกลุ่มอัลกัรรอมียะฮฺที่นับแต่ข้อสอง นั้นคือ ไม่เชื่อ ไม่ปฏิบัติ มีแต่คำพูด
ส่วนอัลมัวะอฺตะซิละฮฺ ก็ยึดทั้ง 3 ประการเช่นเดียวกับอะฮฺลุสสุนนะฮฺ แต่ต่างกันที่มุมมองปฏิบัติทางกาย พวกเขามองว่าการปฏิบัติเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้ให้อิมาน “ถูกต้องใช้ได้”
ขณะที่อะฮิลุสสุนนะฮฺถือว่าเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้อีมาน “สมบูรณ์”
ท่านอัลฮาฟิซ อิบนุ ฮะญัร ระบุไว้ว่า
“อีมานที่ต้องมี 3 สิ่งนี้ เป็นประเด็นระหว่างบ่าวกับอัลลอฮฺ
แต่หากเป็นประเด็นระหว่างมนุษย์ด้วยกันให้ถือเอาตามคุณลักษณะที่ปรากฏภายนอก หมายถึงหากมีผู้กล่าวปฏิญาณตนอย่างถูกต้องแล้วก็ให้ถือว่าผู้นั้นเป็นมุสลิม มีสิทธิและหน้าที่เหมือนกับมุสลิมทุกประการ
ส่วนในทางลับจะเป็นเช่นไรให้อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา เป็นผู้ตัดสินเท่านั้น
ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม เคยคัดค้านการกระทำของท่านอุซามะฮฺ อิบนุ ซัยดฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮ์ ที่สังหารผู้ที่กล่าวปฏิญาณระหว่างสงคราม โดยอ้างปัจจัยแวดล้อมว่าการปฏิญาณที่เกิดขึ้นนั้นเพื่อรักษาชีวิตตนเอง ท่านนบี ศ็อลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัมอแย้งว่า
“ท่านแหวกใจเขาดูหรือ?” (บันทึกหะดิษโดยอิมามอัลบุคอรีย์ และมุสลิม)
ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ก็ปฏิบัติกับมุนาฟิกในเมืองมาดีนะฮฺเฉกเช่นที่ปฏิบัติต่อมุสลิมอื่นๆ แม้มีศอหาบะฮฺขออนุญาตสังหารพวกเขา แต่ท่านกล่าวว่า
“บุคคลพวกนี้ คือพวกที่อัลลอฮฺห้ามทำอะไรพวกเขา” (บันทึกหะดิษโดยอิมามอะหฺมัด)
والله أعلم بالصواب
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น