อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ไม่มีการปรองดองระหว่างซุนหนี่ชีอะฮฺ




ผมเป็นคนหนึ่งที่เป็นแกนนำเรียกร้องความปรองดองระหว่างซุนหนี่-ชีอะฮฺ ผมใช้เวลาหลายปีเพื่อให้ภารกิจนี้สำเร็จลุล่วง ผมตระเวนเข้าร่วมประชุมสัมมนาในหัวข้อนี้ทั้งที่ ริบาฏ เตหะราน ซีเรีย บาห์เรน กาตาร์ ผมไปเยี่ยมบรรดาผู้นำชีอะฮฺที่อิหร่านแม้กระทั่งประธานาธิบดีอิหร่าน พวกเขาต้อนรับผมด้วยมิตรไมตรีดียิ่ง ผมใช้เวลานานพอสมควร แต่สุดท้ายพบว่าฝ่ายเดียวที่รับประโยชน์จากความปรองดองนี้คือชีอะฮฺ ส่วนซุนหนี่แล้วไม่ได้รับประโยชน์อะไร เข้าทำนองเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองแถมเอากระดูกแขวนคอ ผมไปที่ซีเรียและร่วมหารือประเด็นนี้ ปรากฎว่าหลังจากนั้น ชีอะฮฺก็ไปสร้างสถานบูชามากมายทั่วซีเรีย แม้กระทั่งในชุมชนที่ไม่มีชาวชีอะฮฺแม้แต่คนเดียว พวกเขาทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อการนี้โดยเฉพาะ มีบุคคลที่พร้อมทำงานด้านนี้เป็นการเฉพาะ พวกเขาพร้อมรุกชาวซุนนะฮฺตลอดเวลา ชาวซุนนะฮฺถูกรุกรานภายในบริเวณบ้านของตนเอง ในช่วงแรกผมระมัดระวังไม่ค่อยพูดประเด็นที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนนี้มากนัก แต่ภายหลังผมต้องออกมาพูดบ้าง ชีอะฮฺไม่สามารถฉวยโอกาสช่วงที่ชาวซุนนะฮฺหลงลืมนี้เพื่อขยายอิทธิพลของตนเองในสังคมซุนหนี่ เราไม่ค่อยสอนชาวซุนนะฮฺให้รู้ถึงพิษภัยชีอะฮฺ ความจริงเราขัดแย้งในประเด็นอะกีดะฮฺด้วยซ้ำ เรามีความเชื่อในประเด็นอัลกุรอาน เศาะฮาบะฮฺและอุมมะฮาตุลมุมินีนที่ต่างกันอย่างชัดเจน เราไม่เคยใส่ใจในประเด็นนี้เลย ดังนั้นนับตั้งแต่นี้ เราต้องบอกชาวซุนนะฮฺให้รู้เท่าทันชีอะฮฺในประเด็นนี้ด้วย พวกเขามีเงินหลายพันล้านที่พร้อมหว่านให้กับเหยื่อชาวซุนหนี่ เพื่อทำให้ผู้คนเปนชีอะฮฺ ทั้งๆที่มุสลิมดั้งเดิมอยู่บนหลักการซุนนะฮฺ มีเพียงไม่ถึง 10% เท่านั้นที่เป็นชีอะฮฺ ผมจึงเริ่มพูดประเด็นนี้ พวกเขาจึงใส่ร้ายผมต่างๆ นานา ทั้งที่ก่อนหน้านี้พวกเขาให้เกียรติผมมาก ผมไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น และผมไม่เคยเกรงกลัวคำวิพากษ์วิจารณ์ของมนุษย์ตราบใดที่ผมเชื่อว่าผมอยู่บนหลักการของอัลลอฮฺ ใช่..ที่อิยิปต์ในยุคฟาฏิมีย์ มุสลิมบางส่วนอาจรับอิทธิพลของชีอะฮฺบ้าง แต่เมื่อเศาะลาฮุดดีนกลับมายึดอิยิปต์อีกครั้ง ผู้คนก็หันมาเชื่อศรัทธาตามหลักของชางซุนนะฮฺเหมือนเดิม ไม่มีชีอะฮฺแม้เพียงคนเดียว แม้กระทั่งชาวชีอะฮฺญะฟะรีย์ก็ศรัทธาตามชาวซุนนะฮฺทุกประการ เหตุการณ์เป็นเช่นนี้จนกระทั่งถึงยุคโคไมนี

เราจะปรองดองได้อย่างไร ในขณะที่ผมถูกหักหลังมาโดยตลอด พี่น้องของผมถูกเชือดฆ่าทุกเช้าเย็น บางครั้งคุณไปเอาจีนและรัสเซียมาเข่นฆ่าพี่น้องของผมที่ซีเรีย แล้วเรายังมีเวลาพูดเรื่องปรองดองกันอีกไหม
ไม่มีทาง
http://www.youtube.com/watch?v=W7V8vPT-ffw

ขอบคุณมากที่ท่านซอลาฮุดดีนแสดงจุดยืนว่าชีอะห์ที่ด่าภรรายาของท่านนบีนั้นเป็นกาฟิร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น